รองประธานสภา เผย “สมศักดิ์” บรรจุ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาไปตามระเบียบวาระ แต่เชื่อยังไม่มีการพิจารณาในช่วงนี้ ส่วนการใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ต้องขอเสียงสนับสนุน จะขอเลื่อนเฉยๆ ไม่ได้ อีกด้าน ประธานวุฒิฯ เผยพิจารณาร่างแก้ รธน.ไม่น่ามีปัญหา ชี้ ปชป.ค้านไม่เต็มเสียง หนุนแก้มาตรา 237
วันนี้ (24 มี.ค.) นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งบรรจุร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ของนายนิยม วรปัญญา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย และคณะ เข้าสู่วาระการประชุมสภา วันที่ 27 มี.ค.นี้ ว่า เป็นการจัดตามระเบียบวาระ เมื่อมีผู้เสนอร่าง พ.ร.บ. เข้ามา หากตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องไม่มีปัญหาก็ต้องบรรจุ เพื่อพิจารณาไปตามวาระไป
เมื่อถามว่าจะมีการขอเลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาก่อนไปพร้อมกับร่างของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และคณะที่ค้างอยู่ในวาระด้วยเลยหรือไม่ นายเจริญตอบว่า ขึ้นอยู่กับสมาชิกในที่ประชุมจะเห็นควรอย่างไร แต่คิดว่ายังไม่มีการพิจารณาในช่วงนี้ เมื่อถามย้ำว่าหาก ส.ส.จะใช้เอกสิทธิ์ขอเลื่อนขึ้นมา นายเจริญ ตอบว่า ตนเชื่อว่าจะไม่มีการเลื่อน และสมัยประชุมนี้ก็คงยังไม่ได้พิจารณา การใช้เอกสิทธิ์ของ ส.ส.ต้องขอเสียงสนับสนุนจากเพื่อนสมาชิกในห้องประชุม ซึ่งก็มีรูปแบบการทำงานอยู่ จะขอเลื่อนเฉยๆ ไม่ได้ ผู้เสนอร่างต้องคุยกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ก่อน และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการพูดคุยหารืออะไรกัน
ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันที่ 1-2 เม.ย.นี้ ว่า ขณะนี้รายชื่อที่ร่วมลงชื่อทั้งหมด 300 กว่าคน จาก ส.ว.62 คน และ ส.ส.250 คน เพราะฉะนั้นในการพิจารณาในวันดังกล่าวไม่น่าจะมีปัญหา เชื่อว่าผ่านได้ เพราะการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งมาตรา 190 และมาตรา 237 สามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่ประโยชน์คนใดคนหนึ่ง รวมทั้งฝ่ายค้านเองก็คงค้านไม่เต็มเสียง หรือว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับการที่จะแก้ไขมาตรา 237