ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -สบายใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ดอกเบี้ย 3 ล้านล้านบาทซึ่งบรรดา ส.ส.ผู้มีเกียรติยกมือให้ความเห็นชอบในวาระที่ 1 สมใจนายใหญ่ของคนเสื้อแดง เราคนไทยที่เป็นเสียงข้างน้อยคงต้องก้มหน้ารับกรรมกันต่อไปตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยที่เขายกมากล่าวอ้าง
อย่างไรก็ดี นอกจากความกลุ้มใจที่ต้องแบกรับหนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อแล้ว ดูเหมือนว่า ปัจจุบัน ชีวิตของคนเราทุกวันนี้ยังต้องเผชิญกับเรื่องร้ายๆ ไม่หยุดไม่หย่อนและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกคณานับ หนึ่งในนั้นก็คือ พิษโลหะหนัก เช่น ปรอท ตะกั่ว สารหนู แคดเมียม โคบอลต์ ฯลฯ ซึ่งแทรกตัวอยู่ในวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันราวกับเป็นวิญญาณร้าย
อันตรายของโลหะหนักเหล่านี้อยู่ตรงที่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของเซลล์ ทำให้เซลล์ตาย เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม รวมถึงเป็นตัวการของการก่อมะเร็ง
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเสี่ยงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เราสามารถบรรเทาหรือลดความรุนแรงของพิษจากโลหะหนักได้ โดยในทางแพทย์แผนไทย มีสมุนไพรหลายชนิดที่สามารถมาใช้เพื่อการนี้ได้
อาทิ
ขมิ้นชัน ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ คือ สารเคอร์คูมิน(curcumin) โดยจากการศึกษาพบว่า ขมิ้น ดีกับระบบการป้องกันพิษของแคดเมียมต่อลำไส้ ป้องกันพิษตะกั่วและ แคดเมี่ยมต่อสมอง พิษของแคดเมี่ยมต่อไต ดังนั้น ผู้ที่อยู่ภายใต้สภาพมลภาะควรหาขมิ้นกินให้ได้ทุกวัน ครั้งละ 1 ช้อนชา วันละครั้ง
กระเทียม มีรายงานการศึกษาพบว่า การทดลองกระเทียมมีฤทธิ์ป้องกันและรักษาแคดเมี่ยม และตะกั่วไม่ให้ไปมีผลต่อไต และอวัยวะต่าง ๆ ของหนูทดลอง และช่วยปรับระดับภูมิคุ้มกันในหนูที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่ำหลังจากที่ได้รับตะกั่วและแคดเมียม ดังนั้น เราจึงควรรับประทานกระเทียม อย่างน้อยวันละ 7 - 8 กลีบ
มะขามป้อม มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีการใช้เป็นยาอายุวัฒนะและบำรุงร่างกายมาอย่างยาวนาน ทั้งยังช่วยแก้ไอได้ดี มีรายงานการวิจัยพบว่า การให้ผลมะขามป้อมบดในขนาด 50 กรัมต่อน้ำหนักตัว หนู 1 กิโลกรัม พร้อมอาหาร มีผลลดการเกิดพิษของตะกั่วต่อตับและไตในหนูทดลองได้ นอกจากนี้ มะขามป้อมยังป้องกันการเกิดสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากการได้รับปรอท ดังนั้น การรับประทานมะขามป้อมเป็นประจำวันทุกวันนั้นเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่อยู่กับมลพิษ
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเรื่องสมุนไพรสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โทร 037 211 289
มาที่ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจกันบ้าง...
ข่าวแรกมาจากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งประกาศผลผู้ชนะเลิศโครงการประกวดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ “ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์ ครั้งที่ 8” ภายใต้แนวคิด “ทะยานสู่ฝัน ขับเคลื่อนพลังคิด(ส์)” เรียบร้อยแล้ว โดยปีนี้ ผู้ชนะเลิศ ระดับประถมต้น ได้แก่ ด.ญ.สุชาดา วิริยะพรศรี จากผลงาน "ก้อนเมฆส่งจดหมาย" รางวัลชนะเลิศ ระดับประถมปลาย ได้แก่ ด.ช.วริท วิจิตรวรศาสตร์ จากผลงาน "ตู้เพื่อแม่ (ตู้รีดผ้าอัตโนมัติ)" ทั้งนี้ผู้ได้รับรางวัลจะได้รับโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษาและรางวัลเข้าร่วมค่ายเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น “ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คิดส์" เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ระหว่างเยาวชนไทยและญี่ปุ่น ที่บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น
ข่าวที่สอง เจ้าชายฟิลลิป มกุฎราชกุมารเบลเยี่ยม เสด็จเยี่ยมชมการดำเนินงานของ บริษัท วีนิไทย จำกัด(มหาชน) โดยมีนายฌอง-ปิแอร์ คลามา ดีเออ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโซลเวย์ นายบรูโน ฟาน เดอร์วีเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีนิไทย จำกัด(มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกลุ่มบริษัทในเครือโซลเวย์และบริษัท วีนิไทย จำกัด(มหาชน) ร่วมถวายการต้อนรับ ณ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เมื่อเร็วๆ นี้
และปิดท้ายกันที่นายรัตน์ สันตอรรณพ กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานก่อสร้าง 1 บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) พร้อมด้วย ดร.อนุกูล ตันติมาสม์ กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรมนุษย์และบริหารทั่วไป ร่วมมอบทุนการศึกษาแก่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น จำนวน 120,000 บาท ณ อาคารวิริยะถาวร เมื่อเร็วๆ นี้
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ...
คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน
พี่กับน้อง
“อยากจะบอกว่า เรื่องนี้ของหยูหัว ร้ายจริงๆ แค่เริ่มต้นเพียงหน้าเดียว ดิฉันก็ทั้งตื่นใจ ทั้งอยากอาเจียน เพราะเรื่องพี่กับน้องของนายหยูหัวขึ้นต้นด้วยฉากการแอบดูก้นผู้หญิงในส้วมสาธารณะในสมัยที่ยังเป็นส้วมหลุม อะโห แล้วทำไมดิฉันจะไม่อยากอาเจียนล่ะ ....เพราะนักเขียนเปิดเรื่องด้วยส้วมนี้เองที่ทำให้ดิฉันต้องตามอ่านต่อไป จะมีนักเขียนสักกี่คนในโลกที่พาตัวละครมาสู่มาความสะอิดสะเอียนได้เท่านี้”
นั่นคือความเห็นของ ชมัยภร แสงกระจ่าง ในคำนิยมต่อนวนิยายเรื่อง “พี่กับน้อง” เอาไว้ในบางช่วงบางตอน ซึ่งถือเป็นคำเชิญชวนที่อดทำให้หยิบผลงานที่มีความยาวรวม 900 หน้าของนักเขียนจีนอย่าง “หยูหัว” ขึ้นมาอ่านและซื้อเก็บไว้ในครอบครองไม่ได้
ที่สำคัญคือเมื่ออ่านแล้วก็เห็นคล้อยตามคำนิยมของชมัยภร แสงกระจ่างไม่ได้ เนื่องเพราะแม้จะมีขนาดยาว แต่เนื้อเรื่องเข้มข้นชวนให้ติดตาม โดยเปิดเรื่องตั้งแต่ยุคปฏิวัติวัฒนธรรมของจีนและมาจบลงด้วยยุคที่จีนกำลังก้าวไปสู่ความเป็นทุนนิยมเช่นปัจจุบัน ซึ่งหลายๆ อย่างดูไปแล้วก็คล้ายกับสังคมใกล้ตัวเราอย่างไม่น่าเชื่อ
กล่าวสำหรับหยูหัวนั้น ถือเป็นนักเขียนระดับเบสต์เซลเลอร์จากจีนแผ่นดินใหญ่ เรียนจบด้านทันตแพทย์และเคยทำงานเป็นหมอฟันอยู่หลายปีก่อนตัดสินใจเปลี่ยนมาทำงานเขียนในปี 1984 เพราะรู้สึกว่า เป็นอิสระและได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์มากกว่า
กับผลงานเรื่องพี่กับน้อง ต้องบอกว่า ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดผลงานของเขาที่ขายดีและสะเทือนอารมณ์คนทั่วโลกมาแล้ว ....ด้วยเหตุดังกล่าวจึงขอแนะนำให้ไปซื้อหามาอ่านกันโดยพลัน
ลุงอ้วน
managerweekend@yahoo.com