xs
xsm
sm
md
lg

มาตรา 112 ไม่ได้ทำร้ายใคร

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลาดุสิดาลัย เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2548 มีความตอนหนึ่งว่า

“เรื่องที่มีแล้วเค้าก็บอกในหนังสือพิมพ์ ในวิทยุ ในโทรทัศน์ บอกว่า ที่ เดอะคิง ทำอะไร เค้าไม่วิจารณ์ แล้วก็บอก อย่าวิจารณ์ ที่จริงอยากให้วิจารณ์ เพราะว่าเราทำอะไรก็ต้องรู้ว่าเค้าเห็นดีหรือไม่ดี ถ้าไม่พูด ก็หาว่าทำดีแล้ว แต่แท้จริงที่พูด ที่ออกข่าว ให้สัมภาษณ์ บอกว่า อย่าไปวิจารณ์เดอะคิง ต้องบอกว่าอย่าไปวิจารณ์พระเจ้าอยู่หัว เพราะว่าไม่ควร ในรัฐธรรมนูญ ก็มีอยู่ว่า ละเมิดมิได้ นักกฎหมายก็พยักหน้าอีกแล้ว ว่าถูกต้อง ว่าไม่ควรจะวิจารณ์ วิจารณ์ไม่ได้ ละเมิดไม่ได้ แต่ถ้าพูดว่า พระเจ้าอยู่หัวทำถูก พูดถูก ไม่ใช่ละเมิด ถ้าพูดภาษาอังกฤษ ก็ แอพปรู๊ฟพระเจ้าอยู่หัวเห็นชอบด้วย แต่ไม่เคยมีใครมาบอกว่า เห็นชอบด้วย ว่าพระเจ้าอยู่หัวๆ พูดดี พูดถูก แต่ว่าความจริงก็จะต้องวิจารณ์บ้างเหมือนกัน และก็ไม่กลัวถ้าใครมาวิจารณ์ว่าทำไม่ดีตรงนั้นๆ จะได้รู้ เพราะว่า ถ้าบอกว่า พระเจ้าอยู่หัว ไปวิจารณ์ท่านไม่ได้ ก็หมายความว่าพระเจ้าอยู่หัว ไม่เป็นคน ไม่วิจารณ์ เราก็กลัวเหมือนกัน ถ้าบอกว่า ไม่วิจารณ์ แปลว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ดี รู้ได้อย่างไร ถ้าเค้าบอกว่าไม่วิจารณ์พระเจ้าอยู่หัวๆ เพราะพระเจ้าอยู่หัวดีมาก ไม่ใช่อย่างนั้น

บางคนอยู่ในสมองพระเจ้าอยู่หัวพูดชอบกล พูดประหลาดๆ ถ้าขอเปิดเผยว่า วิจารณ์ตัวเองได้ ว่าบางทีก็อาจจะผิด แต่ให้รู้ว่าผิด ถ้าเค้าบอกว่า วิจารณ์พระเจ้าอยู่หัวว่าผิดนั้น ขอทราบว่าผิดตรงไหน ถ้าไม่ทราบเดือดร้อน ฉะนั้นที่บอกว่าการวิจารณ์เรียกว่า ละเมิด พระมหากษัตริย์ ให้ละเมิดได้ และถ้าเค้าละเมิดผิด เค้าก็ถูกประชาชนบอมบ์ ว่างั้น คือเป็นเรื่องขอให้เค้ารู้ว่าวิจารณ์อย่างไร ถ้าเค้าวิจารณ์ถูกก็ไม่ว่า แต่ถ้าวิจารณ์ผิดไม่ดี แต่ถ้าเมื่อบอกว่าไม่ให้วิจารณ์ ละเมิดไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญก็ว่าอย่างนั้น ก็ลงท้ายพระมหากษัตริย์ ลำบากแย่ อยู่ในฐานะลำบาก เพราะแสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่ให้วิจารณ์ ก็หมายความว่า พระเจ้าอยู่หัวนี้ต้องวิจารณ์ ต้องละเมิด แล้วไม่ให้ละเมิดพระเจ้าอยู่หัวเสีย พระเจ้าอยู่หัวเป็นคนไม่ดี ซึ่งถ้าคนไทยด้วยกัน หนึ่งไม่กล้า สองไม่เอ็นดูพระเจ้าอยู่หัว ไม่อยากละเมิด

แต่มีฝ่ายชาวต่างประเทศมีบ่อยๆ ละเมิดพระเจ้าอยู่หัว ละเมิดเดอะคิง แล้วเค้าก็หัวเราะเยาะ ว่า เดอะคิงพระของไทยแลนด์ เดอะคิงของยู พวกคนไทยทั้งหลายเป็นคนแย่ ละเมิดไม่ได้ ในที่สุดถ้าละเมิดไม่ได้ ก็เป็นคนเสีย เป็นคนที่เสีย ฉะนั้นบางโอกาสขอให้ละเมิดจะได้รู้กัน ว่าใครดีไม่ดี นี่พูดเลยเถิด พูดมากไป แต่ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าไม่ต้องกลัว เพราะว่าไม่ได้มีความผิด คนที่นึกว่ามีความผิดพยักหน้า พยักหน้าว่ามีความผิดจริงๆ ความจริงเค้าไม่มีความรับผิดชอบ คนที่มาก่อนนะมีความผิด แล้วคนที่พยักหน้าไม่ได้แก้ไข นี่ผิดตรงนี้ ไม่ได้แก้ไข หลบความรับผิดชอบ มันเป็นอย่างนั้น”

พระราชดำรัสครั้งนั้น ในหลวงทรงชี้ว่า พระมหากษัตริย์นั้นก็เป็นคนทำถูกได้และทำผิดได้ และพร้อมจะยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมจะให้ถูกละเมิดแต่ถ้าผู้ละเมิด ละเมิดผิดก็จะถูกประชาชนบอมบ์

ผมนึกถึงพระราชดำรัสที่ยกมาหลังจากที่สังคมเซ็งแซ่กับรายการตอบโจทย์ที่เอาการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทและสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์มาพูดครั้งแรกผ่านจอทีวีทางช่องไทยพีบีเอส โดยมีประเด็นสำคัญคือ

เรียกร้องให้ 1. ยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 8 เพิ่มมาตราในลักษณะเดียวกับรัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 (สภาพิจารณาความผิดของกษัตริย์) 2. ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 3. ยกเลิกองคมนตรี 4. ยกเลิก พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2491 5. ยกเลิกการประชาสัมพันธ์ด้านเดียวทั้งหมด การให้การศึกษาแบบด้านเดียวเกี่ยวกับสถาบันทั้งหมด 6. ยกเลิกพระราชอำนาจ ในการแสดงความเห็นทางการเมืองทั้งหมด (4 ธันวา, 25 เมษา “ตุลาการภิวัฒน์” ฯลฯ) 7. ยกเลิกพระราชอำนาจในเรื่องโครงการหลวงทั้งหมด 8. ยกเลิกการบริจาค/รับบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทั้งหมด

มีคนชี้ว่าข้อเสนอ 8 ข้อผ่านรายการตอบโจทย์ของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และการขานรับของส.ศิวรักษ์นั้น น่าจะก้าวพ้นการวิพากษ์วิจารณ์ แต่เป็นการเรียกร้องให้ลดทอนบทบาทสถานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ผมโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่องมาตรา 112 ว่า

หลักกฎหมายอาญามีว่า “ไม่มีความผิด และไม่มีโทษ โดยไม่มีกฎหมาย” คือ กฎหมายอาญาต้องบัญญัติให้ชัดเจนแน่นอน และกฎหมายอาญาไม่มีผลย้อนหลัง

กฎหมายอาญา มาตรา 112 บัญญัติว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

ซึ่งตัวบทของกฎหมายมาตรานี้ไม่ได้ห้ามไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด ถ้าการวิพากษ์วิจารณ์นั้นไม่เข้าข่ายการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์

หรือว่าขบวนการสาธารณรัฐไม่เพียงแต่ต้องการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น แต่ต้องการให้ยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 เพื่อให้การหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์สามารถทำได้โดยเสรี

ถ้าเราติดตามเฟซบุ๊กของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เราจะเห็นว่าสมศักดิ์ เจียมนั้นวิพากษ์วิจารณ์บทบาทและสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์เกือบทุกวัน โดยไม่โดนคดี 112 เลย (สมศักดิ์โดนคดีหนึ่งเท่านั้นคือคดีที่กองทัพบกไปแจ้งความดำเนินคดี) แสดงว่า มาตรา 112 ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด แต่สมศักดิ์ เจียมก็ยังต้องการให้ยกเลิกก็เพราะสมศักดิ์ เจียมต้องการมากกว่าการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ใช่หรือไม่

เพราะสมศักดิ์ เจียม พูดเสมอว่า “เลิกมาตรา 112 ก่อนสิแล้วผมจะพูดให้ฟัง” สมศักดิ์ เจียมจะพูดอะไรมากกว่าที่วิพากษ์วิจารณ์บทบาทสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ทุกวันนั้นหรือ

ง่ายๆ ก็คือพวกนิยมสาธารณรัฐต้องการลบกฎหมายอาญามาตรานี้ออก เมื่อไม่มีกฎหมายจะได้ไม่มีความผิดอีกต่อไปนั่นเอง

แล้วถ้าพ่อค้ายาเสพติดบอกว่า “ยกเลิกกฎหมายยาเสพติดก่อนแล้วจะค้ายาบ้าให้ดู” สังคมไทยจะต้องตอบสนองข้อเรียกร้องนั้นด้วยหรือ

ผมคิดว่า ปัญหาของมาตรา 112 อยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายครับ แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้ก็ไปแก้ไขตรงนี้ ก็แก้ที่การบังคับใช้สิครับ ไม่ใช่แก้ที่ตัวกฎหมาย

หรือทำตามข้อเสนอจากบางฝ่ายที่ให้มีคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อร่วมกันพิจารณาความผิดตามมาตรานี้ เพื่อไม่ให้ใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งกัน หรือข้อเสนอที่บอกว่าโทษของมาตรานี้สูงเกินไป เพราะถูกแก้ไขเพิ่มโทษโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน เมื่อปี 2519 ก็เป็นเรื่องที่นำมาถกแถลงพิจารณากันได้

เพราะมาตรา 112 โดยตัวบทของมันไม่ได้มีโทษต่อใคร หรือสามารถไปกลั่นแกล้งทำร้ายใครได้เลย ถ้าคนคนนั้นไม่มีเจตนาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์
กำลังโหลดความคิดเห็น