xs
xsm
sm
md
lg

โต้ฝรั่งวิจารณ์ขัง"สมยศ"-ศาลย้ำหมิ่นสถาบันฯชัดเจน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-อธิบดีศาลอาญาชี้ ศาลลงโทษจำคุก 10 ปี “สมยศ” หมิ่นเบื้องสูง เหตุเผยแพร่บทความ ยันชัดไม่ใช่ความเห็นทางวิชาการ ระบุกฎหมายแต่ประเทศย่อมแตกต่างกัน ส่วนกรณีศาลไม่ให้ประกัน ขณะเตรียมหนีออกนอกประเทศ ด้านคนไทยในยุโรป สุดทด!เขียนจดหมายซัด “อียู”ย้ำคนไทยล้วนแต่รักและเทิดทูนกษัตริย์ ไล่ไปดูเสรีภาพโรฮิงญาในพม่า

วานนี้ (24 ม.ค.) นาย ทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึง กรณีคำพิพากษาจำคุกนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ในคดีหมิ่นเบื้องสูงว่า ในการพิจารณาคดีของศาลอาญานั้นมีหลักการพิจารณาเป็นสากลเหมือนกับศาลยุติธรรมอื่นทั่วโลก คือพิจารณาตามตัวบทกฎหมายที่มีบัญญัติเอาไว้ และพิจารณาว่าจำเลยมีความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้หรือไม่ โดยประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ก็บัญญัติไว้ว่าเป็นความผิดตามกฎหมายของประเทศไทย และการที่นายสมยศนำบทความดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งแม้จะเป็นบทความของคนอื่นมาตีพิมพ์เผยแพร่ ก็เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา112 ของกฎหมายไทย และในรายละเอียดข้อต่อสู้คดี ก็แสดงให้เห็นว่าบทความที่นายสมยศ นำมาเผยแพร่ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นทางวิชาการ อย่างกรณีของกลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งก็ไม่มีความผิดแต่อย่างใด แต่บทความของนายสมยศ เป็นข้อความที่มีลักษณะดูหมิ่นเหยียดหยาม ทำให้สถาบันฯได้รับความเสียหาย

ก่อนหน้าที่ศาลจะมีคำพิพากษานั้นนายสมยศ ก็ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มาตรา 112 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยออกมาว่าไม่ขัด ศาลอาญาจึงได้อ่านคำพิพากษาดังกล่าว แต่ทั้งนี้กระบวนการของคดียังไม่สิ้นสุด จำเลยอาจจะยื่นอุทธรณ์เเละศาลอุทธรณ์อาจมีความเห็นต่างหรือเห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ได้ ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าโทษ มาตรา 112 หนักเกินไปนั้น ศาลยุติธรรมไม่มีหน้าที่ไปมองว่ากฎหมายหนักหรือเบา เป็นเรื่องของอำนาจนิติบัญญัติ ส่วนที่มองว่าต่างประเทศไม่มีกฏหมายลักษณะนี้นั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะสภาพขนบธรรมเนียมของแต่ละประเทศย่อมไม่เหมือนกัน อาทิ ประเทศอื่น ก็มีกฏหมายที่ประเทศไทยเราไม่มียกตัวอย่างเช่น มาเลเซีย ก็มีกฎหมายเกี่ยวกับเพศ ซึ่งประเทศเราก็ไม่มี เเต่การที่จะมองว่ากฎหมายหรือศาลไทยเป็นองค์กรทำหน้าที่พิทักษ์หรือปกป้องกษัตริย์ ก็เป็นมุมมองเเค่ฝ่ายเดียว การที่จะมองหรือวิจารณ์องค์กรตุลาการของไทยสามารถกระทำได้ เเต่ต้องเป็นไปอย่างสุจริต อย่ามีอคติ เป็นการเเสดงความเห็นทางวิชาการ ศาลก็จะไม่ถือความ เเต่ถ้าเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงมีอคติโจมตีสถาบันตุลาการอย่างไม่เป็นธรรม ศาลก็จะออกหมายเรียกมาไต่สวน เพราะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เเต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจอีกทีว่าจะดำเนินการขั้นไหน ตอนนี้ตนกำลังให้เจ้าหน้าที่ของศาลตรวจสอบข้อมูลทางเว็บไซต์ในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

ส่วนที่มีการวิจารณ์จากนักวิชาการบางฝ่าย ว่าศาลอาญาไม่มีอำนาจพิจารณาคดี 112 เพราะขั้นตอนอ่านกระบวนการพิจารณาของศาลมีการใช้คำว่าในพระปรมาภิไธยนั้นว่า คนที่ยกเหตุผลอย่างนี้มาพูดเเม้เป็นนักวิชาการเเต่ก็ไม่ได้พูดด้วยวิชาการ เป็นคนที่มีอคติต่อสถาบัน ขนาดในต่างประเทศเองก็มีการใช้คำว่าในพระปรมาภิไธยเหมือนกับของไทย ซึ่งเป็นการยึดถือทางสัญลักษณ์ตามธรรมเนียมที่มีมานานเท่านั้น ไม่ได้นำตรงนี้มาเกี่ยวเป็นประเด็นในการพิจารณาคดี หรือเกี่ยวข้องกับสำนวนคดีเเต่อย่างไร

นอกจากนี้กรณีที่มีการนำไปเปรียบเทียบกับคดีของ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก”ทั้งเรื่องคำพิพากษาเเละการให้ประกันตัวนั้น ต้องบอกว่ารายละเอียดและข้อเท็จจริงของทั้งสองคดีไม่เหมือนกัน โดยการปราศรัยของ “เจ๋ง ดอกจิก”นั้นมีความกระทบกระเทือนต่อความมั่นคง ต่อสถาบันฯ น้อยกว่ากรณีของนายสมยศ ทั้งนี้มาตรา112 ถือว่า เป็นมาตราที่สำคัญมีผลกระทบความมั่นคง เป็นมาตราที่ประชาชนละเมิดไม่ได้ ศาลจะพิจารณาอย่างรอบคอบ ถึงความหนักเบา ของพฤติการณ์ รวมทั้งศาลจะพิจารณาว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเเล้ว จำเลยจะมีการหลบหนีหรือไม่ ขณะเดียวกันนายยศวริศ หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” ก็ยังถูกดำเนินคดีที่ร้ายเเรงกว่า คือ คดีก่อการร้ายเเละได้รับการประกันตัว เพราะศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แต่กรณีของนายสมยศ ทราบว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ที่บริเวณชายเเดนไทย-กัมพูชา ขณะกำลังเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ เเละระหว่างคุมขัง พนักงานสอบสวนก็ได้คัดค้านการประกันตัวมาโดยตลอด มูลเหตุในการพิจารณาจึงต้องเเตกต่างกันออกไป ต่อมานายสมยศ ได้ยื่นคำร้องขอประกัน แต่ศาลอาญาไม่ให้ประกัน จากนั้นก็มีการยื่นคำร้องไปยังศาลอุทธรณ์ที่สูงขึ้นไป ก็มีคำสั่งไม่ให้ประกันเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น

วันเดียวกัน มีการเผยแพร่จดหมาย ผ่านโซเชียลมีเดีย เขียนฉบับภาษาไทยโดย - Robert Pattinzonแปลฉบับภาษาอังกฤษโดย - เจริญขวัญ บลาฮาสสกี้ มีใจความว่า จดหมายเปิดผนึก จากคนไทยคนหนึ่งถึงสหภาพยุโรป

ประเทศไทยเป็นประเทศเอกราช มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ซึ่งพวกคุณอาจจะไม่เข้าใจ เรามีกฏหมายของเรา เรามีขนบประเพณีของเรา เราให้ความเคารพพระเจ้าอยู่หัวของเรา การให้ความเคารพต่อกษัตริย์ของเราไม่เหมือน กับสิ่งที่พวกคุณทำต่อกษัตริย์ของพวกคุณเอง และไม่ว่าคุณจะทำอะไร เราไม่เคยยุ่ง

คุณความดีที่กษัตริย์ของเรา ที่ทรงงานอย่างหนัก เพื่อประชาชนของพระองค์นั้น ได้ประจักษ์ชัดและรับรู้กันไปทั่วประเทศประชาชนล้วนแต่รักและเทิดทูนกษัตริย์พระองค์นี้ อย่างมาก ภาพประชาชนจำนวนมหาศาลที่ออกมา

ในวันที่ 5 เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี มีคนเพียงส่วนน้อย ที่พยายามจะล้มล้างสถาบัน ด้วยวิธีการให้ข่าว ป้ายสีเรื่องราวต่างๆนานา ซึ่งการกระทำแบบนี้ไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมไทย คนไทยไม่มีนิสัยรุกรานใคร ไม่ต่อเรือไปยึดประเทศอื่น ไม่ล่าอาณานิคม ไม่บังคับข่มเหงคนชาติอื่นและเราไม่พยายามยัดเยียดความคิด เรื่องเสรีภาพในแบบของตนเองให้กับใคร อย่าเอาคำจำกัดความแคบๆในเรื่องเสรีภาพของคุณมาใช้กับเราเพราะคนในประเทศนี้ เราไม่ยอมรับเสรีภาพในการหมิ่นประมาทสถาบันอันเป็นที่รักของเรา

ถ้าสหภาพยุโรปสนใจเรื่องเสรีภาพจริงๆ ไม่ใช่แค่สร้างภาพลวงโลกไปวันๆ ช่วยดูแลเสรีภาพในการมีชีวิตอยู่ของชาวโรฮิงญาในพม่า จะดีกว่าไหม ด้วยความเคารพ
กำลังโหลดความคิดเห็น