xs
xsm
sm
md
lg

คราวเคราะห์ของประเทศไทย

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์บ้านเราเคยแสดงความประหลาดใจ เมื่อมีครอบครัวหนึ่งได้เป็นนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน ต่อไปก็คงจะประหลาดใจหนักขึ้น เพราะครอบครัวนี้จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ 4-5 คนหรืออาจจะมากกว่านี้ ถ้าหากเขาต้องการจะเป็น

เรื่องเกิดจากอยู่ๆ นายเกษม นิมมลรัตน์ ส.ส.เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ลาออก นัยว่าเพื่อเปิดทางให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กลับมาเป็น ส.ส.และเป็นนายกรัฐมนตรีสำรองไว้ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน

นายเกษม นิมมลรัตน์ กล่าวว่า ตนตัดสินใจลาออกเอง ไม่มีแรงกดดันทางการเมือง แต่ต้องการพัฒนาเชียงใหม่ให้พัฒนาไปข้างหน้า งานท้องถิ่นเป็นงานที่ตนถนัดกว่า (แล้วทะลึ่งมาเล่นการเมืองระดับชาติทำไม?)

มีรายงานว่าอนาคตของนายเกษมจะไปเป็นนายก อบจ.แทนนายรุจ วรรณรัตน์ รองนายก อบจ.ที่จะลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว

เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะครอบครัวชินวัตรของ ทักษิณ ยึดครองประเทศไทยไว้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังสามารถส่งเสริมผลักดันให้ใครอยู่ในตำแหน่งใดก็ได้ทั้งนั้น ทั้งตำแหน่งทางการเมือง และข้าราชการประจำ

ที่ยังทำไม่ได้อยู่ในขณะนี้ก็คือ ยังไม่สามารถที่จะกลับประเทศไทยได้อย่างเท่ๆ เท่านั้นเอง

ความหมายของการกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ ของทักษิณก็คือ กลับมาไม่ติดคุก กลับมาได้เงินที่ถูกยึดคืน และกลับมาแล้วไม่ถูกดำเนินคดีต่างๆ ที่ค้างศาลอยู่ในเวลานี้

แต่ไม่มีทางที่จะทำสำเร็จได้ เพราะถ้าหากจะทำอย่างนั้นก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ต้องผ่านกฎหมายที่เรียกกันว่าปรองดอง ซึ่งเริ่มเมื่อใดก็จะมีประชาชนออกมาเต็มถนนเมื่อนั้น และก็จะเป็นความขัดแย้งในสังคมไทยรอบใหม่อีก

แต่การที่ครอบครัวชินวัตรยังสามารถครองประเทศได้ต่อไป และอาจจะยาวนานอีกกี่เดือนกี่ปีไม่มีใครตอบได้ นั่นก็เพราะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เขาได้เสียงข้างมากในสภาก็ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นฝ่ายบริหารประเทศ

ตราบใดที่นักการเมืองยังสนับสนุนครอบครัวนี้อยู่ ครอบครัวนี้ก็ต้องบริหารประเทศ ทางหนึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จ อีกทางหนึ่งก็ต้องเคารพกติกามรรยาท เคารพหลักการ นิติธรรม จะทำตามอำเภอใจตัวเองมิได้

แต่ก็มีความพยายามที่จะออกนอกลู่นอกทางเพื่อช่วยทักษิณ เพื่อพาทักษิณกลับประเทศโดยไม่ต้องติดคุกยังพยายามอยู่ ปีที่แล้วก็เสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และจะแก้รัฐธรรมนูญซึ่งประชาชนก็ออกมาค้านเต็มถนน

ส่วนการบริหารประเทศ จะพาประเทศลงห้วยลงเหวอย่างไร นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ตราบใดที่นักการเมืองส่วนใหญ่ยังสนับสนุนเขารวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ทำให้พรรคการเมืองที่พวกเขาจัดตั้งขึ้นมีเสียงข้างมาก ซ้ำยังมีพรรคการเมืองอื่นๆ อยากจะร่วม อยากจะเป็นรัฐบาลเช่นเดียวกับเขา (เพราะอยู่ข้างเป็นรัฐบาลมันอิ่มหมีพีมัน ไม่อดอยากปากแห้งเหมือนเป็นฝ่ายค้าน)

ก็บริหารประเทศไป ไม่เช่นนั้นก็ต้องปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งโลกทุกวันนี้ไม่เอา ไม่ยอมรับ

นี่ก็มองเห็นหายนะรออยู่ข้างหน้าแล้วกับนโยบายของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือนโยบายรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท ซึ่งขาดทุนเห็นๆ อยู่แล้วในปีที่ผ่านมา 2 แสนล้านบาท และก็จะดันทุรังรับดำเนินนโยบายนี้ต่อไปอีก โดยที่มองเห็นผลล่วงหน้าแล้วว่าจะต้องขาดทุนอีก 2 แสนล้านบาท

เท่านี้ยังไม่พอ จะกู้เงินอีก 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อมาทำโครงการขนส่งหรือรถไฟความเร็วสูง แทนที่จะค่อยทำค่อยไปไม่ต้องกู้ แต่รัฐบาลก็จะกู้ให้ได้โดยจะออกเป็นพระราชกำหนด แทนที่จะเป็นพระราชบัญญัติงบประมาณเพื่อที่จะเลี่ยงการตรวจสอบจากสภา (ทั้งที่เสียงส่วนใหญ่ในสภาก็เป็นของเขา) เพื่อไม่ต้องตอบคำถามของฝ่ายค้าน เพื่อไม่ต้องการให้ประชาชนรู้รายละเอียด ที่สำคัญเพื่อที่จะคอร์รัปชันได้คล่องๆ คอ

พวกเขาทำได้ทั้งนั้นแหละครับ เพราะเสียงส่วนใหญ่เป็นของเขา เป็นประชาธิปไตยตามที่เขาว่า ตามที่เขาคุย

แต่อนาคตของประเทศไทยเป็นเรื่องใหญ่เป็นเรื่องน่าคิด เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง

ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครกล้าคิด ไม่มีใครเป็นห่วง แม้กระทั่งนักวิชาการที่เคยเป็นหลักให้แก่บ้านเมืองต่างก็เงียบเฉย ถือว่าธุระไม่ใช่ สื่อมวลชนที่เคยทำหน้าที่ท้วงติง วิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ก็เห็นดีเห็นงามไปกับครอบครัวชินวัตรเสียสิ้น มองไม่เห็นความผิดปกติ ละเลยต่อหายนะที่จะเกิดขึ้นกับประเทศโดยสิ้นเชิง

เราผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ผ่าน 6 ตุลาคม 2519 ผ่านเดือนพฤษภาคม 2535 แต่ละเหตุการณ์เราเสียเลือดเสียเนื้อเสียชีวิตมาแล้วทั้งสิ้น เพื่อไม่ยอมรับรัฐบาลทรราช รัฐบาลฉ้อฉล

มาวันนี้เรากลับยอมรับรัฐบาลหุ่น รัฐบาลนอมินี รัฐบาลปัญญานิ่มที่มีพี่ชายคอยบงการ คอยสั่งการด้วยเราหลงกับประชาธิปไตยจอมปลอม

และด้วยผลประโยชน์เฉพาะหน้าที่ได้รับ

ต้องถือว่าเป็นคราวเคราะห์ของประเทศไทยแล้ว

ถ้าหากไม่ตื่นขึ้นมา คราวเคราะห์นี้ก็จะเกาะกุมประเทศไทยไปอีกนาน นายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ก็หนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ไม่รู้ว่าจะเป็นพี่สาวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือจะเป็นลูกชาย ลูกสาว หรืออดีตภริยาของทักษิณ ก็ย่อมเกิดขึ้นได้
กำลังโหลดความคิดเห็น