“เรกูเลเตอร์” จ้าง ม.ธรรมศาสตร์เช็คต้นทุนค่าบริการในการเรียกเก็บบิลค่าไฟที่ซ้ำซ้อนจาก 2 การไฟฟ้าฯ ที่คิดแล้ว 38 บาทต่อบิลต่อเดือน แต่กรณีจ่ายเคาท์เตอร์เซอร์วิสชาร์จอีก 10 บาทต่อบิล ชี้มีโอกาสลดลงได้ 20 บาทต่อบิลต่อเดือนเร่งสรุป ก.ค.นี้
นางพัลลภา เรืองรอง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เรกูเลเตอร์ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้เข้ามาช่วยพิจารณาต้นทุนค่าบริการที่การไฟฟ้าสว่นภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ที่จะเรียกเก็บผ่านบิลค่าไฟจากประชาชนไว้แล้ว 38 บาทต่อบิลแต่กรณีจ่ายผ่านบบริการเคาท์เตอร์เซอร์วิสจะมีการเรียกเก็บเพิ่มอีกบิลละ 5-10 บาทซึ่งถือเป็นการซ้ำซ้อน เบื้องต้นมีโอกาสจะลดลงได้อีกบิลละ 20 บาท ซึ่งทั้งหมดจะสรุปพร้อมกับการปรับปรุงค่าไฟฟ้าฐานในเดือนก.ค.นี้
ทั้งนี้ จากการหารือกับ 2การไฟฟ้าที่ผ่านมาทางกฟน.ยังไม่ได้ส่งข้อมูลมาให้แต่ก็คาดว่าจะสามารถลดค่าบริการได้มากกว่ากฟภ.เนื่องจากพื้นที่รับผิดชอบจะอยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑซึ่งจะใช้เจ้าหน้าที่ในการไปเรียกเก็บตามบ้านน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกฟภ.ที่ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดและห่างไกลทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งยังต้องใช้บริการจ่ายไฟกับเจ้าหน้าที่ซึ่งไปเดินเก็บค่าบริการตามบ้าน ซึ่งจากข้อมูลที่กฟภ.ได้ส่งมาพบว่าต้นทุนต่างๆ เช่น เจ้าหน้าที่เก็บค่าไฟ การอ่านมิเตอร์ การออกบิล ยังคงมีการคิดซ้ำซ้อนในการไปจ่ายกับเคาท์เตอร์เซอร์วิสอยู่ดังนั้นจึงคิดว่าน่าจะลดลงแล้วหักลบกับบิลค่าไฟได้ทันที
นางพัลลภา กล่าวว่า กรณีปัญหาการหยุดจ่ายก๊าซพม่า 5-14 เม.ย.นี้กระทรวงพลังงานควรจะทบทวนการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ก๊าซธรรมชาติจากฝั่งตะวันออกใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาเรกูเลเตอร์ได้เสนอแนวทางให้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน พิจารณาแล้ว โดยเสนอให้ดึงก๊าซที่มีจำนวนกว่า 960 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน มาใช้กับโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพที่สุดซึ่งจะลดต้นทุนลงมาเหลือ 2 บาทกว่าต่อหน่วยจากเฉลี่ย 3 บาทต่อหน่วย ก็จะช่วยลดแรงกดดันเรื่องต้นทุนค่าไฟจากการสำรองน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตได้.
นางพัลลภา เรืองรอง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เรกูเลเตอร์ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้เข้ามาช่วยพิจารณาต้นทุนค่าบริการที่การไฟฟ้าสว่นภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ที่จะเรียกเก็บผ่านบิลค่าไฟจากประชาชนไว้แล้ว 38 บาทต่อบิลแต่กรณีจ่ายผ่านบบริการเคาท์เตอร์เซอร์วิสจะมีการเรียกเก็บเพิ่มอีกบิลละ 5-10 บาทซึ่งถือเป็นการซ้ำซ้อน เบื้องต้นมีโอกาสจะลดลงได้อีกบิลละ 20 บาท ซึ่งทั้งหมดจะสรุปพร้อมกับการปรับปรุงค่าไฟฟ้าฐานในเดือนก.ค.นี้
ทั้งนี้ จากการหารือกับ 2การไฟฟ้าที่ผ่านมาทางกฟน.ยังไม่ได้ส่งข้อมูลมาให้แต่ก็คาดว่าจะสามารถลดค่าบริการได้มากกว่ากฟภ.เนื่องจากพื้นที่รับผิดชอบจะอยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑซึ่งจะใช้เจ้าหน้าที่ในการไปเรียกเก็บตามบ้านน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกฟภ.ที่ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดและห่างไกลทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งยังต้องใช้บริการจ่ายไฟกับเจ้าหน้าที่ซึ่งไปเดินเก็บค่าบริการตามบ้าน ซึ่งจากข้อมูลที่กฟภ.ได้ส่งมาพบว่าต้นทุนต่างๆ เช่น เจ้าหน้าที่เก็บค่าไฟ การอ่านมิเตอร์ การออกบิล ยังคงมีการคิดซ้ำซ้อนในการไปจ่ายกับเคาท์เตอร์เซอร์วิสอยู่ดังนั้นจึงคิดว่าน่าจะลดลงแล้วหักลบกับบิลค่าไฟได้ทันที
นางพัลลภา กล่าวว่า กรณีปัญหาการหยุดจ่ายก๊าซพม่า 5-14 เม.ย.นี้กระทรวงพลังงานควรจะทบทวนการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ก๊าซธรรมชาติจากฝั่งตะวันออกใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาเรกูเลเตอร์ได้เสนอแนวทางให้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน พิจารณาแล้ว โดยเสนอให้ดึงก๊าซที่มีจำนวนกว่า 960 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน มาใช้กับโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพที่สุดซึ่งจะลดต้นทุนลงมาเหลือ 2 บาทกว่าต่อหน่วยจากเฉลี่ย 3 บาทต่อหน่วย ก็จะช่วยลดแรงกดดันเรื่องต้นทุนค่าไฟจากการสำรองน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตได้.
