xs
xsm
sm
md
lg

หรือรัฐบาลและเพื่อไทยทอดทิ้งทักษิณจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัญญาพลวัตร
โดย...พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

ในระยะนี้นช.ทักษิณ ชินวัตรส่งเสียงคำรามและครวญครางไปพร้อมๆกันถึงรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เสียงคำรามดังออกมาอย่างเข้มข้นในการตำหนิและวิจารณ์รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยที่ไม่เร่งรัดผลักดันการนิรโทษกรรม ส่วนการครวญครางเป็นการแสดงอาการน้อยใจต่อคนบางคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยว่าไม่จริงใจ

นช.ทักษิณต้องการให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยเปิดเกมรุกทางการเมืองเพื่อเร่งรัดผลักดันร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมออกมาให้ได้โดยเร็ว โดยหยิบยกเหตุผลว่ามวลชนเสื้อแดงบางส่วนเริ่มไม่พอใจรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ดังนั้นจำเป็นต้องตอบสนองความต้องการของมวลชนเสื้อแดงโดยด่วนเพื่อรักษาฐานคะแนนนิยมเอาไว้

ทักษิณมองว่าสาเหตุของความล่าช้าในการผลักดัน พ.ร.บ. นิรโทษกรรมมีสองประการที่สำคัญ ประการแรกคือ รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอ่อนข้อให้ทหารมากเกินไป ประการที่สองเกิดจากการขาดความจริงใจของคนในพรรคบางคน ที่ไม่ประสงค์ให้ทักษิณกลับประเทศไทย เพราะหากทักษิณกลับมาจะทำให้บทบาทของ “บางคน” ลดความสำคัญลง ทักษิณถึงกับเปรียบเปรยว่า “ตนเองถูกโดดเดี่ยว เหมือนลอยคออยู่ในมหาสมุทร”

การส่งเสียงของทักษิณด้านหนึ่งอาจดูเหมือนเป็นการคำรามออกคำสั่ง กระตุ้นให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยทำอย่างที่ตนเองต้องการ แต่อีกด้านหนึ่งน้ำเสียงดูเหมือนเป็นเสียงครวญครางของคนที่กำลังอ่อนล้าและสิ้นหวัง อันเกิดจากการถูกหลอกลวงและหักหลังจากคนใกล้ชิด

ทำไมทักษิณจึงมองว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอ่อนข้อให้ทหารมากเกินไป ผมคิดว่าน่าจะมาจากการแสดงบทบาทของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรต่อทหาร ยิ่งลักษณ์ดูเหมือนจะพยายามรักษาสัมพันธภาพที่ดีระหว่างรัฐบาลกับทหารมาโดยตลอด ไม่ต้องการสร้างรอยต่อ ความแปลกแยก และความขุ่นเคืองใจให้เกิดขึ้นแก่ฝ่ายทหาร เพราะยิ่งลักษณ์คงสรุปได้ว่า เมื่อไรก็ตามที่รัฐบาลมีความขัดแย้งกับทหาร เมื่อนั้นก็ย่อมเกิดผลกระทบต่อความมีเสถียรภาพของรัฐบาลได้

ยิ่งลักษณ์และแกนนำบางส่วนของพรรคเพื่อไทยคงรับรู้ได้ถึงกระแสอารมณ์ความรู้สึกของฝ่ายทหารที่มีต่อการนิรโทษกรรมแก่กลุ่มเสื้อแดงที่สังหารทหารไปหลายคนเมื่อปี ๒๕๕๓ ดังนั้นคงจะสื่อสารกับทักษิณในทำนองที่ว่า ทหารคัดค้านไม่ยอมให้มีการนิรโทษกรรมแก่แกนนำเสื้อแดง กลุ่มผู้ปฏิบัติการเสื้อแดงที่ก่ออาชญากรรมรุนแรง และตัวทักษิณเอง นี่คงเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ทักษิณสรุปว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอ่อนข้อให้ทหารมากจนเกินไป

เมื่อใครสักคนกล่าวว่า “ฝ่ายตนเองอ่อนข้อให้อีกฝ่ายหนึ่งมากจนเกินไป” ก็หมายความว่า ผู้พูดมีเจตจำนงที่จะใช้มาตรการแข็งกร้าวต่อคู่ขัดแย้งของตนเองมากขึ้น กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน สะท้อนอย่างชัดเจนว่า ทักษิณคงมีความประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะให้รัฐบาลใช้มาตรการแข็งกร้าวต่อฝ่ายทหาร

คำสั่งของทักษิณคงเป็นโจทย์สำคัญสำหรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยว่าจะเดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมตามแนวทางที่ทักษิณต้องการหรือไม่

ผมว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์และกลุ่มยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยคงคิดหนักเพราะหากเดินตามแนวทางที่ทักษิณต้องการ พวกเขาก็คาดการล่วงหน้าได้ว่าต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง การนิรโทษกรรมไม่เพียงแต่จะสร้างความไม่พอใจแก่ทหาร โดยเฉพาะเพื่อนร่วมรุ่นของพลเอกร่มเกล้า ธุวธรรม แต่ยังต้องเผชิญหน้ากับภาคประชาชนผู้มีจุดยืนอย่างมั่นคงในการรักษาระบบนิติรัฐและนิติธรรมของสังคมเอาไว้ ภาคประชาชนแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่ประสงค์ให้มีการล้างความผิดแก่ผู้เป็นอาชญากร ผู้ก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมือง และผู้ต้องคดีการทุจริตประพฤติมิชอบ

การเผชิญหน้าระหว่างรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยกับภาคประชาชนในกรณีเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี ๒๕๕๕ ซึ่งในครั้งนั้นทำให้รัฐบาลต้องสั่นคลอนอย่างรุนแรง จนเกือบเอาตัวไม่รอด และท้ายที่สุดก็ต้องยุติการผลักดัน พ.ร.บ. นิรโทษกรรมไว้ชั่วคราว

สำหรับสาเหตุประการที่สองซึ่งทำให้การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมล่าช้า ทักษิณมองว่าเป็นการขาดความจริงใจของคนบางคนในพรรคที่มีต่อตนเอง น่าสนใจว่า “คนบางคน” ที่ทักษิณพูดนี้หมายถึงใครบ้าง

เราคงต้องมาดูว่า คนในรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และเครือข่ายเสื้อแดงคนใดบ้างที่ได้ประโยชน์จากการที่ทักษิณยังคงสถานะเป็นนักโทษและร่อนเร่อยู่ในต่างประเทศ ผมคิดว่ามีคนจำนวนมากในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์จากสภาวะเช่นที่เป็นอยู่ของทักษิณ ชินวัตร

คนแรกที่ได้มากที่สุดคงไม่มีใครเกิน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ดำรงในปัจจุบันจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้หากทักษิณ อยู่ในประเทศไทยและไม่มีพันธนาการของสถานะการเป็นนักโทษ และอำนาจและตำแหน่งของเธอจะสั่นคลอนทันทีหากทักษิณ ชินวัตร กลับมาเมืองไทยและเข้าควบคุมรัฐบาลด้วยตนเอง เป็นสัจธรรมที่ว่า ใครก็ตามที่อยู่ในสถานภาพและตำแหน่งอันทรงอำนาจ ย่อมประสงค์จะรักษาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็เช่นเดียวกันไม่อาจหลุดพ้นจากกฎเกณฑ์ข้อนี้ได้

ดังนั้นสิ่งที่เราเห็นจากการพูดและการทำของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมก็คือ การลอยตัวไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆทั้งสิ้น โดยท่องคาถาประจำตัวของเธอว่า “เรื่องนี้เป็นของฝ่ายนิติบัญญัติ”

นอกจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะไม่สนใจไยดีกับการผลักดันการนิรโทษกรรมแก่มวลชนเสื้อแดงแล้ว ยังมีความเป็นไปได้ว่าเธอจะพยายามเตะถ่วงเรื่องนี้เอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกระทั่งใกล้หมดวาระของรัฐบาล และเมื่อถึงตอนนั้นก็อาจจะทำทีเป็นให้การสนับสนุนผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อเป็นการแสดงละครให้มวลชนเสื้อแดงเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง ส่วนการผลักดันจนกระทั่งออกมาเป็น พ.ร.บ.ได้จริงหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

คนสำคัญอีกคนหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากการอยู่นอกประเทศของทักษิณ คือ เยาวภา ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวของทักษิณเอง ในปัจจุบันอำนาจและอิทธิพลของเยาวภา ชินวัตรที่มีต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์มีอยู่อย่างสูงยิ่ง เธอสามารถกำหนดตัวบุคคลผู้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีบางตำแหน่งได้ และแน่นอนว่าผลประโยชน์อันเกิดจากการมีบุคคลในสังกัดของตนเองเป็นรัฐมนตรีย่อมมีอยู่อย่างมหาศาล เมื่อเป็นเช่นนี้เธอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่คงไม่อยากให้ ทักษิณ กลับมา

สำหรับบุคคลนอกเหนือตระกูลชินวัตร ที่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากสภาพที่ไร้ทักษิณเห็นจะได้แก่ เฉลิม อยู่บำรุง บทบาทที่ผ่านมาของเฉลิม ในรัฐบาลมีความโดดเด่นอยู่มากเมื่อเทียบกับรัฐมนตรีคนอื่นๆ เพราะว่าเฉลิม เป็นบุคคลที่พูดมากให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนได้ทุกเรื่อง จึงปรากฏเป็นข่าวอยู่ได้เกือบทุกวัน

เฉลิม อยู่บำรุง มักประกาศอยู่เสมอว่าจะนำทักษิณ กลับประเทศไทยให้ได้ แต่ตลอดระยะเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่าสิ่งที่เฉลิม พูดต่อสาธารณะ กับสิ่งที่ทำจริงจะเป็นเรื่องตรงกันข้าม เฉลิมไม่ได้มีส่วนร่วมหรือแสดงอาการกระตือรือร้นใดๆในการผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แม้แต่น้อย เพราะเฉลิม รู้ดีว่าหากทักษิณได้รับนิรโทษกรรม ย่อมส่งผลให้อำนาจและบทบาททางการเมืองของตนเองลดลงอย่างแน่นอน

ส่วนบุคคลอื่นๆในพรรคเพื่อไทยและเครือข่ายเสื้อแดงที่ได้รับประโยชน์จากสภาพที่ไร้ทักษิณ ยังมีอีกจำนวนมาก เพราะแต่ละคนต่างคนต่างกิน ต่างคนต่างกอบโกย ตามความสามารถในการโกงของตนเองเป็นหลัก แต่หากทักษิณ ชินวัตรกลับมาและมีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศรูปแบบการจัดการผลประโยชน์จะถูกปรับเปลี่ยน โดยเขาจะจัดการและจัดสรรตามใจตนเองเป็นที่ตั้ง ตามพื้นฐานนิสัยและแนวทางการบริหารแบบความเป็นเผด็จการและรวบอำนาจอยู่ที่ตนเองคนเดียว ใครจะโดดเด่นเหนือตนเองไม่ได้

คงมีคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่อยู่ดีๆอยู่แล้วไปหาเรื่องที่ทำให้ตนเองมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ผลประโยชน์ร่วมของคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอันเกิดจากสภาพของการไร้ทักษิณจึงมีมากกว่าการที่ทักษิณได้รับการนิรโทษกรรมและกลับมามีอำนาจอย่างเป็นทางการ เมื่อเหตุผลเป็นที่ชัดเจนเช่นนี้แล้ว ความมุ่งมั่นและพยายามผลักดันให้เกิดการนิรโทษกรรมแก่ทักษิณก็ย่อมอ่อนล้าและกระทำอย่างพอเป็นพิธี อันเป็นการแสดงละครปลอบใจทักษิณและกลุ่มเสื้อแดงก่อการร้ายให้มีความหวังลมๆแล้งๆต่อไป

คนเมื่อมีความหวังหลงเหลืออยู่บ้างก็จะไม่ทำอะไรรุนแรงหรือบีบคั้นผู้อื่นมากเกินไป การแสดงละครเป็นครั้งคราวของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจึงเป็นพิธีกรรมอันจำเป็นสำหรับพวกเขา เพื่อใช้ในการกลบเกลื่อนพฤติกรรม “การรวมหัวกันทอดทิ้งทักษิณ” ให้ลอยคออยู่กลางทะเลอย่างโดดเดี่ยว

หลังจากที่ถูกหลอกมาหลายครั้งเป็นเวลานานเกือบสองปี ดูเหมือนทักษิณ จะเริ่มรู้ตัวแล้วจึงออกมาส่งเสียงคำรามออกมากำชับให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยเดินหน้าเรื่องนิรโทษกรรมอย่างเร่งด่วน

แต่ในยามนี้ ผมคิดว่าเสียงคำรามที่ทักษิณส่งมาอาจไม่มีพลังในการกำหนดพฤติกรรมของ ส.ส.เพื่อไทยส่วนใหญ่ได้แล้ว แต่เป็นเสียงครวญครางอันแผ่วเบาและอ่อนล้าเต็มที ผมคิดว่าทักษิณ ชินวัตรจะจมน้ำตายในท้ายที่สุดครับ

พรรคเพื่อไทยประชุมคณะทำงานประสานภารกิจ ซึ่งมี แกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุม อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายนพดล ปัทมะ พ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สไกป์เข้ามาพูดว่า

ที่ผ่านมา รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ยอมอ่อนข้อให้ฝ่ายทหารมากเกินไป แต่ฝ่ายตรงข้าม ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่จะทำให้เกิดการปรองดองได้ ทำให้มวลชนคนเสื้อแดงบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย เกิดการตีตัวออกห่าง ทำให้พรรคและรัฐบาลเสียฐานมวลชน

ดังนั้นหลังจากนี้การทำงานเข้มข้น โดยพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่มวลชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองอย่างจริงจัง เพื่อให้คนเสื้อแดงเห็นว่า พรรคไม่ได้ทิ้งคนเสื้อแดงไปไหน แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เห็นว่ามีวาระแอบแฝงที่จะช่วยแกนนำและตนเอง(ข่าวจากinn)

คำพูดทักษิณมีนัยระหว่างบรรทัดอย่างไรบ้าง

1. ทหารไม่เห็นด้วยกับนิรโทษกรรมเสื้อแดง จึงทำไม่สำเร็จ

2. เสื้อแดงโกรธ และตีตัวออกห่างพรรคเพื่อไทย. กลุ่มที่น่าจะโกรธน่าจะเป็นพวกแดงนักเคลื่อนไหว. กับ พวกแดงรุนแรงที่มีพรรคพวกบางส่วนยังอยู่ในคุก

3. มีข่าวพวกแดงฮาร์ดคอ ขู่จะทำร้ายแกนนำหากยังไม่เดินหน้านิรโทษกรรม. จนทำให้. ส.ส.แดงรีบยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพิ่มอีกฉบับ และจตุพรต้องพูดโน้มน้าว ส.ส.เพื่อไทยให้สนับสนุนการออก พรก. โดยด่วน

4. ทักษิณคงกลัวพวกแดง hard core. อาละวาดจึงกำชับให้แกนนำพรรค เร่งผลักดัน พรบ.นิรโทษ. ให้แก่มวลชนที่ตัวเองหลอกใช้ จนต้องติดคุก

5. สิ่งที่พวกแดง hard core. ที่ติดคุกและอยู่นอกคุกพูด น่าจะเป็นไปในทำนองที่ว่า "พวกตู เผาเมือง ฆ่าคน จนพวกสูได้อำนาจเสวยสุข. แต่พวกตูต้องติดคุก ไม่ได้อะไรเลย ทิ้งพวกตู หากไม่ช่วยพวกตู. จะได้เห็นดีกัน".

กระแสพูดทำนองนี้น่าจะหนาหูขึ้นในพรรคเพื่อไทย. จึงทำให้ทักษิณตระหนกและต้องออกมากำกับบทเล่นเอง โดยสั่งผ่านกลุ่มแกนนำยุทธศาสตร์ในพรรค

ผมเคยพูดไว้นานแล้วว่า ในท้ายที่สุดพวกนายทุนสามานย์ในพรรคเพื่อไทยจะถีบหัวส่งพวกเสื้อแดง

นับจากวันนี้ไป หลังจากทักษิณมีคำสั่งลงมา พวก ส.ส.พรรคเพื่อไทย

คงเดินหน้าเต็มสูบในการออก พ.ร.บ. นิรโทษกรรม

แต่ไม่รู้ว่า ยิ่งลักษณ์จะว่าไง. เพราะหากดึงดันออก พ.ร.บ.นิรโทษฟอกตัวอาชญกร. คงจะเกิดความขัดแย้ง และทำให้เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอนได้

ยิ่งลักษณ์คงไม่มีความต้องการให้รัฐบาลตนเองมีอันเป็นไปเพราะยังสนุกกับการเป็นนายก. และกำลังกู้เงินก้อนใหญ่2.2 ล้านล้านบาทมาใช้ หากมีอะไรไปอาจทำให้ชวดเงินก้อนนี้ก็ได้

สถานการณ์หลังจากนี้ ทวีความเข้มข้นทุกขณะอย่ากระพริบตา


กำลังโหลดความคิดเห็น