xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ดื้อ ด้าน !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - หลังจากหลบเลี่ยง แฉลบไปมาอยู่สองสัปดาห์ ในที่สุด พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ก็ยอมไปตอบกระทู้สด ของฝ่ายค้านในสภา

กระทู้สดดังกล่าวคือเรื่องที่ พล.อ.สุกำพล ตอบรับคำเชิญ และขึ้นไปกินข้าว จับไม้จับมือกับ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ของกัมพูชา ที่บริเวณปราสาทพระวิหาร โดยไม่ยอมฟังเสียงคัดค้านจากกระทรวงการต่างประเทศ และ ฝ่ายทหาร ที่ได้ออกมาติติง แสดงความไม่เห็นด้วย

เนื่องจากขณะนี้ไทยกับกัมพูชา มีปัญหาข้อพิพาท เรื่องที่ดิน 4.6 ตร.กม. บริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหาร ที่กัมพูชา พยายามอ้างสิทธิเป็นเจ้าของ และได้ร้องไปที่ศาลโลก ให้มีการตีความคำพิพากษาเมื่อปี 2505 ของคดีนี้ และกำลังจะมีการพิจารณาในปีนี้

หลายฝ่ายเกรงว่า การที่ พล.อ.สุกำพล ไปพบกับ พล.อ.เตีย บันห์ ที่บริเวณปราสาทพระวิหาร ที่ชักธงชาติกัมพูชาอยู่ จะถูกฝ่ายกัมพูชา นำไปข้อต่อสู้ในศาลโลก ว่า แม้แต่รัฐมนตรีกลาโหมของไทย ก็ยังยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา โดยไม่มีการทักท้วงใดใด

เหมือนเมื่อครั้งอดีต ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ขึ้นไปที่ปราสาทพระวิหาร โดยมีธงชาติฝรั่งเศสปักอยู่บนนั้น และฝ่ายไทยก็ไม่ได้โต้แย้ง จึงถูกกฎหมายปิดปากของศาลโลก บังคับว่าเรายอมรับในอธิปไตยของฝรั่งเศส

สิ่งที่ฝ่ายค้านต้องการถาม พล.อ.สุกำพล คือ การไปครั้งนี้ ไปโดยคำเชิญใคร ไปเจอกันตรงไหน อย่างไร เพราะเป็นสาระสำคัญ ที่อาจทำให้ศาลโลกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาได้

นอกจากนี้ฝ่ายค้านยังตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.อ.สุกำพล ไปพบกับ พล.อ.เตีย บันห์ เกิดขึ้นภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพิ่งเดินทางออกจากกัมพูชาไป ฮ่องกง จึงอยากทราบว่า การไปครั้งนี้ เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือประเทศชาติกันแน่

เพราะสังคมมีข้อสงสัย และมีการวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่า รัฐบาลของทักษิณ ยินยอมที่จะเสียดินแดนโดยรอบปราสาทพระวิหาร เพื่อให้ฝ่ายกัมพูชาสามารถนำไปจดทะเบียนเป็นมรดกโลก และเปลี่ยนกับผลประโยชน์ บ่อน้ำมัน บ่อแก๊ส บริเวณพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย

และสิ่งที่พล.อ.สุกำพล ตอบคือ การไปครั้งนี้ ไม่มีใครเชิญ แต่ไปเอง ในฐานะประธานคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ( เจบีซี ) เพื่อไปเจรจาความสัมพันธ์ และความร่วมมือทางทหาร บริเวณที่ไปพบกันคือ ที่ตัวปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นเขตแดนกัมพูชาอยู่แล้ว จึงไม่มีผลอะไรต่อคดี

เมื่อกลับมาก็ได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อ นายวีระชัย พลาศรัย เอกอัคราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอแลนด์ ในฐานะหัวหน้าทีมต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร และขอยืนยันว่า การไปพบปะถ่ายรูปร่วมกันครั้งนี้ ไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีของศาลโลก

"ผมเป็นคนโทรนัด พล.อ.เตีย บันห์เอง โดยระบุสถานที่ ขอเจอกันบนปราสาทพระวิหาร การคุยกันครั้งนี้ผมคิดเอง เพราะเป็นเรื่องหมูๆ ไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ ผมไปคุยเรื่องยุทธศาสตร์ชายแดนให้มั่นคงและมั่งคั่ง รวมถึงการเข้มงวดเรื่องไม้พะยูง การแก้ไขปัญหาชายแดนแบบฉันท์มิตร รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลก เรื่องมาตรการคุ้มครองหลังจากที่ทหารไทย และกัมพูชาเคยปะทะกัน ยืนยันว่าทั้ง 2 ประเทศ จะตกลงกันได้ "

ก็ได้แต่หวังว่าฝ่ายกัมพูชา จะไม่ยกเอาเรื่องการพบกันครั้งนี้ ไปเป็นประเด็นต่อสู้ในศาลโลก มิฉะนั้นประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยอีกครั้ง

และถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อให้เอาสุกำพลไปตัดหัวคั่วแห้ง ป่นเป็นผง ก็ไม่สามารถชดเชยกับดินแดนที่เสียไปได้
กำลังโหลดความคิดเห็น