“สุกำพล” ยันขึ้นปราสาทพระวิหารถก “เตีย บัญ” เหมือนเดิม ปัดข่าวลือเจอโรคเลื่อน

รมว.กลาโหม ยืนยันนัดหารือรองนายกฯ-รมว.กลาโหมกัมพูชาเหมือนเดิม ส่วนสถานที่ใช้ปราสาทพระวิหารตามที่ได้เชิญครั้งแรก แหล่งข่าวเผยก่อนหน้านี้ย้ายสถานที่เพราะกระทรวงการต่างประเทศท้วงติง หวั่นกระทบคดีศาลโลก แต่อีกฝ่ายปฏิเสธเยือนฝั่งไทย จึงกลับมานัดคุยกันที่เดิม

วันนี้ (25 ก.พ.) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมของกัมพูชา จะไม่เดินทางมาร่วมหารือถึงแก้ไขปัญหาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเป็นทางการกับไทยในวันที่ 26 ก.พ. และได้เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากไทยมีการเปลี่ยนสถานที่จากเดิมใช้พื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร มาเป็นโรงแรมสุรินทร์มาเจสติก จ.สุรินทร์ ว่าตนยืนยันว่ากำหนดการพบปะหารือระหว่างตนและ พล.อ.เตีย บัญ ยังคงมีเหมือนเดิม ไม่มีการเลื่อนแต่อย่างใด ทางด้าน พล.อ.เตีย บัญ ยังคงตอบรับการเชิญการหารือครั้งนี้ ส่วนข่าวที่ออกมาดังกล่าวนั้นทำให้เกิดความสับสน แต่ทั้งนี้ต้องเชื่อตน ส่วนของสถานที่ที่ใช้ในการพบปะนั้นได้ข้อสรุปแล้วว่าจะใช้พื้นที่บนปราสาทเขาพระวิหารตามที่ได้มีเชิญในครั้งแรก

ทั้งนี้ แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงกลาโหมเปิดเผยถึงการนัดหารือร่วมกันครั้งนี้ว่าเป็นผลมาจากการเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระวรราชบิดาแห่งกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ได้มีโอกาสหารือกับสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในเรื่องการสร้างสัมพันธ์ชายแดน ทั้งบริเวณปราสาทพระวิหาร และพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาอื่นๆ ซึ่งได้มีความเห็นร่วมกันว่าควรจะมีการสานต่อในรายละเอียดระดับที่เล็กลง หลังจากนั้น พล.อ.เตีย บันห์ จึงได้ทำหนังสือเชิญ พล.อ.อ.สุกำพล โดยจะใช้สถานที่ปราสาทพระวิหารในหารือถึงเรื่องการดูแลความปลอดภัยและการพัฒนาพื้นที่ตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่ทำกินที่มีการล้ำแดนไปมาตั้งแต่ จ.อุบลราชธานีจนถึง จ.ตราด โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณเขาพระวิหาร โดยทั้งสองประเทศต้องการให้เกิดความปลอดภัยและความมั่นคั่งของประชาชนทั้งสองฝ่าย

ต่อมาทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ท้วงติงเรื่องสถานที่ เพราะเกรงว่าจะส่งกระทบต่อการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) จึงได้ขอเปลี่ยนสถานที่จากปราสาทพระวิหารเป็นโรงแรมสุรินทร์มาเจสติก ใน จ.สุรินทร์ โดยมีการทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ทบทวน แต่ทางกัมพูชาปฏิเสธที่จะเดินทางมาเยือนในฝั่งไทย รมว.กลาโหมจึงได้ปรึกษาหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยยืนยันใช้พื้นที่ปราสาทพระวิหารในการหารือครั้งนี้เหมือนเดิม สำหรับการเตรียมความพร้อมในพื้นที่นั้นทางกองกำลังในพื้นที่จะเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อให้ พล.อ.อ.สุกำพล และ พล.อ.เตีย บัญได้หารือร่วมกันอย่างสบายใจ