xs
xsm
sm
md
lg

เมเจอร์ฯรุกตลาดกลางผุดคอนโดราคา1.8ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ เร่งกระจายพอร์ตคอนโดฯระดับกลางล่าง เปิดตัว “ชิค ดิสทริคท์” รามคำแหง 53 คอนโดฯ ราคาเริ่มต้น 1.8 ล้านบาท 800 ยูนิต ,อาคารพาณิชย์ 112 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ในนามบริษัทลูก MJR ปลายปีเปิดอีก 1 โครงการมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ขณะที่บริษัทแม่เมเจอร์ฯ เปิด 3-4 โครงการ ตั้งเป้ารายได้มีนี้ 3,000 ล้านบาท ด้านแสนสิริ ฟุ้งยอดขาย2เดือนเศษทะลุ17,800ล้านบาท ล่าสุดประกาศปรับเป้าขายเพิ่มเป็น 21,500ล้านบาท จากเดิม20,000บล้านบาท

นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการ "ชิค ดิสทริคท์" รามคำแหง 53 ภายใต้บริษัทในเครือ เอ็ม เจ อาร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ภายในโครงการประกอบด้วย คอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ 20 อาคาร รวม 800 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.8 ล้านบาท และอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ขนาด 3 ห้องนอน จำนวน 112 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 7.3 ล้านบาท รวมถึงอาคารร้านค้าขนาด 3,000 ตร.ม. บนเนื้อที่ 30 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 3,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในปี 56 แล้วเสร็จในปี 58 รูปแบบโครงการมาจากที่อยู่อาศัยของศิลปินในกรุงปารีสย่านเลอ มาร์เร่ส์ เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบและสร้างสรรค์โครงการ

ทั้งนี้บริษัทเตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป โดยตั้งเป้า 6 เดือนจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท หลังจากโครงการนี้แล้ว เอ็ม เจ อาร์ฯ มีแผนจะพัฒนาโครงการมิกส์ยูสอีก 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเปิดตัวงได้ในช่วงปลายปีนี้

“สำหรับกระแสข้าวเรื่องภาวะฟองสบู่ มองว่าจะเกิดเฉพาะบางทำเล ในส่วนของทำเลย่านรามคำแหง , ลาดพร้าว , ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม มีซัพพลายในตลาดเพียง 5,000 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันสามารถขายได้แล้วราว 70-80% จึงทำให้มั่นใจว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในครั้งนี้จะไม่มีสถานการณ์ฟองสบู่ให้ต้องกังวล โดยตั้งเป้าปิดการขายได้ทั้งโครงการภายใน 2 ปี”

นอกจากนี้ยังเชื่อว่าตลาดคอนโดฯยังสามารถเติบโตได้ โดยเฉพาะส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าเนื่องจากการก่อสร้างมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อน คนรุ่นใหม่นิยมการอยู่อาศัยคอนโดฯมากกว่าบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์ เนื่องจากสะดวกสบาย ไม่ต้องดูแลมาก

สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทในปี 2556 ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 3-4 โครงการ มูลค่าแต่ละโครงการเฉลี่ยที่ 2,000-3,000 ล้านบาท (ไม่รวมโครงการของ MJR)โดยทั้งหมดอยู่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปัจจุบันมีที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการแล้ว 2 แปลง  เน้นพัฒนาโครงการคอนโดเป็นหลัก และจะมีโครงการมิกซ์ยูสอีก 1 โครงการ

ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) อยู่ที่ 7,000-8,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้ในปีนี้ 3,000 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 58 จากโครงการ EQUINOX และ ROYCE สำหรับปีนี้ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 10% จากเดิม 2,700 ล้านบาท ส่วนเป้ายอดขายตั้งไว้ที่ 2,000-3,000 ล้านบาท จากปี 2555 ที่ 2,600 ล้านบาท

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRIกล่าวว่า ผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 บริษัทประสบความสำเร็จ จากการจัดงาน Sansiri Life Comes Home 2013และลูกค้าให้การตอบรับในโครงการเปิดใหม่ของแสนสิริทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น การปิดการขายโครงการดีบุรา พรานนก มูลค่า 1,300 ล้านบาท โครงการโดมิเนียมEDGE Sukhumvit 23 (เอดจ์ สุขุมวิท 23) มูลค่า 2,900 ล้านบาท และโครงการ ดีคอนโด เนินพระ จังหวัดระยอง มูลค่า 600 ล้านบาท

ล่าสุดปิดการขายโครงการ เดอะ เบส พัทยากลาง มูลค่า 3,100 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวม ขณะนี้ (1 มกราคม – 11 มีนาคม 2556)คิดเป็นมูลค่ารวม17,800 ล้านบาทแล้ว จากยอดขายดังกล่าวทำให้บริษัทมีการพิจารณาปรับเป้ายอดขายในไตรมาสแรก จากเดิมที่ตั้งไว้ 20,000 ล้านบาท เป็น 21,500 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น