xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ยังไม่รับรอง"สุขุมพันธ์" อัด"จูดี้"เล่นละครลงสมัครผู้ว่าฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-กกต.ยังไม่พิจารณารับรอง “ชายหมู” เป็นผู้ว่าฯกทม. คาดเข้าที่ประชุมวันนี้ จับตารอประธานกกต. กลับมาก่อนหรือไม่ "เรืองไกร" ยื่นกกต.สอบ"ชายหมู-มาร์ค-อภิรักษ์" เปิดชื่อทีมงาน"ชายหมู" เกินกม.กำหนด เข้าข่ายหลอกลวง สัญญาว่าจะให้ ขณะที่เลือกตั้งจบ แต่"ปลอด"ยังไม่จบ โวยแพ้เพราะเจอวาทกรรม"เผาบ้าน เผาเมือง" ทำนายอีก 2 ปี"คุณชาย"ลาออก เพื่อไปเป็นหัวหน้าปชป.สู้ศึกเลือกตั้งส.ส. ด้านโฆษกปชป. ตอกกลับ เผาเมือง เป็นเรื่องจริงที่ประชาชนรับไม่ได้ ไม่ใช่วาทกรรม ซัด"จูดี้"ไม่จริงใจที่จะลงเลือกตั้ง เมื่อแพ้ก็รีบแจ้นกลับไปนั่ง รอง ผบ.ตร. ส่วนส.ว. เตือน ผบ.ทบ.ให้รับผิดชอบต่อประเทศชาติ อย่าทำตามคำสั่งใคร ข้องใจเขตทหารที่ "พงศพัศ" คะแนนนำ

วานนี้ ( 5 มี.ค.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวภายหลังการประชุมกกต.ว่า ที่ประชุมยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากกกต.กทม. เพิ่งเสนอเรื่องมา ยังไม่ได้มีการบรรจุลงในวาระ แต่กกต.ได้มีการพูดคุยกันว่า จะอาจจะมีการพิจารณาในการประชุมวันนี้ ( 6 มี.ค.) โดยองค์ประชุมจะมี กกต.เพียง 4 คน เนื่องจากนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. ติดภารกิจไปศึกษาดูงานของหลักสูตรนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 4-7 มี.ค.นี้ และจะมาทำงานในวันศุกร์ที่ 8 มี.ค. ดังนั้นองค์ประชุมกกต.ทั้ง 4 คน ก็จะต้องมีการหารือกันก่อนว่า จะพิจารณาประกาศรับรองผลหรือจะรอประธานกกต.กลับมาก่อน

เมื่อถามว่า หากรอประธานกกต. การประกาศรับรองผลจะทันหรือไม่ เพราะตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร กำหนดให้ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ต้องเข้าปฏิบัติหน้าที่ภายใน 7 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง นายภุชงค์ กล่าวว่า ต้องรอดูความชัดเจนของที่ประชุมกกต.ในวันนี้ (6 มี.ค.) ก่อน โดยในเรื่องของการประกาศรับรองผล ต้องยึดตามพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น และประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค) ฉบับที่ 32 ที่ให้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งภายใน 7 วัน หากไม่มีเรื่องร้องเรียน แต่ถ้ามีเรื่องร้องเรียนให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ถ้าไม่แล้วเสร็จ ให้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อน

ในกรณีของม.ร.ว.สุขุมพันธ์ นั้น มีเรื่องถูกร้องเรียนอยู่ 2 เรื่อง ดังนั้นจึงอยู่ที่การสืบสวนและดุลยพินิจของกกต. ที่หากเห็นว่าเรื่องที่มีการร้องเรียนนั้น ไม่มีความรุนแรง และงานของกรุงเทพมหานคร มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ผู้ว่าฯกทม. ต้องรีบเข้าไปสะสางแก้ไข ก็อาจจะมีการประกาศรับรองผลไปก่อนครบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดได้

** เตือนนร.ไปแจ้งป้องกันเสียสิทธิ

นายภุชงค์ ยังกล่าวอีกว่า จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 1,528,855 ราย โดยในจำนวนนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ติดสอบ GAT/PAT จำนวน 2,821 คน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 72 กำหนดให้บุคคลที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งภายใน 7 วัน หลังวันเลือกตั้ง ซึ่งก็คือภายในวันที่ 10 มี.ค. นี้ เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ 6 ประการ คือ 1. สิทธิในการยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น 2. สิทธิร้องคัดค้านการเลือกกำนันและผู้ใหญ่บ้าน 3. สิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น 4. สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน 5 .สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้สภาท้องถิ่นพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่น และ6. สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

"ในกรณีของนักเรียนที่ติดสอบ GAT/PAT ก็ทราบว่า ไม่กล้ามาใช้สิทธิเลือกตั้งเพราะกลัวจะกลับไปสอบไม่ทัน จึงอยากกำชับให้ผู้ปกครองเตือนให้บุตรหลานได้แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย เพื่อไม่ให้เสียสิทธิทั้ง 6 ประการ เพราะแม้สิทธิทั้งหมดจะเป็นสิทธิทางการเมือง แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญ โดยเฉพาะสิทธิในการที่จะถอดถอนสมาชิกหรือผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งในปีหน้าจะมีการเลือกตั้งส.ว. 57 ทางกกต.ก็จะได้แจ้งแผนงาน และวันเลือกตั้งให้กับทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการทราบแต่เนิ่นๆ เพื่อใช้ในการกำหนดวันทดสอบทางการศึกษาให้ไม่ตรงกับวันเลือกตั้ง" นายภุชงค์ กล่าว

** ร้อง"มาร์ค-ชายหมู" สัญญาว่าจะให้

วานนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อประธานกกต. ขอให้ตรวจสอบ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ในฐานะผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอภิสิทธิ์ นายอภิรักษ์ และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ออกนโยบายหาเสียงว่า จะตั้งผู้เชี่ยวชาญ และผู้ทรงคุณวุฒิ 31 คน ที่พร้อมจะทำงานร่วมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ หากได้กลับไปเป็นผู้ว่าฯกทม. อีกสมัย ว่าเข้าข่ายเป็นการสัญญาว่าจะให้ เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเอง ตามมาตรา 57(1) แห่งพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 หรือไม่

เนื่องจากนโยบายหาเสียงที่จะตั้งที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว เป็นการตั้งประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา และคณะที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. ตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 มาตรา 49 (3)ที่ มาตรา 57 กำหนดไว้ว่า ตำแหน่งดังกล่าว จะมีจำนวนรวมกันทั้งหมดเกิน 9 คนไม่ได้

อีกทั้งการออกนโยบายดังกล่าว ยังขัดต่อประกาศ กกต. เรื่องวิธีการ หรือลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2551 ข้อ 5(6) ที่กำหนดว่า ต้องเสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง ตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้กำหนด เช่น ตำแหน่งรองนายกฯ เลขานุการ เป็นต้น โดยให้เสนอได้ไม่เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนดไว้ และต้องมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า บุคคลดังกล่าวพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่และให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะปฏิบัติหน้าที่โดยส่งเอกสารหลักฐานให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบ

ดังนั้นการออกนโยบายหาเสียงเสนอตั้งกลุ่มบุคคลดังกล่าวจำนวนกว่า 30 คน ทั้งที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 9 คน จึงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขประกาศของกกต. อาจถือว่า มีการออกนโยบายหาเสียงที่ฝ่าฝืนบทกฎหมาย ตามมาตรา 57(1) แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 จึงขอให้ประธาน กกต. ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย

**จัดทีมรองผู้ว่าฯลงตัวต้นสัปดาห์หน้า

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ กกต. ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯกทม. ว่า น่าจะเร็วสุดในวันศุกร์ที่ 8 มี.ค. หรือต้นสัปดาห์หน้า และไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุใดๆที่กกต.จะไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เพราะมั่นใจว่า หากมีเรื่องร้องเรียน ก็สามารถชี้อแจงได้

ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนว่าพรรคมีการใส่ร้ายป้ายสี จากการปราศรัยเรื่องเผาบ้านเผาเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นว่ามีอะไร เพราะทั้งหมดไม่มีการใส่ร้ายป้ายสี เพราะอยู่บนพื้นที่ความเป็นจริงทั้งสิ้น และคนที่ระบุว่าถูกใส่ร้ายป้ายสี ก็ได้สาบาน และแพ้ไปแล้วเช่นกัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ทางกกต.เองก็ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหามาถึงม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แต่อย่างใด และตนมั่นใจว่า คนของพรรคเองก็ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฏหมายเลือกตั้ง จึงไม่กังวล เพราะเราพร้อมที่จะชี้แจงในทุกเรื่อง

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. 4 คนว่า ยังไม่มีข้อสรุป แต่ได้มีการหารือไปบ้างแล้วกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะมีบุคคลจำนวนมากที่อยู่ในข่ายที่จะได้รับการพิจารณา ทั้งที่เป็นคนในพรรค และนอกพรรค โดยจะใช้เวลาไม่นานเชื่อว่าต้นสัปดาห์หน้า น่าจะได้ข้อสรุป

ส่วนรายชื่อที่มีการเปิดเผยทางสื่อออกมานั้น ก็มีโอกาสทั้งได้เป็นและไม่ได้เป็น ขอยืนยันว่า ไม่มีเรื่องการวิ่งเต้นตำแหน่งเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะจะพิจารณาคนที่ทำงานตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้ และเสริมให้พรรคมีความเข้มแข็งมากขึ้น จึงต้องมีทั้งคนที่เป็นสมาชิกพรรค และคนนอกด้วย โดยคุณสมบัติของคนที่เป็นรองผู้ว่าฯกทม. ต้องเป็นคนที่เข้าใจกลไกการทำงานของ กทม. ซึ่งจะต้องประสานงานกับฝ่ายการเมืองกันเอง เช่น สภากทม. ข้าราชการ และภาคประชาสังคม ที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในนโยบายสำคัญ รวมถึงรัฐบาลด้วย

ดังนั้นหากใครที่มีประสบการณ์สามารถประสานงานเหล่านี้ได้ ก็จะทำงานได้ดี โดยไม่มีการแบ่งโควต้าทั้งในส่วนของพรรค และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะได้พูดชัดเจนแล้ว

**"ปลอด"โวยปชป. กุเรื่องผีหลอกประชาชน

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสาเหตุที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ แพ้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ว่า เกิดจากพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ใช้ความกลัวในการรณรงค์หาเสียง กล่าวโจมตีเรื่องเผาบ้านเผาเมือง ใส่ร้ายป้ายสี ต่างๆนานา ถือเป็นการหลอกประชาชน ว่าผีมีจริง ทั้งที่ผีไม่มีจริง อย่างไรก็ตาม สำหรับการทำงานของรัฐบาล ร่วมกับผู้ว่าฯกทม. นั้น หากเห็นว่าเป็นเรื่องดี รัฐบาลก็พร้อมที่ทำงานด้วย

"ก็พูดเรื่องเผาบ้านเผาเมือง บอกว่าเราจะมาฮุบประเทศบ้าง มีการพูดถึงนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าจะมาเป็นรองผู้ว่าฯ บ้าง ก็ปล่อยข่าวกันไป ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นความจริง ปชป.ใช้ความกลัวในการหาเสียง และบังเอิญคนกทม.ก็มีความกลัว" นายปลอดประสพ กล่าว และว่า ขอทำนายว่าอีก 4 ปีข้างหน้า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. แทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอีก 2 ปีข้างหน้า จะเห็น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลาออกจากผู้ว่าฯกทม. แล้วลงสมัครรับเลือกตั้ง ในฐานะบัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อสู้กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งใหญ่

**เผาเมือง เรื่องจริง ไม่ใช่วาทกรรม

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่า ไม่สบายใจที่พรรคเพื่อไทย ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง พยายามโทษปัจจัยต่างๆ ที่มีการหยิบยกมาอ้างเหตุผลความพ่ายแพ้ของตนเอง พรรคเพื่อไทย ควรขอบคุณประชาชนมากกว่าออกมาตีโพยตีพาย เพราะได้รับการสนับสนุนจากคนกรุงเทพฯไม่น้อย และหากความกลัวถ้ามีจริง ก็ไม่ได้เกิดจากวาทกรรมของพรรค หรือประชาชนกลุ่มใด แต่เกิดจากพฤติกรรมของคนในพรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรค ที่ทำให้คนกรุงเทพฯ เกิดความหวาดกลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะมาบริหารกทม. จนแปรเปลี่ยนเป็นความกล้า สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ให้บริหารกทม.อีกสมัยหนึ่ง เพราะวาทกรรมสร้างเรื่องหลอกใครไม่ได้ แต่คนกรุงเทพฯ เคยเห็นสภาพ กทม.โดนเผาหลายสิบจุด กลางเมืองหลวง จนฝังใจคนกรุงเทพฯ พรรคไม่ได้สร้างภาพเหล่านี้ขึ้นมา หรือแม้แต่คำว่า ยึดเมืองหลวง ก็สะท้อนจากพฤติกรรมในอดีตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคำพูดของ นายขวัญชัย ไพรพนา ที่แสดงอำนาจบาทใหญ่ ย้ายนายตำรวจกระทั่งคนกรุงเทพฯ ฉุกคิด แม้แต่นายจตุพร ก็ให้สัมภาษณ์ว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะได้เป็น ผบ.ตร. จากนั้นจะกลับมาเป็นผู้ว่าฯกทม. สะท้อนตัวตนบุคลากรในพรรคเพื่อไทย ลุแก่อำนาจ ใช้อำนาจเกินขอบเขต ซึ่ง เป็นสิ่งที่คนกรุงเทพปฏิเสธ และรับไม่ได้ จึงอยากให้มองพฤติกรรมของตัวเองในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เพราะคนกรุงเทพแสดงออกแล้วว่า ไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้นอีก 4 ปีข้างหน้า ควรปรับปรุงตัวเอง แก้ไขในสิ่งที่คนไม่เห็นด้วย แข่งขันด้านนโยบายจะเป็นประโยชน์กับคนกรุงเทพฯ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปมากกว่า

** "พงศพัศ"กลับเข้าตำรวจเห็นชัดไม่จริงใจ

ส่วนที่มีข่าวว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะกลับไปเป็นรอง ผบ.ตร. และมีข่าวว่า จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผบ.ตร.ในปีหน้านั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า แม้จะเป็นสิทธิที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่อยากให้พรรคเพื่อไทย และพล.ต.อ.พงศพัศรักษาน้ำใจคนที่เลือก พล.ต.อ.พงศพัศ เพราะแพ้ไม่ถึงสองวัน ก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีเจตนามาเป็นผู้ว่าฯกทม. เปรียบเสมือนเป็นโบนัส ได้ก็ดี ไม่ได้ก็กลับไปทำงานที่เดิม และจะได้รับการสนับสนุนให้เป็นเบอร์ 1 ขององค์กรตำรวจ พล.ต.อ.พงศพัศ ควรพูดให้ชัดว่า ที่หาเสียงตลอดกว่า 40 วัน เป็นเพียงแค่การสร้างภาพ เพื่อรอรับบำเหน็จในตำแหน่ง ผบ.ตร. หรือไม่ จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยใช้ความจริงใจแข่งขันทางการเมืองเพื่อดูแล กทม. สำหรับพรรคจะเดินหน้าทำต่อในสิ่งที่ประชาชนเห็นด้วย ส่วนไหนที่ต้องปรับปรุงหัวหน้าพรรค และบุคลากรทุกคนยินดีน้อมรับคำตำหนิติติง เพื่อให้การทำงานดียิ่งขึ้น

** ส.ว.ข้องใจผบ.ทบ.สั่งทหารเลือก"จูดี้"

ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อวานนี้ (5มี.ค.) นางตรึงใจ บุรณสมภพ ส.ว.สรรหา ได้หารือต่อที่ประชุม ถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่ผ่านมาว่า มีความพยายามสะสมคะแนนเสียงให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการย้ายประชาชน เข้ามาอยู่ในกทม. ฉะนั้นต้องแก้กม. ให้คนมีสิทธิ์เลือกตั้ง ต้องอยู่ในสำเนาทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 2 ปี และการย้ายชื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน และชั้นสัญญาบัตร จากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ในกทม.โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง แล้วถูกเรียกตัวมาปฏิบัติหน้าที่ ในกทม. จึงมีสิทธิ์เลือกตั้งด้วย ดังนั้นขอให้ตรวจสอบเรื่องอย่างจริงจัง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่มีหน้าที่มานั่งในหน่วยเลือกตั้ง นอกจากมารักษาความสงบ และยังมีการติดตั้งกล้อง ซีซีทีวี

นอกจากนี้ในเขตบางเขน ที่มีทหารประจำการอยู่ คะแนนเสียงของฝ่ายรัฐบาลชนะ ไม่ทราบว่ามีใครสั่งการหรือไม่ เพราะทหารมีระเบียบวินัย ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ถ้ามีการสั่งการจริง ก็ขอเตือนผบ.ทบ. ให้ทำตามอำนาจหน้าที่ที่รับผิดชอบต่อประเทศชาติ ทหารไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งของรัฐบาล ขอให้ถือคำปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทั้งทหารและตำรวจ จึงอยากเตือนไว้สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อๆไป

** องค์กรพิทักษ์รธน.อัดโพลกำมะลอ

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงสำนักโพลที่ทำการสำรวจการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในช่วงที่ผ่านมา ว่า เป็นโพลจอมปลอม ทำเพื่อสร้างกระแสชี้นำ โดยไม่มีหลักทางวิชาการรองรับ อาศัยชื่อเสียงของสถาบันฯ มาทำมาหากิน เพียงเพื่อสร้างผลประโยชน์เฉพาะสำนักตน โดยไม่แคร์การวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน ว่าเป็นการจัดทำโพลอันสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงวันเลือกตั้งก็ยังกล้าที่จะทำ "เอ็กซิตโพล" หรือ "เอนทรีโพล" เชลียร์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใด คนหนึ่งจนออกนอกหน้า จนถึงวินาทีสุดท้าย แต่กลับหน้าแตก เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงออกมาในทางตรงข้าม

" พฤติการณ์ของสำนักโพลต่างๆ ที่รู้ตัวเองดีอยู่แล้วว่า เป็นการเอาสถาบัน และข้ออ้างทางวิชาการมาทำมาหากิน ทำตัวเป็นมือปืนรับจ้าง โดยไม่สำเหนียกถึงผลกระทบที่ตามมาต่อพฤติการณ์ดังกล่าวเลย แถมเมื่อเกิดความผิดพลาด ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง กลับออกมาให้ข่าวตีกรรเชียง เลี่ยงความรับผิดชอบไปเสียสิ้น โดยไม่มีคราบของนักวิชาการหลงเหลืออยู่ หากแต่มีภาพของนักวิชาการกำมะลอเหลืออยู่เท่านั้น ที่สังคมควรจะรู้จัก และตราหน้าให้นักทำโพลเหล่านี้ สมาคมองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงใคร่ขอเรียกร้อง การแสดงความรับผิดชอบของสำนักโพลกำมะลอต่างๆ ที่มีพฤติการณ์การจัดทำโพล และวิเคราะห์ผลโพลต่าง ๆ ที่ออกมาผิดพลาด ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ด้วยการลาออก จากสำนักโพล หรือ สถาบันหลักที่ทรงเกียรติ ที่ตนเองสังกัดอยู่ และขอเรียกร้อง มิให้หน่วยงานราชการ หรือองค์การอิสระใดของรัฐไปว่าจ้างสำนักโพลต่างๆเหล่านี้อีก เพื่อกำจัดสำนักโพลกำมะลอ ที่อ้างหลักวิชาการบังหน้า ให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทยเสียที"
กำลังโหลดความคิดเห็น