คนกรุงผวา"แม้ว"กินรวบประเทศไทย แห่ออกมาเลือก"สุขุมพันธุ์" ทะลุเกินล้าน ทิ้งห่าง"พงศพัศ" เกือบ 2 แสนคะแนน ฉีกหน้า"เอ็นทรีโพล-เอ็กซิตโพล" ย่อยยับ "ยิ่งลักษณ์" ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยังยินดีร่วมทำงานกับผู้ว่าฯกทม.แบบไร้รอยต่อ "ชายหมู"ขอบคุณคนกรุงที่ไว้วางใจให้ปชป.บริหารกทม.ติดต่อกัน 16 ปี นักวิชาการชี้ ปชป.ใช้แผนสร้างความกลัวเรื่องเผาบ้านเผาเมือง-รองผู้ว่าฯตู่ ได้ผล แต่ความขัดแย้ง 2 ขั้วยังคงอยู่
การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เช้า เพราะเป็นการชี้ชะตาผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เบอร์ 16 จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นแชมป์เก่า กับพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 9 จากพรรคเพื่อไทย ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงมาช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่ พร้อมชูนโยบายการบริหารงานร่วมกับรัฐบาลอย่างไร้รอยต่อ ว่าที่สุดแล้วใครจะได้เป็นผู้ว่าฯกทม. ทำให้บางหน่วยเลือกตั้ง มีประชาชนไปรอใช้สิทธิ ตั้งแต่ก่อนเปิดหีบบัตรเลือกตั้งในเวลา 08.00 น. และแม้ว่าในช่วงสาย และช่วงบ่ายฝนจะตกลงมาอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง แต่ก็ยังมีผู้ออกไปใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงเวลาปิดหีบ 15.00 น.
** 4โพลชี้"จูดี้" เข้าวิน-นิด้าให้"คุณชาย"ชนะ
หลังการปิดหีบเลือกตั้ง โพลสำนักต่างๆก็ออกมาเปิดเผยผลการสำรวจ เอ็นทรีโพล และเอ็กซิตโพล โดย สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 7,080 คน ระหว่างวันที่ 1-3 มี.ค. (ก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง) พบว่า คะแนนนิยมของผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. อันดับ 1 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ 49.01% อันดับ 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร 39.65% อันดับ 3 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส 7.03% อันดับ 4 นายสุหฤท สยามวาลา 1.34% และอันดับ 5 นายโฆสิต สุวินิจจิต 0.88 %
โดยระบุด้วยว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะชนะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ 33 เขต สูสี 10 เขต แพ้ 7 เขต
ส่วนเอแบคโพล ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. คือ 3 วันก่อนวันเลือกตั้ง ปรากฏว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ได้ร้อยละ 45.9 ส่วน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ร้อยละ 34.1 โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 5,713 คน จาก 35 เขต
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล ยังยืนยันว่า ค่าความคลาดเคลื่อนในการสำรวจครั้งนี้อยู่ที่บวกลบ 5% นั่นคือ พล.ต.อ.พงศพัศ มีโอกาสชนะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อย่างแน่นอน
ด้านกรุงเทพโพล ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จะได้ร้อยละ 44.14 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะได้ร้อยละ 41.07 ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้ร้อยละ 6.94 นายสุหฤท สยามวาลา ได้ร้อยละ 2.81 และนายโฆษิต สุวินิจจิต ได้ร้อยละ 2.43
บ้านสมเด็จโพล ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พบว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ มีคะแนนนำ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ร้อยละ 40.02 ต่อ 38.54 ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้ร้อยละ 7.14
มีเพียง นิด้าโพล ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำนักเดียวเท่านั้น ที่ระบุว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร มีคะแนนนำ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ร้อยละ 43.16 ต่อ 41.45 ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้ร้อยละ 8.72 นายสุหฤท สยามวาลา ได้ร้อยละ 2.92 และ นายโฆษิต สุวินิจจิต ได้ร้อยละ 1.21
** ปชป.เริ่มคึกหลังผลคะแนนจริงออกนำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนการปิดหีบการลงคะแนน เมื่อเวลา 15 .00 น. เป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากมีกระแสข่าวลือว่า ผลสำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งหลายสำนักชี้ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีคะแนนตามหลัง พล.ต.อ.พงศพัศ อยู่ โดยมีเพียงบรรดาสื่อมวลชนติดตามรายงานข่าว ไร้เงาบรรดา ส.ส.ปชป. มาที่ทำการพรรค
กระทั่งเวลา 15.00 น. หลังจากที่ปิดการลงคะแนนเสียงแล้ว เจ้าหน้าที่พรรคได้นำโทรทัศน์จอใหญ่ มาติดตั้งเพื่อลุ้นผลการนับคะแนน ที่บริเวณหน้าลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม ขณะที่แกนนำและส.ส.ของพรรค อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน พร้อมด้วยกลุ่มผู้สนับสนุน เริ่มทยอยกันมาให้กำลังใจกันจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้น
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงอยู่ที่วังสวนผักกาด โดยกล่าวขอบคุณประชาชนชาว กทม. ที่ได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งที่มีฝนตกลงอย่างหนัก ซึ่งอาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการลงคะแนน อย่างไรก็ตาม ขอรอผลคะแนนจริงก่อนที่จะสรุปอะไร
ส่วนกรณีผลสำรวจความคิดเห็นทั้ง เอ็กซิทโพล และเอ็นทรีโพล ระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศจะเป็นผู้ชนะนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น และไม่ได้ติดตาม เพราะคิดว่ามีความคลาดเคลื่อนได้ง่าย ซึ่งที่ผ่านมาตนผ่านร้อนผ่านหนาวการเลือกตั้งมา 4 ครั้ง ผลสำรวจก็มีความคลาดเคลื่อนไปจากคะแนนจริงทุกครั้ง ฉะนั้นตนจึงมองว่า ผลสำรวจความคิดเห็นไม่สำคัญ แต่ก็ฟังหูไว้หู
"คนจริงต้องรอของจริง" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเริ่มมีการรายงานผลการนับคะแนนจากสื่อโทรทัศน์ช่องต่างๆ ปรากฏว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีคะแนนนำ พล.ต.อ.พงศพัศ อย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนพากันส่งเสียงเชียร์อย่างคึกคัก รวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และแกนนำพรรค ยืนลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ที่บริเวณชั้น 2 ของที่ทำการพรรค
**"สุขุมพันธุ์"ขอบคุณคนกรุงเทคะแนนให้
ต่อมาเวลา 18.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางไปที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแถลงข่าว หลังจากทราบผลคะแนนทิ้งห่างคู่แข่ง โดยกล่าวขอบคุณประชาชนชาวกทม. ที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และลงคะแนนเสียงให้กับตนอย่างท่วมท้น พร้อมทั้งขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และทีมงานของพรรคทุกคน รวมทั้งขอบคุณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่สัญญาว่า จะทำงานภายใต้การนำของตนอย่างไร้รอยต่อ และตนขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะนำเรื่องดีๆที่เป็นประโยชน์กับชาว กทม. ตนพร้อมทุกอย่าง ทุกเวลา นาที ที่จะทำงานกับรัฐบาลอย่างไร้รอยต่อ และขอใช้โอกาสนี้ขอเอื้อมมือไปหาประชาชนกว่า 8 แสนคน ที่ไม่ได้ลงคะแนนให้ตน เพื่อให้มาร่วมสร้างกทม. ร่วมกับตน ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตนได้ทำงานพัฒนากทม. ให้กับทุกคน และจากนี้ไป ขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมสร้างกรุงเทพฯ ด้วยกัน เพราะงานกทม. รอไม่ได้ ต้องเดินหน้าต่อไป โดยมีคนกทม. ร่วมเดินไปกับตน
"ผมขอสัญญาว่าจะทำงานหนัก และทุ่มเทกว่าเดิม เพราะถือว่าคนกทม.ให้สิ่งที่ไม่เคยให้ใครมาก่อน นั่นก็คือ ให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ ดูแล กทม. 12 ปี อย่างไม่ลังเล ชักช้า เพื่อที่จะให้ประชาธิปัตย์ ดูแล กทม. 16 ปี วันนี้ถือเป็นวันที่ผมเองจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต ว่าพรรคประชาธิปัตย์ และคนกทม.ให้โอกาสผมดูแลงานอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่ผมรัก ผมเกิด ดำรงชีวิต และพร้อมที่จะตายในเมืองแห่งนี้" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
**"ปู-จูดี้"แถลงยอมรับความพ่ายแพ้
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ในช่วงปิดหีบเลือกตั้ง บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก บรรดาแกนนำพรรค ผู้สนับสนุน และสื่อมวลชน ต่างไปรอการนับคะแนนจริง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หลังจากที่เอ็นทรีโพล และเอ็กซิตโพล ต่างระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศ มีคะแนนเหนือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
แต่เมื่อการนับคะแนนไปได้ระยะหนึ่ง ปรากฏว่าคะแนนของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ออกนำ พล.ต.อ.พงศพัศ ห่างไปเรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศเริ่มเงียบเหงา หลายคนเริ่มทะยอยเดินทางออกจากพรรค ส่วนบรรดาแกนนำพรรคก็เดินเข้า ออกห้องวอร์รูม ด้วยสีหน้าวิตกกังวล บางคนถึงกับออกปากด่าสำนักโพล ที่ผลการสำรวจผิดไปจากความเป็นจริง
จนกระทั่งเวลา 18.00น. ซึ่งเป็นเวลาที่การนับคะแนนใกล้เสร็จสิ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่ ที่ทำการพรรค และ แถลงข่าวร่วมกับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลาธิการพรรคฯ และ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยโดยพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ผู้สมัครการเลือกตั้ง มีโอกาสได้พบเจอ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บ่อยครั้ง ซึ่งการหาเสียงครั้งนี้ เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งอวยพรให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ประสบความสำเร็จในการบริหาร กทม.ใน 4 ข้างหน้า และตนเองพร้อมจะให้ความช่วยเหลือด้วยความยินดี และเต็มใจ พร้อมร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับคน กทม. ต่อไป และในอนาคต หากตนสามารถ ทำอะไรให้ชาว กทม.ได้ ก็จะทำเต็มที่
ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่ได้รับความใว้วางใจจากประชาชน และขอบคุณชาวกทม. ที่ให้การสนับสนุนผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย และแม้ผู้สมัครของพรรคจะไม่ได้เป็น ผู้ว่าฯกทม. แต่รัฐบาลก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ อย่างไร้รอยต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการพิสูจน์คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยในกทม. อย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า เวลานี้พรรคเพื่อไทยยังไม่มีโอกาสได้มีตัวแทนทำงานรับใช้คนกทม. แต่รัฐบาลมีหน้าที่ทำงานให้กับทุกคน และพร้อมทำงานร่วมกับผู้ว่าฯกทม.อย่างเต็มที่ เมื่อถามว่ายอมรับความพ่ายแพ้ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ที่มาแถลงวันนี้ ก็เพื่อแสดงความยินดีกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บางพื้นที่มีคะแนนเพิ่มขึ้น ก็จะนำคะแนนนี้ไปเป็นกำลังใจในการทำงานในภาพรวม ในฐานะที่เป็นรัฐบาล และการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันระหว่างพรรคใหญ่ กับพรรคใหญ่ จากนี้ก็ต้องทำงานร่วมกัน
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ ผลโพลระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะชนะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องให้สำนักโพลประเมิน แต่พรรคเคารพการตัดสินใจทุกคะแนน และนำทุกคะแนนไปปรับปรุงการทำงาน ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เมื่อถามว่า ประเมินพฤติกรรมของคนกรุงเทพอย่างไร กับการเลือกตั้งครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ได้นำเสนอนโยบาย กทม. มีหลากหลายกลุ่ม เพื่อไทยทำงานในระดับภาพรวม คงต้องไปทำงานให้เต็มที่มากขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ เสียใจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยิ้มพร้อมตอบว่า ไม่เสียใจ เพราะเราทำเต็มที่แล้ว
เมื่อถามว่าจะให้ พล.ต.อ.พงศพัศ กลับไปเป็นเลขาฯปปส. เหมือนเดิมหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า หลังกลับจากต่างประเทศ จะพิจารณา อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกเหนื่อยเปล่ากับการหาเสียงที่ผ่านมา ยิ่งต้องทำงานให้หนักขึ้น และทำงานเต็มที่เพื่อให้ไม่มีรอยต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สีหน้านายกฯ ก่อนที่จะมาร่วมแถลงข่าวกับแกนนำพรรค มีสีหน้าที่เรียบเฉย ไม่ยิ้มแย้มเหมือนทุกครั้ง โดยพยายามไม่แสดงความรู้สึก ที่พรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้ง
**"สุหฤท"ลั่นไม่มีอะไรต้องผิดหวัง
เมื่อเวลา 16.10 น. วานนี้ นายสุหฤท สยามวาลา ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 17 ในนามอิสระ ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ @Suharit ระบุว่า "ขอบคุณครับทุกเสียงนะครับ มันมีค่าตลอดไป" และ "ชีวิตผมตอนนี้ยิ่งคึกคักมากกว่าเดิมครับ ไม่มีอะไรต้องผิดหวัง มีแต่ความหวังที่จะลุยชีวิตให้ติดขอบต่อไป"
นอกจากนี้ นายสุหฤท ยังได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ขอบคุณทุกเสียงนะครับ ผมทำทุกอย่างสมบูรณ์แล้วครับ และรู้สึกคึกคักกว่าเดิมครับ ลุยกับชีวิตต่อไปครับ สุหฤท ไม่มีเบอร์แล้ว "
นายสุหฤท ยังกล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ อาจเชิญเข้าร่วมเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ว่า คนเก่งของพรรคประชาธิปัตย์ มีมาก และตนยังไม่ได้รับการติดต่อ ได้ยินกรณีนี้ผ่านสื่อเช่นกัน ถ้าชวนในสิ่งไม่ถนัด ก็ไม่อยากเข้าร่วม
**คะแนน"สุขุมพันธุ์"ทะลุ 1.25 ล้าน
ต่อมาเวลา เวลา 20.08 น. ซึ่งผลการนับคะแนน การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อย่างไม่เป็นทางการ เสร็จสิ้นครบ ทั้ง 6,548 หน่วยเลือกตั้ง ปรากฏว่า ลำดับที่ 1 ได้แก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 16 ได้ 1,256,231 คะแนน ลำดับที่ 2 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 9 ได้ 1,077,899 คะแนน ลำดับที่ 3 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หมายเลข 11 ได้ 166,582 คะแนนลำดับที่ 4 นายสุหฤท สยามวาลา หมายเลข 17 ได้ 78,825 คะแนน ลำดับที่ 5 นายโฆสิต สุวินิจจิต หมายเลข 10 ได้ 28,640 คะแนน มีผู้ออกมาใช้สิทธิ ร้อยละ 63.9 บัตรดี 2,630,890 ใบ คิดเป็นร้อยละ 96.8 บัตรเสีย 37,300 ใบ คิดเป็นร้อยละ 1.37 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 47,448ใบ คิดเป็นร้อยละ1.75 เขตทวีวัฒนา มาใช้สิทธิมากสุด ร้อยละ 70.8 เขตดุสิต มาใช้สิทธิน้อยสุด คิดเป็นร้อยละ 56.8
**คนกลัวเผาบ้านเผาเมือง-รองผู้ว่าฯตู่
นายยุทธพร อิสระชัย คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ ว่า ปัจจัยสำคัญเนื่องจาก สก. และ สข. ซึ่งเป็นฐานเสียงของประชาธิปัตย์ กลับมาช่วยพรรค และเมื่อดูจากตัวเลขผู้มาใช้สิทธิ ร้อยละ 50 ดูแล้วคะแนนส่วนใหญ่ เกิดจากคะแนนจัดตั้งของประชาธิปัตย์ นอกจากนี้เมื่อดูสภาพแวดล้อม ความขัดแย้งของพรรคเพื่อไทย ก็เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ชนะ เพราะเมื่อดูจากฐานเสียงในพื้นที่ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสความขัดแย้งกับ พล.ต.อ.พงศพัศ ก็พบว่า พื้นที่ฐานเสียงของคุณหญิงสุดารัตน์ ก็ชนะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มาก ขณะเดียวกันประชาธิปัตย์ ดูแลท้องถิ่นมานาน ก็อาจจะมีความได้เปรียบพรรคเพื่อไทย
"แต่กลยุทธ์ที่ประชาธิปัตย์ ชนะได้จริงๆ คือการปล่อยกระแสข่าวเรื่องการเผาบ้านเผาเมือง หรือการปล่อยข่าวเรื่อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะมาเป็นรองผู้ว่าฯกทม. ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นการกระตุกต่อมความกลัวของคนกทม. ให้กลับมาเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ นอกจากนี้ยังมีแก๊งก่อโหวต ที่เข้ามาช่วยหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย" นายยุทธพร กล่าวส่วนการทำงานของผู้ว่าฯกทม.หลังจากนี้ ก็เชื่อว่าจะเดินไปได้ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัญญาประชาคมแล้วว่า จะทำงานร่วมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งตนก็เชื่อว่า จะเป็นเช่นนั้น
ขณะที่นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แม้ประชาธิปัตย์ จะมีคะแนนจัดตั้งที่เหนือกว่าเพื่อไทย และเชื่อว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 9 แสน มาตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนที่มากกว่านั้นถือว่าเป็นโบนัส แต่คะแนนที่ได้รับนั้นจะถูกบิดเบือนว่า ม.ร.ว สุขุมพันธุ์ ชนะ เพราะใช้เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง มาเป็นเงื่อนไข ที่ไปปลุกความกลัวคนกรุงเทพ ขึ้นมา
ดังนั้นการทำงานหน้าที่ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในฐานะผู้ว่าฯกทม. ก็จะขาดการยอมรับจากคนเสื้อแดง ซึ่งแตกต่างจากเหตุการณ์การชุมนุม ปี 2553 ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้วางตัวเป็นกลางอย่างสม่ำเสมอ หลังจากนี้ตนไม่แน่ใจว่า พรรคเพื่อไทย จะนำประเด็นดังกล่าวไปขยายผลต่อไปอย่างไร หรือไม่
นอกจากนี้คนกรุงเทพฯ อาจจะกลัวเรื่องการทำงานไร้รอยต่อของเพื่อไทย เพราะว่าเห็นการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทำให้ไม่เกิดศรัทธาที่จะเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ เพราะเกรงว่าจะไม่มีประสิทธิภาพเหมือนอย่างเช่นการบริหารงานของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามดูต่อว่า คะแนนของพล.ต.อ.พงศพัศ จะมีจำนวนมากหรือไม่ เพราะหากได้จำนวนที่มาก ย่อมส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งส.ส.กทม. ในสมัยหน้า ซึ่งประชาธิปัตย์ จะมีความยากลำบากมากขึ้น
** "ปู"รอลุ้นผลเลือกตั้งก่อนบินไปสวีเดน
สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้า บรรดาแกนนำพรรค ต่างก็เดินทางไปลงคะแนนเลือกผู้ว่าฯกทม.ที่ตนเองสนับสนุน โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 32 โรงเรียนคลองลำเจียก แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม และให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องของการทุจริตเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เลือกตั้งเป็นคนดูแล โดยตนเองจะไปรอลุ้นคะแนนเสียงอยู่ที่บ้าน จะรอดูการนับคะแนนก่อนเดินทางไปต่างประเทศ
ทั้งนี้ เวลา 24.00 น. นายกฯ จะเดินทางเยือนราชอาณาจักรสวีเดน ราชอาณาจักรเบลเยียม และสหภาพยุโรป อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค. ในโอกาสนี้นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมระหว่างทีมประเทศไทยกลุ่ม ประเทศนอร์ดิก และภาคเอกชน เวลาต่อมานายรัฐมนตรีพบผู้บริหารบริษัทชั้นนำของสวีเดน พบหารือทวิภาคี กับนายเฟรดริก ไรน์เฟลด์ท นายกรัฐมนตรีสวีเดน ณ ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่การประชุมครม.ในวันที่ 5 มี.ค.นั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ คนที่ 1 จะเป็นประธานการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ เดินทางออกจากบ้านพัก ซอยโยธินพัฒนา 3 ด้วยรถยนต์หมายเลข ทะเบียน นบ 1 กรุงเทพ โดยนายกฯ สวมเสื้อสีฟ้าคราม กางเกงสีดำ มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ทั้งนี้นายกฯได้กำชับทีมรักษาความปลอดภัยให้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สวมเครื่องแบบดูแลความเรียบร้อยประจำหน่วยเลือกตั้ง ห้ามมาคอยเดินตาม และให้เจ้าหน้าที่ไปขอร้องประชาชนที่มาลงคะแนน ไม่ให้ตะโกนเชียร์ และให้ดอกไม้ เนื่องจากเกรงว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง
**“มาร์ค”วอนคนกรุงใช้สิทธิสะท้อนความต้องการ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา เพียงคนเดียว โดยมีรายชื่ออยู่ลำดับที่ 47
ทั้งนี้นางพิมเพ็ญ เวชชาชีวะ ภรรยานายอภิสิทธิ์ มีสิทธิเลือกตั้งในลำดับที่ 51 น.ส.ปราง เวชชาชีวะ บุตรสาวอย่ในลำดับที่49 และ นายปัณณสิทธิ์ เวชชาชีวะ บุตรชาย อยู่ในลำดับที่ 50 โดยถือเป็นการใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกของ นายปัณณสิทธิ์
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ออกมาใช้สิทธิ เพื่อทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม รวมทั้งสะท้อนความต้องการของชาวกทม. อย่างแท้จริง จึงขอให้ออกมาใช้สิทธิให้ครบถ้วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในหน่วยเลือกตั้งนี้ มีบุคคลสำคัญมาลงคะแนนเสียง อาทิ นายอำพล กิตติอำพล เลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายวิจิตร สุพินิจ อดีตผู้ว่าฯ ธปท.
** “จูดี้”ควง“คุณนายกิม”ออกมาใช้สิทธิ
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางกรภัณณ์ พงษ์เจริญ ภรรยา ได้ออกมาใช้สิทธิ ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 26 อาคารโรงรถบริเวณกองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร เมื่อเวลา 09.39น. โดบพล.ต.อ.พงศพัศ ได้ทักทายประชาชนที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะตรวจสอบรายชื่อและทำการลงคะแนน โดยพล.ต.อ.พงศพัศ อยู่ในลำดับที่ 19 และภรรยาอยู่ในลำดับที่ 17
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 07.20 น. พล.ต.อ.พงศพัศ และภรรยาได้เดินทางไปทำบุญถวายสังฆทาน ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อมาได้เดินแวะไปทานกาแฟที่ ร้านแมคโดนัลด์ อเวนิว รัชโยธิน ก่อนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
**ปธ.กกต.ใช้สิทธิก่อนตรวจความเรียบร้อย
ขณะที่ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย นางสุธาสินี สุขัคคานนท์ ภรรยา เดินทางมายังหน่วยเลือกตั้งที่ 34 ภายในบริเวณโรงเรียนวัดเลียบราษฎร์บำรุง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยภายในหน่วยเลือกตั้ง ก่อนที่จะใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่หน่วยเลือกตั้งเดียวกันนี้
และเมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง นางสุธาสินี ภรรยานายอภิชาต ก็ได้เดินไปที่กระดานที่ติดบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งอยู่ในสำดับที่ 244 และได้เลือกตั้งเป็นคนแรก หลังเจ้าหน้าที่ทำการเปิดหีบบัตรเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายอภิชาต ลงคะแนนเสร็จสิ้น ก็ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งตามเขตต่างๆ ในพื้นที่เขตบางซื่อ และเขตพญาไท เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยต่อไป และในเวลา 15.00 น. นายอภิชาต พร้อมด้วยนักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง(พตส.) รุ่นที่4 ของกกต. จะเดินทางไปสังเกตการณ์ การปิดหีบบัตรเลือกตั้ง และการนับคะแนนเลือกตั้งในเขตพระนคร พร้อมไปสังเกตการณ์การรวมผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ที่ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ ชั้น 1 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อีกด้วย
การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เช้า เพราะเป็นการชี้ชะตาผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เบอร์ 16 จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นแชมป์เก่า กับพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 9 จากพรรคเพื่อไทย ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงมาช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่ พร้อมชูนโยบายการบริหารงานร่วมกับรัฐบาลอย่างไร้รอยต่อ ว่าที่สุดแล้วใครจะได้เป็นผู้ว่าฯกทม. ทำให้บางหน่วยเลือกตั้ง มีประชาชนไปรอใช้สิทธิ ตั้งแต่ก่อนเปิดหีบบัตรเลือกตั้งในเวลา 08.00 น. และแม้ว่าในช่วงสาย และช่วงบ่ายฝนจะตกลงมาอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง แต่ก็ยังมีผู้ออกไปใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงเวลาปิดหีบ 15.00 น.
** 4โพลชี้"จูดี้" เข้าวิน-นิด้าให้"คุณชาย"ชนะ
หลังการปิดหีบเลือกตั้ง โพลสำนักต่างๆก็ออกมาเปิดเผยผลการสำรวจ เอ็นทรีโพล และเอ็กซิตโพล โดย สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 7,080 คน ระหว่างวันที่ 1-3 มี.ค. (ก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง) พบว่า คะแนนนิยมของผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. อันดับ 1 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ 49.01% อันดับ 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร 39.65% อันดับ 3 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส 7.03% อันดับ 4 นายสุหฤท สยามวาลา 1.34% และอันดับ 5 นายโฆสิต สุวินิจจิต 0.88 %
โดยระบุด้วยว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะชนะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ 33 เขต สูสี 10 เขต แพ้ 7 เขต
ส่วนเอแบคโพล ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. คือ 3 วันก่อนวันเลือกตั้ง ปรากฏว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ได้ร้อยละ 45.9 ส่วน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ร้อยละ 34.1 โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 5,713 คน จาก 35 เขต
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล ยังยืนยันว่า ค่าความคลาดเคลื่อนในการสำรวจครั้งนี้อยู่ที่บวกลบ 5% นั่นคือ พล.ต.อ.พงศพัศ มีโอกาสชนะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อย่างแน่นอน
ด้านกรุงเทพโพล ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จะได้ร้อยละ 44.14 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะได้ร้อยละ 41.07 ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้ร้อยละ 6.94 นายสุหฤท สยามวาลา ได้ร้อยละ 2.81 และนายโฆษิต สุวินิจจิต ได้ร้อยละ 2.43
บ้านสมเด็จโพล ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พบว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ มีคะแนนนำ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ร้อยละ 40.02 ต่อ 38.54 ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้ร้อยละ 7.14
มีเพียง นิด้าโพล ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำนักเดียวเท่านั้น ที่ระบุว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร มีคะแนนนำ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ร้อยละ 43.16 ต่อ 41.45 ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้ร้อยละ 8.72 นายสุหฤท สยามวาลา ได้ร้อยละ 2.92 และ นายโฆษิต สุวินิจจิต ได้ร้อยละ 1.21
** ปชป.เริ่มคึกหลังผลคะแนนจริงออกนำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนการปิดหีบการลงคะแนน เมื่อเวลา 15 .00 น. เป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากมีกระแสข่าวลือว่า ผลสำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งหลายสำนักชี้ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีคะแนนตามหลัง พล.ต.อ.พงศพัศ อยู่ โดยมีเพียงบรรดาสื่อมวลชนติดตามรายงานข่าว ไร้เงาบรรดา ส.ส.ปชป. มาที่ทำการพรรค
กระทั่งเวลา 15.00 น. หลังจากที่ปิดการลงคะแนนเสียงแล้ว เจ้าหน้าที่พรรคได้นำโทรทัศน์จอใหญ่ มาติดตั้งเพื่อลุ้นผลการนับคะแนน ที่บริเวณหน้าลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม ขณะที่แกนนำและส.ส.ของพรรค อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน พร้อมด้วยกลุ่มผู้สนับสนุน เริ่มทยอยกันมาให้กำลังใจกันจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้น
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงอยู่ที่วังสวนผักกาด โดยกล่าวขอบคุณประชาชนชาว กทม. ที่ได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งที่มีฝนตกลงอย่างหนัก ซึ่งอาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการลงคะแนน อย่างไรก็ตาม ขอรอผลคะแนนจริงก่อนที่จะสรุปอะไร
ส่วนกรณีผลสำรวจความคิดเห็นทั้ง เอ็กซิทโพล และเอ็นทรีโพล ระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศจะเป็นผู้ชนะนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น และไม่ได้ติดตาม เพราะคิดว่ามีความคลาดเคลื่อนได้ง่าย ซึ่งที่ผ่านมาตนผ่านร้อนผ่านหนาวการเลือกตั้งมา 4 ครั้ง ผลสำรวจก็มีความคลาดเคลื่อนไปจากคะแนนจริงทุกครั้ง ฉะนั้นตนจึงมองว่า ผลสำรวจความคิดเห็นไม่สำคัญ แต่ก็ฟังหูไว้หู
"คนจริงต้องรอของจริง" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเริ่มมีการรายงานผลการนับคะแนนจากสื่อโทรทัศน์ช่องต่างๆ ปรากฏว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีคะแนนนำ พล.ต.อ.พงศพัศ อย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนพากันส่งเสียงเชียร์อย่างคึกคัก รวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และแกนนำพรรค ยืนลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ที่บริเวณชั้น 2 ของที่ทำการพรรค
**"สุขุมพันธุ์"ขอบคุณคนกรุงเทคะแนนให้
ต่อมาเวลา 18.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางไปที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแถลงข่าว หลังจากทราบผลคะแนนทิ้งห่างคู่แข่ง โดยกล่าวขอบคุณประชาชนชาวกทม. ที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และลงคะแนนเสียงให้กับตนอย่างท่วมท้น พร้อมทั้งขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และทีมงานของพรรคทุกคน รวมทั้งขอบคุณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่สัญญาว่า จะทำงานภายใต้การนำของตนอย่างไร้รอยต่อ และตนขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะนำเรื่องดีๆที่เป็นประโยชน์กับชาว กทม. ตนพร้อมทุกอย่าง ทุกเวลา นาที ที่จะทำงานกับรัฐบาลอย่างไร้รอยต่อ และขอใช้โอกาสนี้ขอเอื้อมมือไปหาประชาชนกว่า 8 แสนคน ที่ไม่ได้ลงคะแนนให้ตน เพื่อให้มาร่วมสร้างกทม. ร่วมกับตน ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตนได้ทำงานพัฒนากทม. ให้กับทุกคน และจากนี้ไป ขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมสร้างกรุงเทพฯ ด้วยกัน เพราะงานกทม. รอไม่ได้ ต้องเดินหน้าต่อไป โดยมีคนกทม. ร่วมเดินไปกับตน
"ผมขอสัญญาว่าจะทำงานหนัก และทุ่มเทกว่าเดิม เพราะถือว่าคนกทม.ให้สิ่งที่ไม่เคยให้ใครมาก่อน นั่นก็คือ ให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ ดูแล กทม. 12 ปี อย่างไม่ลังเล ชักช้า เพื่อที่จะให้ประชาธิปัตย์ ดูแล กทม. 16 ปี วันนี้ถือเป็นวันที่ผมเองจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต ว่าพรรคประชาธิปัตย์ และคนกทม.ให้โอกาสผมดูแลงานอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่ผมรัก ผมเกิด ดำรงชีวิต และพร้อมที่จะตายในเมืองแห่งนี้" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
**"ปู-จูดี้"แถลงยอมรับความพ่ายแพ้
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ในช่วงปิดหีบเลือกตั้ง บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก บรรดาแกนนำพรรค ผู้สนับสนุน และสื่อมวลชน ต่างไปรอการนับคะแนนจริง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หลังจากที่เอ็นทรีโพล และเอ็กซิตโพล ต่างระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศ มีคะแนนเหนือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
แต่เมื่อการนับคะแนนไปได้ระยะหนึ่ง ปรากฏว่าคะแนนของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ออกนำ พล.ต.อ.พงศพัศ ห่างไปเรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศเริ่มเงียบเหงา หลายคนเริ่มทะยอยเดินทางออกจากพรรค ส่วนบรรดาแกนนำพรรคก็เดินเข้า ออกห้องวอร์รูม ด้วยสีหน้าวิตกกังวล บางคนถึงกับออกปากด่าสำนักโพล ที่ผลการสำรวจผิดไปจากความเป็นจริง
จนกระทั่งเวลา 18.00น. ซึ่งเป็นเวลาที่การนับคะแนนใกล้เสร็จสิ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่ ที่ทำการพรรค และ แถลงข่าวร่วมกับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลาธิการพรรคฯ และ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยโดยพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ผู้สมัครการเลือกตั้ง มีโอกาสได้พบเจอ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บ่อยครั้ง ซึ่งการหาเสียงครั้งนี้ เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งอวยพรให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ประสบความสำเร็จในการบริหาร กทม.ใน 4 ข้างหน้า และตนเองพร้อมจะให้ความช่วยเหลือด้วยความยินดี และเต็มใจ พร้อมร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับคน กทม. ต่อไป และในอนาคต หากตนสามารถ ทำอะไรให้ชาว กทม.ได้ ก็จะทำเต็มที่
ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่ได้รับความใว้วางใจจากประชาชน และขอบคุณชาวกทม. ที่ให้การสนับสนุนผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย และแม้ผู้สมัครของพรรคจะไม่ได้เป็น ผู้ว่าฯกทม. แต่รัฐบาลก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ อย่างไร้รอยต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการพิสูจน์คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยในกทม. อย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า เวลานี้พรรคเพื่อไทยยังไม่มีโอกาสได้มีตัวแทนทำงานรับใช้คนกทม. แต่รัฐบาลมีหน้าที่ทำงานให้กับทุกคน และพร้อมทำงานร่วมกับผู้ว่าฯกทม.อย่างเต็มที่ เมื่อถามว่ายอมรับความพ่ายแพ้ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ที่มาแถลงวันนี้ ก็เพื่อแสดงความยินดีกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บางพื้นที่มีคะแนนเพิ่มขึ้น ก็จะนำคะแนนนี้ไปเป็นกำลังใจในการทำงานในภาพรวม ในฐานะที่เป็นรัฐบาล และการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันระหว่างพรรคใหญ่ กับพรรคใหญ่ จากนี้ก็ต้องทำงานร่วมกัน
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ ผลโพลระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะชนะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องให้สำนักโพลประเมิน แต่พรรคเคารพการตัดสินใจทุกคะแนน และนำทุกคะแนนไปปรับปรุงการทำงาน ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เมื่อถามว่า ประเมินพฤติกรรมของคนกรุงเทพอย่างไร กับการเลือกตั้งครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ได้นำเสนอนโยบาย กทม. มีหลากหลายกลุ่ม เพื่อไทยทำงานในระดับภาพรวม คงต้องไปทำงานให้เต็มที่มากขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ เสียใจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยิ้มพร้อมตอบว่า ไม่เสียใจ เพราะเราทำเต็มที่แล้ว
เมื่อถามว่าจะให้ พล.ต.อ.พงศพัศ กลับไปเป็นเลขาฯปปส. เหมือนเดิมหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า หลังกลับจากต่างประเทศ จะพิจารณา อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกเหนื่อยเปล่ากับการหาเสียงที่ผ่านมา ยิ่งต้องทำงานให้หนักขึ้น และทำงานเต็มที่เพื่อให้ไม่มีรอยต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สีหน้านายกฯ ก่อนที่จะมาร่วมแถลงข่าวกับแกนนำพรรค มีสีหน้าที่เรียบเฉย ไม่ยิ้มแย้มเหมือนทุกครั้ง โดยพยายามไม่แสดงความรู้สึก ที่พรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้ง
**"สุหฤท"ลั่นไม่มีอะไรต้องผิดหวัง
เมื่อเวลา 16.10 น. วานนี้ นายสุหฤท สยามวาลา ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 17 ในนามอิสระ ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ @Suharit ระบุว่า "ขอบคุณครับทุกเสียงนะครับ มันมีค่าตลอดไป" และ "ชีวิตผมตอนนี้ยิ่งคึกคักมากกว่าเดิมครับ ไม่มีอะไรต้องผิดหวัง มีแต่ความหวังที่จะลุยชีวิตให้ติดขอบต่อไป"
นอกจากนี้ นายสุหฤท ยังได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ขอบคุณทุกเสียงนะครับ ผมทำทุกอย่างสมบูรณ์แล้วครับ และรู้สึกคึกคักกว่าเดิมครับ ลุยกับชีวิตต่อไปครับ สุหฤท ไม่มีเบอร์แล้ว "
นายสุหฤท ยังกล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ อาจเชิญเข้าร่วมเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ว่า คนเก่งของพรรคประชาธิปัตย์ มีมาก และตนยังไม่ได้รับการติดต่อ ได้ยินกรณีนี้ผ่านสื่อเช่นกัน ถ้าชวนในสิ่งไม่ถนัด ก็ไม่อยากเข้าร่วม
**คะแนน"สุขุมพันธุ์"ทะลุ 1.25 ล้าน
ต่อมาเวลา เวลา 20.08 น. ซึ่งผลการนับคะแนน การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อย่างไม่เป็นทางการ เสร็จสิ้นครบ ทั้ง 6,548 หน่วยเลือกตั้ง ปรากฏว่า ลำดับที่ 1 ได้แก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 16 ได้ 1,256,231 คะแนน ลำดับที่ 2 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 9 ได้ 1,077,899 คะแนน ลำดับที่ 3 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หมายเลข 11 ได้ 166,582 คะแนนลำดับที่ 4 นายสุหฤท สยามวาลา หมายเลข 17 ได้ 78,825 คะแนน ลำดับที่ 5 นายโฆสิต สุวินิจจิต หมายเลข 10 ได้ 28,640 คะแนน มีผู้ออกมาใช้สิทธิ ร้อยละ 63.9 บัตรดี 2,630,890 ใบ คิดเป็นร้อยละ 96.8 บัตรเสีย 37,300 ใบ คิดเป็นร้อยละ 1.37 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 47,448ใบ คิดเป็นร้อยละ1.75 เขตทวีวัฒนา มาใช้สิทธิมากสุด ร้อยละ 70.8 เขตดุสิต มาใช้สิทธิน้อยสุด คิดเป็นร้อยละ 56.8
**คนกลัวเผาบ้านเผาเมือง-รองผู้ว่าฯตู่
นายยุทธพร อิสระชัย คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ ว่า ปัจจัยสำคัญเนื่องจาก สก. และ สข. ซึ่งเป็นฐานเสียงของประชาธิปัตย์ กลับมาช่วยพรรค และเมื่อดูจากตัวเลขผู้มาใช้สิทธิ ร้อยละ 50 ดูแล้วคะแนนส่วนใหญ่ เกิดจากคะแนนจัดตั้งของประชาธิปัตย์ นอกจากนี้เมื่อดูสภาพแวดล้อม ความขัดแย้งของพรรคเพื่อไทย ก็เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ชนะ เพราะเมื่อดูจากฐานเสียงในพื้นที่ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสความขัดแย้งกับ พล.ต.อ.พงศพัศ ก็พบว่า พื้นที่ฐานเสียงของคุณหญิงสุดารัตน์ ก็ชนะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มาก ขณะเดียวกันประชาธิปัตย์ ดูแลท้องถิ่นมานาน ก็อาจจะมีความได้เปรียบพรรคเพื่อไทย
"แต่กลยุทธ์ที่ประชาธิปัตย์ ชนะได้จริงๆ คือการปล่อยกระแสข่าวเรื่องการเผาบ้านเผาเมือง หรือการปล่อยข่าวเรื่อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะมาเป็นรองผู้ว่าฯกทม. ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นการกระตุกต่อมความกลัวของคนกทม. ให้กลับมาเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ นอกจากนี้ยังมีแก๊งก่อโหวต ที่เข้ามาช่วยหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย" นายยุทธพร กล่าวส่วนการทำงานของผู้ว่าฯกทม.หลังจากนี้ ก็เชื่อว่าจะเดินไปได้ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัญญาประชาคมแล้วว่า จะทำงานร่วมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งตนก็เชื่อว่า จะเป็นเช่นนั้น
ขณะที่นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แม้ประชาธิปัตย์ จะมีคะแนนจัดตั้งที่เหนือกว่าเพื่อไทย และเชื่อว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 9 แสน มาตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนที่มากกว่านั้นถือว่าเป็นโบนัส แต่คะแนนที่ได้รับนั้นจะถูกบิดเบือนว่า ม.ร.ว สุขุมพันธุ์ ชนะ เพราะใช้เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง มาเป็นเงื่อนไข ที่ไปปลุกความกลัวคนกรุงเทพ ขึ้นมา
ดังนั้นการทำงานหน้าที่ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในฐานะผู้ว่าฯกทม. ก็จะขาดการยอมรับจากคนเสื้อแดง ซึ่งแตกต่างจากเหตุการณ์การชุมนุม ปี 2553 ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้วางตัวเป็นกลางอย่างสม่ำเสมอ หลังจากนี้ตนไม่แน่ใจว่า พรรคเพื่อไทย จะนำประเด็นดังกล่าวไปขยายผลต่อไปอย่างไร หรือไม่
นอกจากนี้คนกรุงเทพฯ อาจจะกลัวเรื่องการทำงานไร้รอยต่อของเพื่อไทย เพราะว่าเห็นการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทำให้ไม่เกิดศรัทธาที่จะเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ เพราะเกรงว่าจะไม่มีประสิทธิภาพเหมือนอย่างเช่นการบริหารงานของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามดูต่อว่า คะแนนของพล.ต.อ.พงศพัศ จะมีจำนวนมากหรือไม่ เพราะหากได้จำนวนที่มาก ย่อมส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งส.ส.กทม. ในสมัยหน้า ซึ่งประชาธิปัตย์ จะมีความยากลำบากมากขึ้น
** "ปู"รอลุ้นผลเลือกตั้งก่อนบินไปสวีเดน
สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้า บรรดาแกนนำพรรค ต่างก็เดินทางไปลงคะแนนเลือกผู้ว่าฯกทม.ที่ตนเองสนับสนุน โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 32 โรงเรียนคลองลำเจียก แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม และให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องของการทุจริตเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เลือกตั้งเป็นคนดูแล โดยตนเองจะไปรอลุ้นคะแนนเสียงอยู่ที่บ้าน จะรอดูการนับคะแนนก่อนเดินทางไปต่างประเทศ
ทั้งนี้ เวลา 24.00 น. นายกฯ จะเดินทางเยือนราชอาณาจักรสวีเดน ราชอาณาจักรเบลเยียม และสหภาพยุโรป อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค. ในโอกาสนี้นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมระหว่างทีมประเทศไทยกลุ่ม ประเทศนอร์ดิก และภาคเอกชน เวลาต่อมานายรัฐมนตรีพบผู้บริหารบริษัทชั้นนำของสวีเดน พบหารือทวิภาคี กับนายเฟรดริก ไรน์เฟลด์ท นายกรัฐมนตรีสวีเดน ณ ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่การประชุมครม.ในวันที่ 5 มี.ค.นั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ คนที่ 1 จะเป็นประธานการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ เดินทางออกจากบ้านพัก ซอยโยธินพัฒนา 3 ด้วยรถยนต์หมายเลข ทะเบียน นบ 1 กรุงเทพ โดยนายกฯ สวมเสื้อสีฟ้าคราม กางเกงสีดำ มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ทั้งนี้นายกฯได้กำชับทีมรักษาความปลอดภัยให้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สวมเครื่องแบบดูแลความเรียบร้อยประจำหน่วยเลือกตั้ง ห้ามมาคอยเดินตาม และให้เจ้าหน้าที่ไปขอร้องประชาชนที่มาลงคะแนน ไม่ให้ตะโกนเชียร์ และให้ดอกไม้ เนื่องจากเกรงว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง
**“มาร์ค”วอนคนกรุงใช้สิทธิสะท้อนความต้องการ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา เพียงคนเดียว โดยมีรายชื่ออยู่ลำดับที่ 47
ทั้งนี้นางพิมเพ็ญ เวชชาชีวะ ภรรยานายอภิสิทธิ์ มีสิทธิเลือกตั้งในลำดับที่ 51 น.ส.ปราง เวชชาชีวะ บุตรสาวอย่ในลำดับที่49 และ นายปัณณสิทธิ์ เวชชาชีวะ บุตรชาย อยู่ในลำดับที่ 50 โดยถือเป็นการใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกของ นายปัณณสิทธิ์
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ออกมาใช้สิทธิ เพื่อทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม รวมทั้งสะท้อนความต้องการของชาวกทม. อย่างแท้จริง จึงขอให้ออกมาใช้สิทธิให้ครบถ้วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในหน่วยเลือกตั้งนี้ มีบุคคลสำคัญมาลงคะแนนเสียง อาทิ นายอำพล กิตติอำพล เลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายวิจิตร สุพินิจ อดีตผู้ว่าฯ ธปท.
** “จูดี้”ควง“คุณนายกิม”ออกมาใช้สิทธิ
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางกรภัณณ์ พงษ์เจริญ ภรรยา ได้ออกมาใช้สิทธิ ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 26 อาคารโรงรถบริเวณกองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร เมื่อเวลา 09.39น. โดบพล.ต.อ.พงศพัศ ได้ทักทายประชาชนที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะตรวจสอบรายชื่อและทำการลงคะแนน โดยพล.ต.อ.พงศพัศ อยู่ในลำดับที่ 19 และภรรยาอยู่ในลำดับที่ 17
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 07.20 น. พล.ต.อ.พงศพัศ และภรรยาได้เดินทางไปทำบุญถวายสังฆทาน ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อมาได้เดินแวะไปทานกาแฟที่ ร้านแมคโดนัลด์ อเวนิว รัชโยธิน ก่อนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
**ปธ.กกต.ใช้สิทธิก่อนตรวจความเรียบร้อย
ขณะที่ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย นางสุธาสินี สุขัคคานนท์ ภรรยา เดินทางมายังหน่วยเลือกตั้งที่ 34 ภายในบริเวณโรงเรียนวัดเลียบราษฎร์บำรุง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยภายในหน่วยเลือกตั้ง ก่อนที่จะใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่หน่วยเลือกตั้งเดียวกันนี้
และเมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง นางสุธาสินี ภรรยานายอภิชาต ก็ได้เดินไปที่กระดานที่ติดบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งอยู่ในสำดับที่ 244 และได้เลือกตั้งเป็นคนแรก หลังเจ้าหน้าที่ทำการเปิดหีบบัตรเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายอภิชาต ลงคะแนนเสร็จสิ้น ก็ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งตามเขตต่างๆ ในพื้นที่เขตบางซื่อ และเขตพญาไท เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยต่อไป และในเวลา 15.00 น. นายอภิชาต พร้อมด้วยนักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง(พตส.) รุ่นที่4 ของกกต. จะเดินทางไปสังเกตการณ์ การปิดหีบบัตรเลือกตั้ง และการนับคะแนนเลือกตั้งในเขตพระนคร พร้อมไปสังเกตการณ์การรวมผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ที่ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ ชั้น 1 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อีกด้วย