"กลุ่มกรีน" ร้องกกต.กทม. สอบ"ยิ่งลักษณ์-ครม."ใช้อำนาจหน้าที่ช่วย"จูดี้"หาเสียง "ไร้รอยต่อ"เข้าข่ายผิดกม.เลือกตั้ง ด้านปชป.ส่งจดหมายถึงประชาชน วอนกาเบอร์ 16 เย้ย"จูดี้"โดดหนีเสื้อแดง หวังลบจุดอ่อน"เผาบ้านเผาเมือง" แต่เชื่อคนกรุงยังไม่ลืม ขณะที่"พงศพัศ"ไปร่วมประชันวิสัยทัศน์ ขจัดคอร์รัปชัน เน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ
เมื่อวานนี้ (26ก.พ.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน และคณะได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกกต. กทม. เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่ใช้อำนาจหน้าที่ ช่วยพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย หาเสียง เนื่องจากการกระทำดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 60 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545
นายสุริยะใส กล่าวว่า การกระทำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐมนตรี เป็นคุณเป็นโทษต่อผู้สมัครบางราย โดยเฉพาะผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผู้สมัครรายอื่น โดยเฉพาะการปราศรัยชูนโยบายว่า หากเลือกพล.ต.อ.พงศพัศ มาเป็นผู้ว่าฯกทม. จะสามารถทำให้การทำงานร่วมกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ ซึ่งการหาเสียงเพื่อช่วยผู้สมัคร ทำในฐานะนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้ตำแหน่งหน้าที่การกระทำใดๆ อันเป็นคุณ หรือโทษแก่ผู้สมัคร อาจจะเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ละเว้นหรือปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ตามมาตรา 60 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นฯ
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มกรีน ได้นำหลักฐานและเอกสารต่างๆ ที่มีเป็นถอดเทปคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ร่วมขึ้นปราศรัยหาเสียงยื่นให้กับ กกต.กทม. ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ในวันเดียวกันนี้ กลุ่มเครือข่ายเฝ้าระวังการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 56 นำโดย นางจุฬา สุดบรรทัด และคณะ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกกต.กทม. ผ่าน ร.ต.อ.ธนภัทร เฉลิมการนนท์ พนักงานสืบสวนสอบสวน สำนักงาน กกต.กทม. ขอให้เร่งแก้ปัญหาในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในวันที่ 3 มี.ค.นี้ เนื่องจากพบข้อมูลสำคัญที่เป็นการกีดขวางการมีส่วนร่วมทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพโดยเร่งด่วน เพื่อเอื้อต่อการใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ โดยที่ประชาชนทุกกลุ่มต้องได้รับการปฎิบัติที่เสมอภาค ซึ่งนางจุฬา กล่าวว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ มีปัญหาที่ กกต.กทม. ต้องดำเนินการแก้ไข ดังนี้
1. ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ถูกกระทำให้เสียสิทธิ โดยเฉพาะเยาวชนที่มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ มีสิทธิเลือกตั้งเป็นครั้งแรก จำนวน 6 พันคน อาจจะไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากติดสอบ GAT/PAT จึงเสนอว่าควรเลื่อนวันสอบออกไป เพื่อไม่ให้ตรงกับวันเลือกตั้ง หรือให้มีหน่วยเลือกตั้งในบริเวณเดียวกันกับสถานที่สอบตามที่ รมว.ศึกษาธิการ เคยเสนอ อีกทั้งยังพบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อาศัยหรือทำงานหรือมีภารกิจอยู่ต่างประเทศ หรืออยู่นอกพื้นที่กทม. ในวันเลือกตั้งไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ได้ จึงเสนอให้กกต.กทม. จัดให้มีการใช้สิทธิการลงคะแนนล่วงหน้า และให้มีการลงคะแนนนอกเขตเลือกตั้ง เช่นเดียวกับการเลือกตั้งทั่วไป
2. ขอให้กกต. จัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ และผู้พิการ ให้สามารถออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งได้ โดยจัดคูหาเลือกตั้ง สถานที่ตรวจสอบรายชื่อ อยู่บนพื้นดิน หรือชั้นล่างของอาคาร สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก ไม่มีสิ่งกีดขวาง และเข้าไปลงคะแนนได้สะดวก และจัดเจ้าหน้าที่ให้อำนวยความสะดวกเรื่องต่างๆ
นอกจากนี้ กลุ่มเครือข่ายฯ ยังได้ยื่นหนังสือต่อ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยขอให้สนับสนุนการคุ้มครองสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมืองให้ประชาชนทุกกลุ่มมีส่วนร่วมทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเสมอภาค และขอให้ กสม. ช่วยสนับสนุนการทำงานของเครือข่ายฯ อย่างต่อเนื่อง เป็นรูปธรรมด้วย
** "มาร์ค-ชายหมู"ส่งจม.ถึงประชาชน
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการหาเสียงโค้งสุดท้ายว่า ได้มีการแจกจดหมายเปิดผนึกจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครของพรรค ถึงประชาชน
โดยเนื้อความของจดหมาย ในส่วนของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเน้นถึงความตั้งใจที่ได้ทำงานตลอด 4 ปีที่ผ่านมา และพูดถึงความมุ่งมั่นทำงานต่อในอีก 4 ปีข้างหน้า และขอโอกาสให้ได้กลับมาทำงานต่อ
**"จูดี้"โดดหนี"เสื้อแดง"
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ พรรคเพื่อไทย พยายามตบตาประชาชน โดยพรรคเพื่อไทยพยายามเปลี่ยนสีตัวเองใหม่ จากสีแดงเป็นสีอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นความทรงจำคนกทม. เพราะป้ายหาเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ กลับไม่มีป้ายสีแดงเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลจะมีป้ายหาเสียงที่มีพื้นหลังเป็นสีแดง และเวลาที่ พล.ต.ท.พงศพัศ ลงพื้นที่หาเสียงก็ไม่มีคนเสื้อแดงมาสนับสนุน เพราะถูกสั่งให้อยู่ในที่ตั้ง หรือหากจะออกมาสนับสนุนให้ถอดเสื้อแดงออก เป็นการกระโดดหนีสีแดง แต่เชื่อว่าหาก พล.ต.อ.พงศพัศ ทำสำเร็จในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก็จะถูกอาบไปด้วยสีแดงแน่นอน
ส่วนกรณีที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์พูดเรื่องเก่า โดยเฉพาะเรื่องเผาบ้านเผาเมืองนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า เรื่องการเผาห้างสรรพสินค้า สถานที่ราชการในปี 2553 นั้น อยู่ในใจคนไทยทั้งประเทศ และคนที่เรียกร้องให้ลืมนั้น ความจำสั้นเกินไป เพราะเหตุการณ์พึ่งผ่านมาแค่ 2 ปี ยังไม่มีคนรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายยังไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม ก็อย่าหวังให้คนไทยลืมเลย และอย่าหวังว่าจะลืมเพราะกรุงศรีอยุธยาถูกเผาหลายร้อยปีแล้ว คนไทยก็ยังไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ดังนั้นตนจึงอยากบอก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ นายจตุพร พรมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงว่า ต่อให้ผ่านไปถึงลูกหลานอีก 3-4 รุ่น คนไทยก็ไม่ลืมสิ่งที่พวกคุณทำไว้
** "จูดี้"โชว์วิสัยทัศน์ ขจัดคอร์รัปชัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (26ก.พ.) ที่ห้องดุสิตธานี ฮอลล์ โรงแรมดุสิตธานี คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้จัดเวทีประชันวิสัยทัศน์ในหัวข้อ "วิสัยทัศน์ กรุงเทพ โปร่งใส ไร้คอร์รัปชัน" โดยมีผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เข้าร่วม อาทิ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย นายโฆสิต สุวินิจจิต หมายเลข 10 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หมายเลข 11 และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริบัตร หมายเลข 12 พรรคประชาธิปัตย์
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ กล่าวว่า ระบบการตรวจสอบผู้ว่าฯกทม. จะต้องมีกระบวนการจากภาคประชาชนเป็นส่วนสำคัญ ในการรับตรวจสอบทุกขั้นตอน ทุกระดับ ต้องมีการตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งผู้ว่าฯกทม. ต้องเป็นกลไกให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาตรวจสอบได้
ทั้งนี้ อำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม. ต้องตรวจสอบบริหารราชการกทม. ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ให้งบประมาณรั่วไหล รวมทั้งกลไกสำคัญผู้ว่าฯกทม. ต้องเป็นตัวขั้นกลางเปิดให้มีการตรวจสอบการทำงานของหน่วยงาน โดยเฉพาะการบริหารงบประมาณของกทม. ซึ่งมาจากภาษีของประชาชน
**อวดเลขเด็ดงวดนี้ซื้อ 990 เก็บไว้แล้ว
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.พงศพัศ เดินทางไปที่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) อาคารแสงโสม ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร ลงพื้นที่หาเสียงกับพนักงานบริษัทไทยเบฟฯ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากตรงกับช่วงพักเที่ยงของพนักงาน จากนั้น ไปหาเสียงต่อที่ตลาดหลังการบินไทย โดยพล.ต.อ.พงศพัศ เดินแนะนำตัว ทักทายประชาชน ซึ่งมีการมอบดอกกุหลาบ คล้องพวงมาลัย และขอถ่ายภาพคู่ ระหว่างเดินผ่านแผงขายล็อตเตอรี่ พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า งวดนี้ซื้อ 990 ไว้แล้ว ต่อมาได้เดินหาเสียงต่อภายในตลาดและได้พักรับประทานอาหารกลางวัน ที่โรงอาหารที่ตลาดหลังการบินไทย ซึ่งมีรายการเมนูอาหารคือส้มตำไทย น้ำตกหมู และก๋วยเตี๋ยวเป็ด ก่อนที่จะเดินทางไปเข้าร่วมเวทีประชันวิสัยทัศน์ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์.
เมื่อวานนี้ (26ก.พ.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน และคณะได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกกต. กทม. เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่ใช้อำนาจหน้าที่ ช่วยพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย หาเสียง เนื่องจากการกระทำดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 60 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545
นายสุริยะใส กล่าวว่า การกระทำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐมนตรี เป็นคุณเป็นโทษต่อผู้สมัครบางราย โดยเฉพาะผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผู้สมัครรายอื่น โดยเฉพาะการปราศรัยชูนโยบายว่า หากเลือกพล.ต.อ.พงศพัศ มาเป็นผู้ว่าฯกทม. จะสามารถทำให้การทำงานร่วมกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ ซึ่งการหาเสียงเพื่อช่วยผู้สมัคร ทำในฐานะนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้ตำแหน่งหน้าที่การกระทำใดๆ อันเป็นคุณ หรือโทษแก่ผู้สมัคร อาจจะเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ละเว้นหรือปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ตามมาตรา 60 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นฯ
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มกรีน ได้นำหลักฐานและเอกสารต่างๆ ที่มีเป็นถอดเทปคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ร่วมขึ้นปราศรัยหาเสียงยื่นให้กับ กกต.กทม. ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ในวันเดียวกันนี้ กลุ่มเครือข่ายเฝ้าระวังการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 56 นำโดย นางจุฬา สุดบรรทัด และคณะ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกกต.กทม. ผ่าน ร.ต.อ.ธนภัทร เฉลิมการนนท์ พนักงานสืบสวนสอบสวน สำนักงาน กกต.กทม. ขอให้เร่งแก้ปัญหาในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในวันที่ 3 มี.ค.นี้ เนื่องจากพบข้อมูลสำคัญที่เป็นการกีดขวางการมีส่วนร่วมทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพโดยเร่งด่วน เพื่อเอื้อต่อการใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ โดยที่ประชาชนทุกกลุ่มต้องได้รับการปฎิบัติที่เสมอภาค ซึ่งนางจุฬา กล่าวว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ มีปัญหาที่ กกต.กทม. ต้องดำเนินการแก้ไข ดังนี้
1. ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ถูกกระทำให้เสียสิทธิ โดยเฉพาะเยาวชนที่มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ มีสิทธิเลือกตั้งเป็นครั้งแรก จำนวน 6 พันคน อาจจะไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากติดสอบ GAT/PAT จึงเสนอว่าควรเลื่อนวันสอบออกไป เพื่อไม่ให้ตรงกับวันเลือกตั้ง หรือให้มีหน่วยเลือกตั้งในบริเวณเดียวกันกับสถานที่สอบตามที่ รมว.ศึกษาธิการ เคยเสนอ อีกทั้งยังพบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อาศัยหรือทำงานหรือมีภารกิจอยู่ต่างประเทศ หรืออยู่นอกพื้นที่กทม. ในวันเลือกตั้งไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ได้ จึงเสนอให้กกต.กทม. จัดให้มีการใช้สิทธิการลงคะแนนล่วงหน้า และให้มีการลงคะแนนนอกเขตเลือกตั้ง เช่นเดียวกับการเลือกตั้งทั่วไป
2. ขอให้กกต. จัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ และผู้พิการ ให้สามารถออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งได้ โดยจัดคูหาเลือกตั้ง สถานที่ตรวจสอบรายชื่อ อยู่บนพื้นดิน หรือชั้นล่างของอาคาร สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก ไม่มีสิ่งกีดขวาง และเข้าไปลงคะแนนได้สะดวก และจัดเจ้าหน้าที่ให้อำนวยความสะดวกเรื่องต่างๆ
นอกจากนี้ กลุ่มเครือข่ายฯ ยังได้ยื่นหนังสือต่อ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยขอให้สนับสนุนการคุ้มครองสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมืองให้ประชาชนทุกกลุ่มมีส่วนร่วมทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเสมอภาค และขอให้ กสม. ช่วยสนับสนุนการทำงานของเครือข่ายฯ อย่างต่อเนื่อง เป็นรูปธรรมด้วย
** "มาร์ค-ชายหมู"ส่งจม.ถึงประชาชน
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการหาเสียงโค้งสุดท้ายว่า ได้มีการแจกจดหมายเปิดผนึกจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครของพรรค ถึงประชาชน
โดยเนื้อความของจดหมาย ในส่วนของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเน้นถึงความตั้งใจที่ได้ทำงานตลอด 4 ปีที่ผ่านมา และพูดถึงความมุ่งมั่นทำงานต่อในอีก 4 ปีข้างหน้า และขอโอกาสให้ได้กลับมาทำงานต่อ
**"จูดี้"โดดหนี"เสื้อแดง"
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ พรรคเพื่อไทย พยายามตบตาประชาชน โดยพรรคเพื่อไทยพยายามเปลี่ยนสีตัวเองใหม่ จากสีแดงเป็นสีอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นความทรงจำคนกทม. เพราะป้ายหาเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ กลับไม่มีป้ายสีแดงเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลจะมีป้ายหาเสียงที่มีพื้นหลังเป็นสีแดง และเวลาที่ พล.ต.ท.พงศพัศ ลงพื้นที่หาเสียงก็ไม่มีคนเสื้อแดงมาสนับสนุน เพราะถูกสั่งให้อยู่ในที่ตั้ง หรือหากจะออกมาสนับสนุนให้ถอดเสื้อแดงออก เป็นการกระโดดหนีสีแดง แต่เชื่อว่าหาก พล.ต.อ.พงศพัศ ทำสำเร็จในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก็จะถูกอาบไปด้วยสีแดงแน่นอน
ส่วนกรณีที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์พูดเรื่องเก่า โดยเฉพาะเรื่องเผาบ้านเผาเมืองนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า เรื่องการเผาห้างสรรพสินค้า สถานที่ราชการในปี 2553 นั้น อยู่ในใจคนไทยทั้งประเทศ และคนที่เรียกร้องให้ลืมนั้น ความจำสั้นเกินไป เพราะเหตุการณ์พึ่งผ่านมาแค่ 2 ปี ยังไม่มีคนรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายยังไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม ก็อย่าหวังให้คนไทยลืมเลย และอย่าหวังว่าจะลืมเพราะกรุงศรีอยุธยาถูกเผาหลายร้อยปีแล้ว คนไทยก็ยังไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ดังนั้นตนจึงอยากบอก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ นายจตุพร พรมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงว่า ต่อให้ผ่านไปถึงลูกหลานอีก 3-4 รุ่น คนไทยก็ไม่ลืมสิ่งที่พวกคุณทำไว้
** "จูดี้"โชว์วิสัยทัศน์ ขจัดคอร์รัปชัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (26ก.พ.) ที่ห้องดุสิตธานี ฮอลล์ โรงแรมดุสิตธานี คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้จัดเวทีประชันวิสัยทัศน์ในหัวข้อ "วิสัยทัศน์ กรุงเทพ โปร่งใส ไร้คอร์รัปชัน" โดยมีผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เข้าร่วม อาทิ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย นายโฆสิต สุวินิจจิต หมายเลข 10 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หมายเลข 11 และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริบัตร หมายเลข 12 พรรคประชาธิปัตย์
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ กล่าวว่า ระบบการตรวจสอบผู้ว่าฯกทม. จะต้องมีกระบวนการจากภาคประชาชนเป็นส่วนสำคัญ ในการรับตรวจสอบทุกขั้นตอน ทุกระดับ ต้องมีการตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งผู้ว่าฯกทม. ต้องเป็นกลไกให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาตรวจสอบได้
ทั้งนี้ อำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม. ต้องตรวจสอบบริหารราชการกทม. ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ให้งบประมาณรั่วไหล รวมทั้งกลไกสำคัญผู้ว่าฯกทม. ต้องเป็นตัวขั้นกลางเปิดให้มีการตรวจสอบการทำงานของหน่วยงาน โดยเฉพาะการบริหารงบประมาณของกทม. ซึ่งมาจากภาษีของประชาชน
**อวดเลขเด็ดงวดนี้ซื้อ 990 เก็บไว้แล้ว
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.พงศพัศ เดินทางไปที่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) อาคารแสงโสม ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร ลงพื้นที่หาเสียงกับพนักงานบริษัทไทยเบฟฯ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากตรงกับช่วงพักเที่ยงของพนักงาน จากนั้น ไปหาเสียงต่อที่ตลาดหลังการบินไทย โดยพล.ต.อ.พงศพัศ เดินแนะนำตัว ทักทายประชาชน ซึ่งมีการมอบดอกกุหลาบ คล้องพวงมาลัย และขอถ่ายภาพคู่ ระหว่างเดินผ่านแผงขายล็อตเตอรี่ พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า งวดนี้ซื้อ 990 ไว้แล้ว ต่อมาได้เดินหาเสียงต่อภายในตลาดและได้พักรับประทานอาหารกลางวัน ที่โรงอาหารที่ตลาดหลังการบินไทย ซึ่งมีรายการเมนูอาหารคือส้มตำไทย น้ำตกหมู และก๋วยเตี๋ยวเป็ด ก่อนที่จะเดินทางไปเข้าร่วมเวทีประชันวิสัยทัศน์ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์.