ปธ.กกต.กทม.ชี้ “ยะใส” เผยนายกฯ ปราศรัยส่อผิด กม.-รธน.ต้องดูว่าไปในฐานะอะไร หากใช้ตำแหน่งนายกฯ เข้าข่ายแน่ ด้าน ผอ.กต.กทม.สอบย้ายทะเบียนบ้านไม่พบรายชื่อผี แต่อาจมีบางเขตออกทะเบียนบ้านซ้ำ เผยถ้ามีแจ้ง กกต.สอบได้ตลอดเวลา
วันนี้ (25 ก.พ.) พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ระบุว่า คำปราศรัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ช่วยหาเสียงให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยชูนโยบายทำงานไร้รอยต่อกับรัฐบาล เพราะเป็นการพูดจูงใจให้ประชาชนหลงเชื่อ เลือกเบอร์ 9 และรับปากว่าจะตอบสนองนโยบายต่างๆ อาจส่อว่าจะผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่มีการร้องเข้ามา ดังนั้นต้องดูเนื้อหาที่นายสุริยะใส จะมาร้องก่อน
โดยตามมาตรา 60 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ระบุไว้ว่า ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใดๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร เว้นแต่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูว่า นายกรัฐมนตรีไปช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ หาเสียงในฐานะอะไร ถ้าช่วยในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ไม่ผิด เพราะกฎหมายไม่ได้บังคับให้สังกัดพรรค แต่ถ้าไปปราศรัยในนามนายกรัฐมนตรี ก็อาจจะเข้าข่ายผิดตามมาตรา 60 ของกฎหมายดังกล่าวได้
ด้านนายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กต.กทม.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่า มีประชาชนร้องเรียนว่ามีการสวมสิทธิ์รายชื่อเข้ามาในทะเบียนบ้านในเขตภาษีเจริญ บางแค และวังทองหลาง ซึ่งอาจเป็นการเตรียมการทุจริตการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า กรณีดังกล่าวหากดูตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 38 วรรคสอง และมาตรา 40 วรรคสาม
โดยระบุว่า ถ้าเจ้าบ้านเห็นว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งปรากฏชื่อบุคคลอื่นซึ่งมิได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของตน เมื่อเจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมอบหมายนำหลักฐานทะเบียนบ้านมาแสดงให้เห็นว่าไม่มีชื่อบุคคลนั้นอยู่ในทะเบียนบ้าน ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี มีคำสั่งถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและแจ้งให้เจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมอบหมายทราบโดยเร็ว
ดังนั้น หากเจ้าบ้านพบเห็นรายชื่อแปลกปลอมปรากฏในทะเบียนบ้าน เจ้าบ้านก็สามารถยื่นแจ้งถอนรายชื่อที่มีการสวมสิทธิ์เข้าในทะเบียนบ้านของตน มายัง กกต.กทม.หรือ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินการถอนรายชื่อได้ทันที ตั้งแต่พบเห็นการกระทำดังกล่าวจนถึงวันเลือกตั้ง
“ที่ผ่านมาจากการตรวจสอบของ กกต.ยังไม่พบรายชื่อผีที่ย้ายเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้าน เพื่อทุจริตการเลือกตั้ง เนื่องจากการย้ายรายชื่อเข้ามา เพื่อให้มีสิทธิ์การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น ต้องย้ายเข้ามา 1 ปีก่อนวันเลือกตั้ง และปกติที่ผ่านมารายชื่อผีที่พบส่วนใหญ่จะเป็นความผิดพลาดของข้อมูล ตั้งแต่การออกทะเบียนบ้าน เช่น บ้านเลขที่ใกล้กัน ทางสำนักงานเขตอาจจะมีความผิดพลาดในการออกทะเบียนบ้านซ้ำกันก็ได้ อย่างไรก็ตามหากเจ้าบ้านพบความผิดปกติของรายชื่อในทะเบียนบ้าน สามารถยื่นร้อง กกต.ให้ตรวจสอบได้ตลอดเวลา” นายวีระ กล่าว