xs
xsm
sm
md
lg

คำสัญญา “ไร้รอยต่อ” คน กทม.จะได้เห็นไหม?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
สะเก็ดไฟ

ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และเหตุผลของการเลือกครั้งนี้ มีเสียงสะท้อนจำนวนมากออกมาอย่างน่าสนใจว่า

ไม่ได้ปักใจอยากเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นพ่อเมืองกรุงเทพฯ อีกสมัยมากนัก แต่เป็นเพราะ “หวาดกลัว” ถ้าไม่เลือกแล้ว “เขาจะมา” กลัวว่าพรรคเพื่อไทย ภายใต้การกำกับของนักโทษหลบหนีคดี “ทักษิณ ชินวัตร” หรือเสื้อแดงเผาเมือง จะยึดประเทศเบ็ดเสร็จ

หลายคนที่มีใจรักชอบผู้สมัครอิสระ อยากเห็น กทม.เปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบใหม่ๆ อยากเป็นเสียงสะท้อนให้เกิดความแตกต่างบ้าง แต่ทว่ามันไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเกมการเมืองห้ำหั่นกันรุนแรงเกินไป การต่อสู้ระหว่าง 2 พรรคใหญ่ต้องระดมทุกสรรพเสียงมาคัดง้างกัน ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิ์เลือกผู้สมัครอิสระ หรือทางเลือกที่ 3 เพราะจะกลายเป็น “เสียของ” ไป

ภาพรวมของผลคะแนนจึงออกมาอย่างที่เห็น ที่ 1 และ ที่ 2 คะแนนทะลุล้านทั้งคู่ สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ผู้สมัครลำดับที่ 3-5 ได้คะแนนจิ๊บจ๊อย แค่หลักแสนหลักหมื่น

กลายเป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคการเมือง เหมือนการเลือกตั้งสนามใหญ่ คุณสมบัติของตัวผู้สมัครไม่ค่อยมีคนคำนึงถึงมากนักในการเลือกตั้งครั้งนี้ นโยบายต่างๆ คนก็มองว่าใครมาก็เหมือนกัน

เหตุผลของการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกขับเน้นให้เห็นเด่นชัดจากตารางคะแนน ฝ่าย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เป็นไปตามคาดหมายว่าเสียงรวมกันมาเป็นปึกแผ่นนับล้าน จากฐานเสียงพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงที่ให้ตายอย่างไรก็เลือก ไม่มีเหตุผลอื่น ก่อนเลือกตั้งก็เตี๊ยมกันเป็นมั่นเหมาะแล้วว่าจะต้องไม่มี ตัวตัดคะแนนตัวเอง โดดลงสนามมาด้วย แต่ต้องส่งคนไปตัดคะแนน “ชายหมู”

แต่ท้ายที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ก็แก้ลำได้ รณรงค์ไม่ให้เลือกผู้สมัครอิสระ เพราะจะทำให้เสียงแตก พร้อมตอกย้ำความน่ากลัว และความเกลียด ทักษิณและคนเสื้อแดง จนได้ผลชะงัด คะแนนไหลมาเทมาเข้ากระเป๋าเบอร์ 16 ทั้งหมด

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้เป็นการตบหน้าโพลอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้สำรวจมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง “พงศพัศ” ก็นำหน้าเข้าวินตลอด ประกอบกับความกร่างกร้าวของคนเสื้อแดงบางคนที่ออกมาพูดจาใหญ่โต มั่นใจหนักหนาว่าจะชนะแน่นอน ตรงนี้อาจยิ่งเป็นแรงเหวี่ยงให้คนออกมาเลือก “สุขุมพันธุ์” มากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้นช่วงสุดท้ายยังมีข่าวว่า จตุพร พรหมพันธุ์ คางคกจะขึ้นวอ จะมาเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.หากพรรคเพื่อไทยชนะ ก็ยิ่งขยายความเกลียดชังให้กว้างขวางมากขึ้นไปอีก คน กทม.ได้ยินได้ฟังแล้วขนลุกทั้งเกลียดทั้งกลัว

จนนอนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ไหว ต้องลุกออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันอุตลุด เพื่อตบหน้าเครือข่ายคนเสื้อแดง รวมไปถึงรัฐบาลและ “ทักษิณ” ด้วยความหมั่นไส้ และอยากสั่งสอน

การเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนชัดว่าการเมืองที่ต่อสู้ระหว่าง 2 ขั้ว คือพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงก้าวร้าวรุนแรง สมานฉันท์กันยาก ยังคงต้องต่อสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันอีกหลายยก

ไม่รู้ว่าการทำงานระหว่าง กทม.กับรัฐบาลหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป จะเอาความไม่ลงรอยกันทางการเมืองเข้ามาปะปน ทิ่มหมัดใส่กันท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชนอีกหรือเปล่า ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ “ยิ่งลักษณ์” บอกว่าพร้อมทำงานร่วมกับ “สุขุมพันธุ์” และสิ่งที่ “ชายหมู” ตอบกลับว่าจะทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างไร้รอยต่อ

จะจริงจัง จริงใจกันมากน้อยแค่ไหน คนกรุงเทพฯ จะได้เห็นไหม?!!
กำลังโหลดความคิดเห็น