เกาะกระแส
00 นาทีนี้ก็ต้องแสดงความยินดีกับ “ชายหมู” กับพลพรรคปชป.ที่สามารถทำทุกทางจนสามารถเอาชนะ “พรรคเผาเมือง” ได้สำเร็จ และแม้ว่าจะมีนักวิจารณ์หลายคนมองแบบฉาบฉวยว่าคะแนนของผู้สมัครอิสระทั้งหมดในคราวนี้ถือว่า “น้อยที่สุด” และกลายเป็นว่าเป็นยุคของ “สองพรรคใหญ่” จริงๆ เพราะได้คะแนนทุบสถิติกว่า 1 ล้านขึ้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว หากไม่นับ “พวกสาวก” สองพรรคดังกล่าวแล้ว คะแนนชี้ขาดและเชื่อว่าเทมาให้ สุขุมพันธุ์ เกิดขึ้นในช่วงท้ายๆ หรือนาทีสุดท้าย เพื่อหวังสกัดกั้นการยึดเมืองหลวง ต่อต้านการยึดครองอย่าง “เบ็ดเสร็จ” นั่นแหละ
00 ประกอบกับข่าวคราวที่ปล่อยออกมาว่า จตุพร พรหมพันธุ์ หรือแม้แต่ “ลูกเหลิม” คนใดคนหนึ่งจะมาเป็นรองผู้ว่าฯกทม.หาก พงศพัศ พงษ์เจริญ ได้รับเลือก และยิ่งเมื่อเจอกับแรงโหมกระพือของประชาธิปัตย์ในช่วงอาทิตย์สุดท้ายเพิ่ม “ความกลัว”ใช้แผน ยึดคนกรุงเป็นตัวประกันบวกเข้าไปอีก ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งฝ่ายพรรคเผาเมืองก็ “แรง” จริงๆ พิสูจน์ได้จากคะแนนทะลุล้านเสียง มันก็ไม่ธรรมดา ทำให้เกิดกระแสอยู่นิ่งไม่ได้ต้องชักชวนกันออกไปสกัด และนี่แหละจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนจึงไปใช้สิทธิ์มากเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ดีนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วจริงๆสำหรับ ปชป.ที่จะอาศัยวิธีการเก่าๆมาหากิน หากไม่สร้างผลงานที่จับต้องได้ วันหน้าต้องน้ำตาตก !!
00 พูดถึง จตุพร แล้วงานนี้ถือว่า “ต้องห้าม” สร้างพลัง “ความเกลียด” และเป็นแรงกระตุ้นให้คนกรุงออกไปใช้สิทธิ์ได้ดีจริงๆ เพราะเพียงแค่ข่าวที่ออกมาว่าเขาจะมานั่งหนึ่งในรองผู้ว่าฯของ พงศพัศ ทำเอา “หูผึ่ง” ขณะที่ฝ่ายเพื่อไทยก็ “น้ำท่วมปาก” พูดไม่ออกจะยอมรับก็ไม่ได้ จะปฏิเสธก็กลัวเสียแนวร่วมเสื้อแดง แต่การนิ่งเฉย มันก็เป็นผลเสียอย่างที่เห็น ดังนั้นก็เป็นอันพิสูจน์ให้เห็นได้ดีว่าคำพูดของ ขวัญชัย ไพรพนา เฉพาะเรื่องอนาคตของ จตุพร นั่นน่าจะจริง และโอกาสจะได้กลายพันธุ์เป็นอำมาตย์ นั่งเก้าอี้รมต.นั้นริบหรี่จริงๆ
00 ขออีกสักวันสำหรับพวกนักทำโพลทั้งหลาย รวมไปถึงสื่อทีวี ผู้ประกาศข่าวทางฟรีทีวี โดยเฉพาะช่อง 3 ที่ตอนแรกระริกระรี้หมายมั่นปั้นมือจะรายงานประกาศชัยชนะให้กับ พงศพัศ กับพรรคเพื่อไทย น่าสังเวชก็คือ สุขุม เฉลยทรัพย์ จากสวนดุสิตโพล สรยุทธ์ สุทัศนจินดา หรือแม้แต่ กิตติ สิงหาปัด ที่หน้าแตกยังไม่พอ พยายามจะอ้างโน่นอ้างนี่สารพัดเพื่อกลบเกลื่อน แต่ก็ยังไม่วายคิดเข้าข้างตัวเองขณะที่คะแนนเริ่มพลิกเป็นตรงกันข้ามทำนองว่า “ยังไม่แน่” ปลอบใจ จนในที่สุดเมื่อรู้ว่า สุขุมพันธุ์ มาแน่ก็ทนไม่ไหวตัดฉับเลิกเกาะติดการนับผลคะแนนแล้วหันมาเข้ารายการอื่นทันที
00 สำหรับ “จูดี้” พงศพัศ แน่นอนแล้วว่า แม้จะพลาดเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ก็จะไม่ “ว่างงาน” เพราะเก้าอี้รองผบ.ตร.ควบเลขาฯปปส.ยังรออยู่ให้กลับไปนั่งอยู่เช่นเดิม และให้จับตาให้ดีว่าจะได้เป็น ผบ.ตร.คนต่อไปหรือเปล่า แต่เมื่อพิจารณาตามเส้นทางและการอ่อนน้อมถ่อมตัวอย่างที่เห็นมันก็เข้าเค้า เพราะเกษียณปี 59 แต่เงื่อนไขก็คือรัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ล้มคว่ำไปกับผลงาน “ห่วยแตก” เสียก่อน !!