จูดี้ แผ่วปลาย !?

เกาะกระแส

00 ใกล้จะเข้าเส้นชัยกันรอมร่อแล้วสำหรับสนามแข่งขันชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ล่าสุดทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็น “จูดี้” พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากเพื่อไทย หรือ “ชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากปชป.ใครจะออกหัวหรือก้อย รู้แต่ว่าเวลานี้มีทั้งวิชามาร ทั้งอุดช่องโหว่เอาไว้ทุกทาง แต่เอาเป็นว่าทั้งสองฝ่ายออกแรงกันสุดฤทธิ์ เพราะคราวนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ชาวบ้านเริ่มรู้ทัน ไม่ว่าจะใช้ “โพลรับจ้าง” สร้างกระแสก็ชักไม่ได้ผล ขณะเดียวกันประเภทข่มขู่ใช้ “กับดักความกลัว” ประเภท “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ก็ไม่มีใครฟัง มาก็มา เพราะไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว ที่สำคัญหลายคนเกิดความรู้สึกว่าทุกพรรค “เลวพอกัน”

00 แต่ถ้าพิจารณาจากความเป็นจริงก็ต้องยอมรับว่าล่าสุดกระแสของ จูดี้ เริ่มแผ่วปลายเหมือนกัน เป็นเพราะทำไปทำมาชาวกรุงเทพฯเริ่มสำนึกได้ว่าพรรคเพื่อไทยได้ทำเวรทำร้ายอย่างไรมาบ้าง ถามว่าตั้งแต่เป็นรัฐบาลมาเกือบสองปี นอกจากนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่งตัวสวยด้วยแฟชั่นไม่ซ้ำกันสักวันแล้วอย่างอื่นมีผลงานอะไรบ้าง เอาเรื่องใกล้ตัวก่อนเช่นเรื่อง “ปากท้อง” มันต่างจากรัฐบาลอื่นอย่างไรบ้าง ไม่ต้องเพ้อฝันถึงโครงการใหญ่ที่มีแต่เสียงอื้ออึงเรื่อง “ค่าหัวคิว” 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อระดับชาติไม่ได้เรื่องอย่างไร ต่อไปท้องถิ่นมันก็ไม่ต่างกัน ยิ่งตัวที่อาสามาเป็นผู้ว่าฯนี่ตลอดชีวิตรับราชการมีแต่เรื่อง “สร้างภาพ” ไม่เคยมีความกล้าหาญสร้างความโดดเด่นเลย มันก็พอหลับตานึกภาพได้ไม่ยาก !!

00 ล่าสุดข่าวคราวเรื่องการแก้เกมแบบฉับพลันทันด่วนก็เกิดขึ้น ข่าวว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงต้องใช้โอกาสที่ไปเกาหลีไปหารือด่วนกับพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร ถึงฮ่องกง ว่ากันว่าถ้าข่าวเป็นจริงก็คือต้องใช้วิธี “โหดเถื่อน”หรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าใช้วิธีนิ่มๆแบบเดิมอาจไม่ได้ผล เพราะฝ่าย “ชายหมู” ขุดเอาเรื่อง “เผาเมือง” มาสะกิดต่อมความเกลียดก็อาจได้ผลตายตอนจบก็ได้

00 สังเกตหรือไม่ว่าระยะหลังในการดูแลปัญหาชายแดนใต้เรายังได้เห็นบทบาทมากขึ้นของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา แม้ว่าได้พ้นจากเก้าอี้ รมว.กลาโหม และรองนายกฯตามลำดับ เหลือแค่ที่ปรึกษานายกฯ “ขาลอย” ก็ตาม แต่อาจเป็นเพราะ “น้องๆ” ในกองทัพให้ความนับถือจึงดันหลังให้ทำงานต่อ แทบจะคนละเรื่องกับ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เหมือนพวก “หัวเดียวกระเทียมลีบ” ไม่มีผิด อีกมุมหนึ่งภาพที่ออกมาอย่างที่เห็นอาจเป็นเพราะต้องการให้มาเป็น “กันชน” กับฝ่ายการเมือง ไม่ให้เข้ามายุ่มย่ามมากนักก็ได้

00 ถือว่าเป็นความ “อัปยศ” ที่ไม่อาจมองให้ผ่านไปได้ง่ายๆสำหรับมติขององค์การคลังสินค้า(อคส.)เลิกจ้าง พ.ต.ท.ศราวุธ สกุลมีฤทธิ์ ผู้อำนวยการ อคส.เนื่องจากเห็นว่าทำงานไร้ประสิทธิภาพ และมีปัญหาในเรื่องทุจริต นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของตำแหน่งการเมืองหนุนหลัง และหากจำกันได้ อดีตนายตำรวจคนนี้แหละที่เคยเกี่ยวพันกับคดียิง “ดาบยิ้ม” เมื่อหลายปีก่อน และถ้าลองกระซิบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คนนั้นก็น่าจะรู้ดี !!