เกาะกระแส
00 อีกสิบกว่าวันเท่านั้นก็จะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ นั่นคือวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม ก็จะหย่อนบัตรกันแล้ว แน่นอนว่านาทีนี้เชื่อว่าหลายคน “มีชื่ออยู่ในใจ” เรียบร้อยแล้วว่าจะเลือกใคร และคราวนี้ก็เป็นไปได้เหมือนกันว่า บรรดาโพลทั้งโพลมั่ว โพลรับจ้าง อาจจะ “หน้าแหก” อีกรอบ ประเภทที่ว่า นำมา นอนมา นั้นเอาเข้าจริง อาจคนละเรื่องก็ได้ อย่างไรก็ดี ในสนามเลือกตั้งไม่ใช่มีแค่สองพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยกับปชป. เท่านั้น เพราะยังมี “ผู้สมัครอิสระ”เป็น “ทางเลือกใหม่” ที่น่าสนใจ บางทีน่าสนใจ มีผลงานด้วยตัวเอง เข้าท่าน่าติดตามกว่าเป็นไหนๆ
00 ถามว่า ระหว่างผลงานของ “เจ้าจูดี้” พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ จากพรรคเผาเมือง ที่ผ่านมามีอะไรบ้างตลอดชีวิตรับราชการ นอกจากเสนอหน้าแถลงข่าวเอาใจนายแบบสุดลิ่ม ทิ่มประตู ถูกนินทาเรื่อง “เส้นสาย” ก้าวกระโดดมาตั้งแต่ติดยศพลตำรวจตรี และคราวนี้ถ้าบังเอิญสอบตก ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ ก็ยังกลับไปเป็นเลขาปปส. เหมือนเดิม เพราะยังเปิดตำแหน่งอ้าซ่ารออยู่ ขณะที่ฝ่าย “ชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคปล่อยให้เผาเมือง ผ่านมา 4 ปี ก็น่าจะพอได้แล้ว ที่ผ่านมาก็ยังนึกไม่ออกว่าได้สร้างผลงานอะไรให้เป็นที่จดจำ และประทับใจบ้าง
00 ขณะที่ผู้สมัครอิสระ เชื่อหากท่านทั้งหลายคิดแบบอิสระ ไม่ยึดติด มีความกล้าหาญที่จะเลือกใครสักคนที่คิดว่า “ดีที่สุด” เหมาะสมที่สุด สำหรับการบริหารกรุงเทพมหานครได้อย่างอิสระ ไม่ต้องสนใจแบบว่าจะ “ไร้รอยต่อ” หรือไม่ หรือว่ากลัวว่า “ไม่เลือกเรา เขามาแน่” ก็เขาไหนล่ะที่มา ถ้าจะมาก็ให้มันมาไปเลย เพราะไม่มีอะไรจะเสื่อม จะเลวไปกว่านี้แล้ว ถามว่าคนอย่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส สุหฤท สยามวาลา หรือว่า โฆษิต สุวินิตจิต มันเทียบอะไรไม่ได้กับผู้สมัครจากสองพรรคดังกล่าวข้างต้นเลยหรือ ตรงกันข้ามดีเด่นกว่าจนเทียบกันไม่ได้เสียด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าจะตัดสินใจเลือกใคร ก็ต้องตัดสินใจแบบอิสระ อย่าอยู่ “ใต้สำนึกแห่งความกลัว” เป็นอันขาด
00 แม้จะยินดีกับ ประทีป วัชระโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 14 ที่ กกต. ได้คืนสิทธิ์ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ให้ โดยเริ่มต้นออกหาเสียงชูนโยบายยกระดับความเป็นอยู่ของชาวกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น แต่ชาวบ้านในซอยเฉลิมพระเกียรติ 62 เขตประเวศ ต้องได้รับความเดือดร้อนมาเกือบ 2 ปี เพราะถนนในซอยนี้ เป็นหลุมเป็นบ่อ บ้านเรือนหลายร้อยหลัง ต้องทนทุกข์ทรมาน รวมถึงบ้านพักหลายหลังของ ประทีป และครอบครัวด้วย สาเหตุเป็นเพราะว่าถนนในซอยนี้ยังเป็น “ทางภาระจำยอม” ซึ่ง ประทีป เองเป็นผู้ถือสิทธิ์อยู่ด้วย ชาวบ้านเหล่านั้นจึงอยากวิงวอนให้คนอย่าง ประทีป ช่วยเห็นใจ และเสียสละ ตรงนี้ก่อน ก่อนที่จะอาสารับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร แสบมั๊ยเพ่ !!
00 สถานการณ์ชายแดนใต้ยังร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดคนร้ายได้ก่อเหตุป่วนทั่วเมืองปัตตานีนับสิบจุด ในเวลาไล่เลี่ยกัน หวังโชว์ศักยภาพเหนือการควบคุมของเจ้าหน้าที่รัฐ มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ เจ็บอีกจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามหากมองในแง่ดี มันก็มีมุมบวกให้เห็นเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีการ “แจ้งข่าว” จากชาวบ้านให้ทางการได้ทราบเสียก่อน ทำให้ในหลายจุดระเบิดถูกพบ และกอบกู้ได้ทันท่วงทีลดความสูญเสียลงไปได้โขอยู่เหมือนกัน ยังไงก็ขอให้ “อดทน” ทำความ “เข้าใจ เข้าถึง” ต่อไป และที่สำคัญอย่าให้พวก “นักการเมืองห่วยๆ” ในรัฐบาลเข้าไปจุ้นจ้าน เอาหน้าแบบฉาบฉวยเป็นอันขาด
00 ในที่สุดผลประชุม ศปก.กปต.เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมามีหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงเข้าร่วมถกแก้ปัญหาชายแดนใต้คับคั่ง และเป็นไปตามคาดหมาย มีมติเอกฉันท์ไม่ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่สีแดง ไม่บ้าจี้ไปตามข้อเสนอของ เฉลิม อยู่บำรุง เรียกว่างานนี้ “หน้าแหก” ไปตามระเบียบ เพราะขนาดเป็นถึงผู้อำนวยการศูนย์ แต่ไม่มีใครเห็นหัว โดยเฉพาะฝ่ายกองทัพ ไม่มีใครเอาด้วย แบบนี้มันสมควรพิจารณาตัวเองด้วยเหมือนกันนะ !!
00 เริ่มเข้าเค้าขึ้นเรื่อยๆ เพราะจู่ๆ คนอย่าง ภูมิธรรม เวชยชัย ก็โพล่งออกมาว่า จะมีการปรับครม.แน่นอน มันก็ไม่ธรรมดา จะว่าพูดตามน้ำเรื่องปรับครม. เฉพาะโควต้าของพรรคชาติไทยฯ ของบรรหาร ศิลปอาชา ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะรายนั้นมันต้องหาคนมาเสียบอยู่แล้ว แต่เมื่อคนระดับภูมิธรรม ที่เป็นเลขาฯพรรค มันก็ต้องมีมูลบ้างละ และงานนี้ต้องมีหลายคนต้องลุ้นกันตัวโก่ง เพราะนิสัยของเจ้าของรัฐบาลคือ ทักษิณ ชินวัตร ชอบปรับทุก 3 เดือน 6 เดือนเสียด้วย และเชื่อว่าที่ต้องเหงื่อตก รับรองนอกจาก คนที่ชื่อ เหลิม ที่ช่วงหลังดูสีหน้าไม่ค่อยแฮปปี้แล้ว ยังมี จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รวมอยู่ด้วย ขอให้โชคดีแล้วกัน !!