00 ที่จริงไม่อยากเหยียบย่ำซากศพของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการศูนย์อะไรก็ไม่รู้ แค่ชื่อก็น่าเวียนหัวสำหรับแนวทางแก้ปัญหาชายแดนใต้ เพราะนาทีนี้ถือว่า “เน่าสนิท” ไปแล้ว และยิ่งมีการแต่งตั้ง “กลุ่มวาดะห์” เข้ามาเป็นที่ปรึกษา มันก็ยิ่งเละตุ้มเป๊ะ เพราะนั่นหมายความว่า เป็นการฉวยโอกาสทางการเมือง เป็นการแก้ปัญหาแบบหวังผลทางการเมืองเพื่อแย่งชิงพื้นที่สำหรับการเลือกตั้งของพวกนักการเมือง ไม่ใช่การแก้ปัญหาชายแดนใต้
00 ลำพังแค่ เฉลิม คนเดียว ใครที่ได้ฟังก็แทบจะอ๊วกออกมาแล้ว นี่ยังสมทบไปด้วย “วันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา เด่น โต๊ะมีนา มิหนำซ้ำยังพ่วงด้วยทีเด็ดอย่าง “นัจมุดดิน อูมา” ซึ่งรายนี้ในวงการแถวนราธิวาส เขารู้จักกันดี เพราะที่ผ่านมาเคยโดนคดี “ก่อการร้าย” มาแล้ว อ้อ เกือบลืมไป ทางที่ดีเพื่อให้ครบเซ็ต น่าจะมีชื่อ “จิ๋วหวานเจี๊ยบ” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตามข่าวที่สะพัดกันอยู่ในเวลานี้เข้าไปด้วย จะได้สนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลย พับผ่าสิ !!
00 แน่นอนว่า เมื่อมีรายชื่อของกลุ่มวาดะห์ เข้าไปเป็นทีม “กุนซือ” ของเหลิม ทำให้เรื่องอื่นกลายเป็นเรื่องรองไปเลย กลายเป็นเป้าหมายโจมตีจากรอบข้างทันที เพราะไม่ว่ามองมุมไหนมันก็เป็นการเพิ่มพื้นที่ให้กับกลุ่มการเมืองในสายเพื่อไทย ให้กลับมาเอาชนะประชาธิปัตย์ในสนามเลือกตั้งคราวหน้าเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องแก้ปัญหาในระดับต้นตอ นำความสงบสุขกลับมานั้น ให้รอตอนชาติหน้าแล้วกัน หรือไม่ก็แยกดินแดนสำเร็จก็ไม่ต้องไปสนใจ เพราะสำหรับรัฐบาลนี้เขาไม่สนใจอยู่แล้ว ดีไม่ดีเป้าหมายไปทางนั้นเสียด้วยซ้ำ หากพิจารณาในด้านผลประโยชน์ระยะยาววันหน้า เอ๊ะ ดูแล้วมันชักเข้าเค้ามากขึ้นทุกที !!
00 จะว่าไปแล้ว ถ้าพิจารณาเฉพาะฝ่ายทหารที่ผ่านมามองจากภายนอกก็ต้องยอมรับว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา มีความขยันขันแข็ง และได้รับการยอมรับจากคนในกองทัพค่อนข้างดี ทั้งในขณะที่นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม จนมาถึงตำแหน่งกุนซือนายกฯ ก็ยังทำหน้าที่ลงพื้นที่ชายแดนใต้แบบเสมอต้นเสมอปลาย “น่าชื่นชม” แต่ก็อย่างว่าแหละ เรื่องแบบนี้ไม่เกี่ยว เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับอารมณ์ของ ทักษิณ ชินวัตร นึกจะเปลี่ยนใครก็ได้ เราถึงได้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ที่พูดจาไม่รู้เรื่องมาแทนไงล่ะ เวรจริงๆ
00 สำหรับบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในช่วงโค้งสุดท้ายกำลังเข้มข้นจนได้ที่แล้ว และเป็นช่วงที่แต่ละฝ่ายจะต้องใช้กลยุทธเพื่อให้ตัวเองเข้าป้ายให้ได้ สำหรับฝ่ายพรรคเพื่อไทยที่ตามกระแส ( ไม่รู้ว่ากระแสไหน) อ้างว่า “เจ้าจูดี้” พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ กำลังนำ จึงมีคำสั่งเด็ดขาดให้บรรดาพวกที่ “เรียกแขก” ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ หรือแม้แต่ “ไพร่” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็เถอะ หยุดเคลื่อนไหวชั่วคราว ทั้งเรื่องความกระเหี้ยนกระหือรือกับการ “นิรโทษฯตัวเอง” ความหมายก็คือให้ “หุบปาก” ให้รอจนกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ผ่านไปก่อน แล้วค่อยมาป่วนใหม่ อย่างน้อยก็รอให้คนกรุงเทพฯที่ “หน้าโง่” และขี้ลืมทั้งหลาย หย่อนบัตรเสร็จสิ้นไปก่อน ก็แล้วกัน
00 เริ่มแล้วสำหรับการรณรงค์ประหยัดพลังงาน เพื่อรับกับวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้น โดยไม่ต้องรอถึงเดือนเมษายน ที่จะถึงนี้หรอก เพราะถึงอย่างไรชาวบ้านเขากำลัง “จนกรอบ” เริ่มจากน้ำมันสองลิตรร้อย ข้าวของแพงทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้าน และถ้าจะเอาจริงก็ต้องเริ่มจากทัศนคติของพวกคนในรัฐบาล โดยเฉพาะตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนเป็นอันดับแรก นั่นคือ ต้องลดกระแสความฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยให้เห็นก่อน เพราะทุกนโยบายประชานิยมที่ปูพรมกันออกมา ล้วนแล้วกระตุ้นให้ชาวบ้านใช้จ่ายเกินตัว ไม่เคยกระตุ้นให้ประหยัด หรือ “พอเพียง” อย่างจริงจัง เพราะคนพวกคิดว่าถ้าเป็นแบบหลังจะเป็นอุปสรรคต่อการขูดรีด นั่นแหละ !!
00 ลำพังแค่ เฉลิม คนเดียว ใครที่ได้ฟังก็แทบจะอ๊วกออกมาแล้ว นี่ยังสมทบไปด้วย “วันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา เด่น โต๊ะมีนา มิหนำซ้ำยังพ่วงด้วยทีเด็ดอย่าง “นัจมุดดิน อูมา” ซึ่งรายนี้ในวงการแถวนราธิวาส เขารู้จักกันดี เพราะที่ผ่านมาเคยโดนคดี “ก่อการร้าย” มาแล้ว อ้อ เกือบลืมไป ทางที่ดีเพื่อให้ครบเซ็ต น่าจะมีชื่อ “จิ๋วหวานเจี๊ยบ” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตามข่าวที่สะพัดกันอยู่ในเวลานี้เข้าไปด้วย จะได้สนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลย พับผ่าสิ !!
00 แน่นอนว่า เมื่อมีรายชื่อของกลุ่มวาดะห์ เข้าไปเป็นทีม “กุนซือ” ของเหลิม ทำให้เรื่องอื่นกลายเป็นเรื่องรองไปเลย กลายเป็นเป้าหมายโจมตีจากรอบข้างทันที เพราะไม่ว่ามองมุมไหนมันก็เป็นการเพิ่มพื้นที่ให้กับกลุ่มการเมืองในสายเพื่อไทย ให้กลับมาเอาชนะประชาธิปัตย์ในสนามเลือกตั้งคราวหน้าเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องแก้ปัญหาในระดับต้นตอ นำความสงบสุขกลับมานั้น ให้รอตอนชาติหน้าแล้วกัน หรือไม่ก็แยกดินแดนสำเร็จก็ไม่ต้องไปสนใจ เพราะสำหรับรัฐบาลนี้เขาไม่สนใจอยู่แล้ว ดีไม่ดีเป้าหมายไปทางนั้นเสียด้วยซ้ำ หากพิจารณาในด้านผลประโยชน์ระยะยาววันหน้า เอ๊ะ ดูแล้วมันชักเข้าเค้ามากขึ้นทุกที !!
00 จะว่าไปแล้ว ถ้าพิจารณาเฉพาะฝ่ายทหารที่ผ่านมามองจากภายนอกก็ต้องยอมรับว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา มีความขยันขันแข็ง และได้รับการยอมรับจากคนในกองทัพค่อนข้างดี ทั้งในขณะที่นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม จนมาถึงตำแหน่งกุนซือนายกฯ ก็ยังทำหน้าที่ลงพื้นที่ชายแดนใต้แบบเสมอต้นเสมอปลาย “น่าชื่นชม” แต่ก็อย่างว่าแหละ เรื่องแบบนี้ไม่เกี่ยว เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับอารมณ์ของ ทักษิณ ชินวัตร นึกจะเปลี่ยนใครก็ได้ เราถึงได้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ที่พูดจาไม่รู้เรื่องมาแทนไงล่ะ เวรจริงๆ
00 สำหรับบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในช่วงโค้งสุดท้ายกำลังเข้มข้นจนได้ที่แล้ว และเป็นช่วงที่แต่ละฝ่ายจะต้องใช้กลยุทธเพื่อให้ตัวเองเข้าป้ายให้ได้ สำหรับฝ่ายพรรคเพื่อไทยที่ตามกระแส ( ไม่รู้ว่ากระแสไหน) อ้างว่า “เจ้าจูดี้” พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ กำลังนำ จึงมีคำสั่งเด็ดขาดให้บรรดาพวกที่ “เรียกแขก” ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ หรือแม้แต่ “ไพร่” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็เถอะ หยุดเคลื่อนไหวชั่วคราว ทั้งเรื่องความกระเหี้ยนกระหือรือกับการ “นิรโทษฯตัวเอง” ความหมายก็คือให้ “หุบปาก” ให้รอจนกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ผ่านไปก่อน แล้วค่อยมาป่วนใหม่ อย่างน้อยก็รอให้คนกรุงเทพฯที่ “หน้าโง่” และขี้ลืมทั้งหลาย หย่อนบัตรเสร็จสิ้นไปก่อน ก็แล้วกัน
00 เริ่มแล้วสำหรับการรณรงค์ประหยัดพลังงาน เพื่อรับกับวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้น โดยไม่ต้องรอถึงเดือนเมษายน ที่จะถึงนี้หรอก เพราะถึงอย่างไรชาวบ้านเขากำลัง “จนกรอบ” เริ่มจากน้ำมันสองลิตรร้อย ข้าวของแพงทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้าน และถ้าจะเอาจริงก็ต้องเริ่มจากทัศนคติของพวกคนในรัฐบาล โดยเฉพาะตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนเป็นอันดับแรก นั่นคือ ต้องลดกระแสความฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยให้เห็นก่อน เพราะทุกนโยบายประชานิยมที่ปูพรมกันออกมา ล้วนแล้วกระตุ้นให้ชาวบ้านใช้จ่ายเกินตัว ไม่เคยกระตุ้นให้ประหยัด หรือ “พอเพียง” อย่างจริงจัง เพราะคนพวกคิดว่าถ้าเป็นแบบหลังจะเป็นอุปสรรคต่อการขูดรีด นั่นแหละ !!