ASTVผู้จัดการรายวัน - “ส.ว.สมชาย” แฉรัฐบาลถังแตก เตรียมมอมเมาปชช.ออกกฎหมายเพิ่มแนวทางออกหวย เปิดกาสิโน แถมแก้กฎกระทรวงให้หนี้จากการพนันฟ้องบังคับคดีได้ "มหาดไทย"ระบุเปิดบ่อนทำได้ทันทีตามพ.ร.บ.2478 ด้าน “สุมล” เรียกร้องรัฐบาลยกเลิกโครงการจำนำข้าว หลังสร้างความเสียหายมหาศาล ธ.ก.ส.เสี่ยงพัง ขณะที่ เอกชน หนุนรัฐปรับลดราคารับจำนำข้าว
การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (5 มี.ค.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เป็นประธาน ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา หารือถึงการกู้เงินของรัฐบาลว่า ขณะนี้รัฐบาลเตรียมกู้เงินอีก 2 ล้านล้านบาทเพื่อก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะสร้างหนี้สินให้แก่ลูกหลาน 50 ปีถึงจะใช้หมด ไม่รวมถึงการเจ๊งจากโครงการจำนำข้าว ซึ่งขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไม่มีเงินแล้ว ใครจะเบิกเงิน ธ.ก.ส.จะต้องเรียกเก็บจากลูกหนี้ก่อนกำหนด เรียกว่ารัฐบาลขณะนี้กำลังถังแตก
นายสมชายกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังหาทางรีดภาษีและเงินจากประชาชนด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการออกฎหมาย 2 ฉบับซึ่งรอเข้าสู่การพิจารณาของสภา คือ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งฯ ซึ่งเป็นการแก้ไขการออกสลากตัวเลข สลากล็อตโต สลากกีฬา และสลากรู้ผลทันที ซึ่งจะทำให้ประชาชนคนไทยเป็นทาสการพนันมากมายขึ้นอีก เป็นการรีดเงินจากคนจน และร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ซึ่งเสนอโดยคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของ กระทรวงมหาดไทย โดยกำหนดประเภทการพนัน และกำหนดให้หนี้การพนันเป็นหนี้สามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันได้
“ที่สำคัญกำลังจะอนุญาตตั้งกาสิโนในประเทศไทย การพนันถูกต้องตามกฎหมายหมด ซึ่งหมายถึงหนี้สินต่อครัวเรือนคนไทยในขณะนี้ที่มากถึง 2,526 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี กำลังจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะรัฐบาลกำลังจะหากินกับคนจนอีกด้วยการทำหวยลอตโต้ หวย 2-3 ตัว และคาสิโน จึงอยากถามว่าจะยอมให้ลูกหลานถูกมอมเมาจากรัฐบาลชุดนี้ และจะต้องแสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล”
ด้าน น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายประชานิยมที่พ่นพิษให้แก่รัฐบาล เพราะใช้งบประมาณเป็นแสนแสนล้านบาท ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงวันนี้ ธ.ก.ส.ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐบาลที่รับผิดชอบเรื่องนี้ก็ได้ใช้เงินสภาพคล่องของตัวเองไปแล้ว 9 หมื่นล้านบาท และกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้อีกจำนวน 4.1 แสนล้านบาท รวมเป็น 5 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน เม.ย.นี้ข้าวนาปรังปี 2556 กำลังจะออกผลิตผล ธ.ก.ส.ก็ไม่มีเงิน จึงขอให้กระทรวงการคลังกู้ ซึ่งก็ได้คำตอบว่าไม่ได้ ฉะนั้น ธ.ก.ส.จึงต้องใช้สภาพคล่องของตนเองอีก 6 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นการกินเลือดตัวเอง ดังนั้นจึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลและรมว.พาณิชย์ ยกเลิกโครงการดังกล่าว ไม่ต้องกลัวเสียหน้า เพราะเชื่อว่าจะมีอีกหลายโครงการที่สามารถช่วยประชาชนได้
***มท.ระบุร่างพรบ.การพนันฉบับใหม่ไม่เอื้อเปิดกาสิโน
เมื่อเวลา 16.30 น. นายสมคิด กาฬสุวรรณ หัวหน้ากลุ่มมาตรฐานและระเบียบกฎหมาย(ก.กม.)สำนักสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในฐานะดูแลการปรับทำร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ออกมาระบุถึงร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ที่เสนอโดยคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมาย กระทรวงมหาดไทย เอื้อต่อการเปิดกาสิโนว่า เป็นเพียงการปรับปรุงกฎหมายให้มีความทันสมัย มีการเพิ่มบทลงโทษสูงขึ้น และเพิ่มค่าธรรมเนียมการเล่นพนันจากพ.ร.บ.ฉบับเก่า ไม่ได้เอื้อต่อการเปิดบ่อนกาสิโน ตามที่ถูกกล่าวหา
นายสมคิดกล่าวว่า ทั้งนี้ หากจะมีการเปิดกาสิโน ก็สามารถทำได้ทันทีเนื่องจาก พ.ร.บ.2478 ไม่ได้บัญญัติห้ามไว้ สามารถเปิดได้ แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกระทรวงการคลัง ไม่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องบทลงโทษเท่านั้น ในอดีตเคยมีการเปิดกาสิโนเมื่อปี 2480แล้ว แต่ขัดต่อวิถีวัฒนธรรมของสังคมไทย หลายฝ่ายเห็นว่าการเปิดบ่อนอาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมขึ้น จึงมีการยกเลิกไป ซึ่งบัญชีการพนันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือบัญชี ก ห้ามอนุญาตโดยเด็ดขาด เช่น สล็อดแมชชีน ตู้ม้า และบัญชี ข มีได้แต่ต้องผ่านการเห็นชอบออกเป็นพระราชกฤษฎีกา เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล
" เจตนารมณ์ในการร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อเป็นมาตรการป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนเข้าเล่นหรือเข้าพนันโดยเด็ดขาด " นายสมคิด กล่าว
นายสมคิดกล่าวว่า ส่วนกรณีการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น ในส่วนของรายได้ ร้อยละ 60 เป็นรางวัลที่จ่ายให้กับประชาชน ร้อยละ 28 เป็นการหารายได้เข้ารัฐ และร้อยละ12 เป็นค่าดำเนินการในการจัดทำสลากกินแบ่ง อย่างไรก็ตามตอนนี้ร่างพ.ร.บ.ทั้งสอง อยู่ในชั้นการพิจารณาของกฤษฎีกา ยืนยันว่า เนื้อหาส่วนใหญ่ของการยกร่างเป็นการปรับปรุงบทลงโทษ และการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการพนัน เนื่องจากพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีการใช้มานานกว่า 78 ปีแล้ว ทั้งนี้ในการแก้ไขพ.ร.บ. ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการนานพอสมควร เพราะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาจากหลายฝ่าย ทั้งขั้นตอนการกลั่นกรองจากกฤษฎีกา การพิจารณาจากสภา ต้องมีการตรวจสอบกันอีกมาก
***เอกชนหนุปรับลดราคารับจำนำข้าว
นายสมพงษ์ กิติเรียงลาภ ประธานกรรมการ บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด สนับสนุนแนวคิด การปรับลดราคาการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่า เอกชนได้รับผลกระทบจากราคาข้าวที่สูง ทำให้ส่งออกข้าวลดลง เฉลี่ยเดือนละประมาณ 5 - 6แสนตัน ซึ่งถือว่าน้อยมาก สำหรับการส่งออกข้าวในช่วงต้นฤดูเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ นอกจากนี้ ยังเห็นว่าสถานการณ์การค้าข้าวในตลาดโลก ไม่คึกคัก ราคาข้าวของประเทศคู่แข่ง ต่ำกว่าราคาข้าวไทยมาก ทำให้ อินเดียและเวียดนาม ปรับลดราคาการรับจำนำลง เหลือตันละ 1,200 บาท จะทำให้ราคาข้าวไทยในตลาดโลก อยู่ที่ตันละ 510 - 520 ดอนลาร์สหรัฐ แม้จะยังสูงกว่าประเทศคู่แข่ง แต่ก็ยังสามารถทำตลาดได้ แต่อย่างไรก็ตาม การปรับลดราคาการรับจำนำ อาจทำให้ชาวนาไม่พอใจรัฐบาลควรหาแนวทางในการลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้และผู้ส่งออกสามารถเข่งขันในการทำการค้ากับตลาดโลกได้ด้วย.