xs
xsm
sm
md
lg

“หมอวรงค์” เย้ย “เต้น” ป๊อดสอบโกดัง เฉลยข้าวเน่ามาจาก อ.ปราสาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.วรงค์ เดชวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
ส.ส.จอมคุ้ยจำนำข้าว เย้ย “อำมาตย์เต้น” ปากดี แต่ไม่กล้ารับคำท้าสอบโกดังข้าว ดีแต่ใส่ร้าย หยันไม่ใช่เวทีโต้วาที พร้อมเฉลยฉกของเน่าจากโกดังใน อ.ปราสาท สุรินทร์ จี้รีบไปดูก่อนถูกเผา เย้ย “บุญทรง” ทำตัวให้โลกลืมก็หนีไม่รอด ขู่พวกเอาชาวนามาหากินติดคุกแน่ เชื่อรัฐจ่อบีบธนาคารปล่อยกู้มารับจำนำ

วันนี้ (27 ก.พ.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่เคยท้านายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ตรวจสอบข้าวเน่าในโกดังรัฐบาลว่า วันนี้ถือว่าครบกำหนดที่ตนเคยท้าไว้ แต่ไม่มีรัฐมนตรีคนใดออกมารับคำท้า แม้แต่รัฐมนตรีปากดีอย่างนายณัฐวุฒิก็ไม่กล้า ดีแต่กล่าวหาใส่ร้ายคนอื่น จึงอยากเตือนว่าวันหลังถ้าจะมากล่าวหาเรื่องอะไรควรตรวจสอบให้รอบคอบก่อน อย่าคิดว่าเวทีการเมืองคือเวทีโต้วาทีแสดงโวหารเท่านั้น ดังนั้น ตนจึงขอตั้งฉายารัฐบาลว่าเป็นรัฐบาลข้าวเน่า และคำว่าข้าวเน่าก็จะเป็นนามสกุลของรัฐมนตรีทุกคน ทั้งนี้เมื่อเงื่อนไขที่ตนท้าได้หมดไปแล้ว จึงขอเปิดเผยข้อมูลข้าวเน่าที่ตนได้มานั้นไม่ใช่ข้าวจากโรงสีใน อ.จอมพระ แต่เป็นข้าวจาก อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งตนก็แนะนำให้ไปตรวจข้าวในโกดัง คลังสินค้าสินอุดมพืชไร่ ซึ่งเป็นโกดังที่องค์การคลังสินค้าเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งตั้งอยู่ที่รอยต่อ อ.ปราสาท และ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับนักการเมืองระดับชาติตระกูลใหญ่ จึงอยากให้รีบไปตรวจก่อนจะเกิดไฟไหม้เหมือนโกดังอื่น ทั้งนี้ตนอยากเรียกร้องไปถึงนายบุญทรง ที่กำลังทำตัวเป็นรัฐมนตรีที่โลกลืมว่า นายบุญทรงหนีไปไหนไม่รอด โดยเฉพาะเรื่องข้าวเน่าและจีทูจีที่ตอนนี้รัฐบาลจนมุมแล้ว และเชื่อว่าคนที่เอาคนจนและชาวนามาหากินต้องติดคุกแน่นอน

นพ.วรงค์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กำลังเข้าสู่ภาวะถังแตก จึงเชื่อว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องอนุมัติให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ 7 หมื่นล้านบาทให้ ธ.ก.ส.อย่างแน่นอน เพราะการดำเนินโครงการพืชผลทางการเกษตรของรัฐบาลทั้งข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ตั้งแต่ปี 55-56 ใช้เงินไปแล้ว 564,175 ล้านบาท แต่ใช้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน 304,750 ล้านบาท นอกนั้นใช้เงินจาก ธ.ก.ส.ทั้งสิ้น ก้อนแรก 9 หมื่นล้านบาท ที่ตั้งไว้สำหรับการแทรกแซงราคาพืชผลแต่ใช้ไปแล้วกว่า 2 แสนล้านบาท เกินกว่าที่ ธ.ก.ส.คาดการณ์ไว้ถึง 110,823 ล้าน และกลับขายสินค้าเกษตรได้เงินแค่ 58,602 ล้านบาท หรือประมาณ 10% ของเงินในโครงการ จึงทำให้รัฐบาลถังแตกไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวในการทำโครงการรับจำนำข้าวนาปรังที่จะเริ่มในวันที่ 1 เม.ย.นี้ จึงเชื่อว่ารัฐบาลจะพยายามพลิกสถานการณ์เพื่อเพิ่มเงินกู้ให้ ธ.ก.ส.

นพ.วรงค์กล่าวด้วยว่า ซึ่งที่ผ่านมาตนได้คุยกับเพื่อนที่อยู่ในสถาบันการเงินทราบว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง พยายามที่จะกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์แต่ถูกปฏิเสธ และมีคนเห็นว่า รมว.คลังไปต่อรองวงเงินกู้โครงการรับจำนำของรัฐบาลกับธนาคารกรุงไทย หลังจากที่ธนาคารพาณิชย์ของเอกชนไม่ปล่อยสินเชื่อให้ เพราะเป็นโครงการที่ขาดทุน ซึ่งเชื่อว่าต่อจากนี้ไปจะมีการบีบธนาคารของรัฐให้ปล่อยเงินกู้ให้โครงการจำนำข้าว เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถเดินหน้าโครงการต่อได้ ส่วนปัญหาของ ธ.ก.ส.นั้น เชื่อว่าเมื่อ ธ.ก.ส.ประสบปัญหาสภาพคล่องจะทำให้ต้องไปเร่งรัดการใช้หนี้จากเกษตรกรซึ่งก็จะเป็นปัญหากับเกษตรกร ซึ่งจากที่ได้ลงพื้นที่พบว่า ในช่วงเดือน มี.ค.นี้เป็นเดือนที่เกษตรกรจะต้องใช้หนี้ตามเงื่อนไขให้กับ ธ.ก.ส. แต่เกษตรกรกลับยังไม่ได้เงินจากโครงการจำนำข้าวเลย จึงทำให้เกษตรกรไม่มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส. และต้องหันไปกู้หนี้ระยะสั้นมาใช้หนี้ จึงมีความเดือดร้อนอย่างมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น