ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ว่าแบงก์ชาติชี้ไม่ควรแตกตื่นกรณีแห่ถอนเงิน 2 แบงก์รัฐ เหตุรัฐบาลถือหุ้น-ส่วนแบ่งตลาดน้อยมาก ยันไม่กระทบระบบแบงก์พาณิชย์ เผยตั้งแต่ต้นปีเงินไหลเข้าสุทธิ 3,000 ล้านบาท เดือน ก.พ.เริ่มไหลเข้าน้อยลง เล็งชงบอร์ด กนง.วันที่ 3 เม.ย.นี้ ปรับจีดีพีไทยสูงกว่า 4.9% ระบุต่างชาติลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทยน้อย เหตุติดเรื่องกฎหมาย
กรณีที่ประชาชนถอนเงินจากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 2 แห่ง คือ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(IBank) และธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs Bank) ไปฝากเงินในธนาคารพาณิชย์อื่น นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่าไม่ได้สร้างปัญหาให้กับระบบธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 2 แห่งมีรัฐบาลเป็นเจ้าของและถือหุ้น 100% ดังนั้นคงจะไม่ปล่อยให้ผู้ฝากเงินต้องรับความเสี่ยงได้ ประกอบกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 2 แห่งดังกล่าวมีส่วนแบ่งการตลาดในด้านของเงินฝากไม่สูงนัก
"ที่ผ่านมาในการกำกับดูแลการดำเนินงานของธนาคารเฉพาะกิจของรัฐนั้น กระทรวงการคลังได้ขอให้ ธปท.เข้าตรวจสอบการดำเนินงานในบางส่วนและรายงานกลับไปยังกะทรวงการคลัง ซึ่งในกรณีนี้หากกระทรวงการคลังต้องการให้เข้าไปช่วยเหลือ ธปท.ก็ยินดี" นายประสารกล่าว
นายประสารปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “มองรอบด้านการลงทุนปี 56” จัดโดยธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน)ว่า เงินบาทไทยมีโอกาสผันผวนมากขึ้นและจะแข็งค่าได้ในช่วงสั้นๆ จากเงินทุนไหลเข้าจากการที่ไทยและภูมิภาคนี้มีเศรษฐกิจเข้มแข็ง ซึ่งมีเงินทุนไหลเข้าทั้งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หุ้นและพันธบัตรเพิ่มขึ้นกว่าในอดีตมากและการซื้อขายคึกคัก ทำให้โอกาสผลตอบแทนทางการเงินเพิ่มขึ้น แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เงินทุนไหลเข้าในเดือน ก.พ.เริ่มมีแนวโน้มลดลงและหันมาลงทุนระยะยาวมากขึ้น
“มีโอกาสสูงที่จะปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นในปี 56 ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.9% โดยจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในงวดหน้า คือ วันที่ 3 เม.ย.นี้ เพราะฐานปีก่อนสูงขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อขอรอข้อมูลอีกสักระยะ แต่ตอนนี้สมมติฐานราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 110 เหรียญต่อบาร์เรลจากเดิม 105เหรียญต่อบาร์เรล
แต่เชื่อว่าราคาน้ำมันปี 56 ไม่สูงกว่าระดับดังกล่าว เพราะการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกเป็นแบบค่อนเป็นค่อนไป”
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยปีก่อนขยายตัวอยู่ที่ 6.4% ขณะที่ธปท.ประมาณการณ์ไว้ที่ 5.9% สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เพราะอุปสงค์ในประเทศและการลงทุนภาคเอกชน ถือเป็นแรงส่งที่ดีให้แก่เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ส่วนภาคการส่งออกจะขยายตัวได้ดีในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่อไป ส่วนภาวะเศรษฐกิจโลกตอนนี้ก็เริ่มมีเสถียรภาพดีขึ้นและมีแนวโน้มการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แม้มีจุดเสี่ยงอยู่บ้างจากความไม่แน่นอนด้านการคลังของสหรัฐและการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรป ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินของกลุ่มประเทศหลักอาจจะต้องผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ย
โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ต่างชาตินำเงินลงทุนในตลาดหุ้นทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท ส่วนตลาดพันธบัตรต่างชาตินำเงินมาลงทุน 83,000 หมื่นล้านบาท ทำให้ตอนนี้ต่างชาติมีสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตร 11.6%ของมูลค่าตลาด จากเดิมทีสัดส่วน 5% ซึ่งก่อนหน้านี้ต่างชาติมีสัดส่วนลงทุนประเภทนี้ค่อนข้างน้อย ทำให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติยังไม่มากเมื่อเทียบกับบางอินโดนีเซียหรือมาเลเซียที่มีสัดส่วนสูงถึง 30-40% ฉะนั้นหากต่อไปต่างชาติขายออกไปก็มีผลต่อตลาดไม่มากนัก
ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเกิดจากกำลังซื้อของประชาชนและต้นทุนจากการปรับค่าแจ้งแรงงานขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศและราคาวัสดุก่อสร้าง แต่เท่าที่สำรวจ พบว่า แม้เงินทุนไหลเข้าในช่วงที่ผ่านมา แต่บทบาทต่างชาติต่อภาคอสังหาฯ ของไทยยังไม่มาก เพราะกฎหมายไทยห้ามต่างชาติซื้อที่ดิน แต่สามารถซื้อคอนโดได้ไม่เกิน 49%ของพื้นที่โครงการ ขณะเดียวกันต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ มีสัดส่วนไม่สูงประมาณ 16%ของมูลค่าทั้งตลาด
ยันมีแผนรับมือไฟดับ เม.ย.
นายประสารกล่าวถึงกรณีไฟฟ้าดับในช่วงเดือน เม.ย.ว่า คงจะไม่มีผลกระทบ เนื่องจาก ธปท.ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องระบบไฟสำรองอยู่แล้ว โดยระบบไฟ้สำรองทั้ง 2 ระบบนั้น สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ ทำให้มั่นใจว่า จะไม่มีปัญหาต่อการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างแน่นอน.
กรณีที่ประชาชนถอนเงินจากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 2 แห่ง คือ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(IBank) และธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs Bank) ไปฝากเงินในธนาคารพาณิชย์อื่น นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่าไม่ได้สร้างปัญหาให้กับระบบธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 2 แห่งมีรัฐบาลเป็นเจ้าของและถือหุ้น 100% ดังนั้นคงจะไม่ปล่อยให้ผู้ฝากเงินต้องรับความเสี่ยงได้ ประกอบกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 2 แห่งดังกล่าวมีส่วนแบ่งการตลาดในด้านของเงินฝากไม่สูงนัก
"ที่ผ่านมาในการกำกับดูแลการดำเนินงานของธนาคารเฉพาะกิจของรัฐนั้น กระทรวงการคลังได้ขอให้ ธปท.เข้าตรวจสอบการดำเนินงานในบางส่วนและรายงานกลับไปยังกะทรวงการคลัง ซึ่งในกรณีนี้หากกระทรวงการคลังต้องการให้เข้าไปช่วยเหลือ ธปท.ก็ยินดี" นายประสารกล่าว
นายประสารปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “มองรอบด้านการลงทุนปี 56” จัดโดยธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน)ว่า เงินบาทไทยมีโอกาสผันผวนมากขึ้นและจะแข็งค่าได้ในช่วงสั้นๆ จากเงินทุนไหลเข้าจากการที่ไทยและภูมิภาคนี้มีเศรษฐกิจเข้มแข็ง ซึ่งมีเงินทุนไหลเข้าทั้งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หุ้นและพันธบัตรเพิ่มขึ้นกว่าในอดีตมากและการซื้อขายคึกคัก ทำให้โอกาสผลตอบแทนทางการเงินเพิ่มขึ้น แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เงินทุนไหลเข้าในเดือน ก.พ.เริ่มมีแนวโน้มลดลงและหันมาลงทุนระยะยาวมากขึ้น
“มีโอกาสสูงที่จะปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นในปี 56 ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.9% โดยจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในงวดหน้า คือ วันที่ 3 เม.ย.นี้ เพราะฐานปีก่อนสูงขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อขอรอข้อมูลอีกสักระยะ แต่ตอนนี้สมมติฐานราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 110 เหรียญต่อบาร์เรลจากเดิม 105เหรียญต่อบาร์เรล
แต่เชื่อว่าราคาน้ำมันปี 56 ไม่สูงกว่าระดับดังกล่าว เพราะการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกเป็นแบบค่อนเป็นค่อนไป”
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยปีก่อนขยายตัวอยู่ที่ 6.4% ขณะที่ธปท.ประมาณการณ์ไว้ที่ 5.9% สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เพราะอุปสงค์ในประเทศและการลงทุนภาคเอกชน ถือเป็นแรงส่งที่ดีให้แก่เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ส่วนภาคการส่งออกจะขยายตัวได้ดีในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่อไป ส่วนภาวะเศรษฐกิจโลกตอนนี้ก็เริ่มมีเสถียรภาพดีขึ้นและมีแนวโน้มการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แม้มีจุดเสี่ยงอยู่บ้างจากความไม่แน่นอนด้านการคลังของสหรัฐและการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรป ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินของกลุ่มประเทศหลักอาจจะต้องผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ย
โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ต่างชาตินำเงินลงทุนในตลาดหุ้นทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท ส่วนตลาดพันธบัตรต่างชาตินำเงินมาลงทุน 83,000 หมื่นล้านบาท ทำให้ตอนนี้ต่างชาติมีสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตร 11.6%ของมูลค่าตลาด จากเดิมทีสัดส่วน 5% ซึ่งก่อนหน้านี้ต่างชาติมีสัดส่วนลงทุนประเภทนี้ค่อนข้างน้อย ทำให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติยังไม่มากเมื่อเทียบกับบางอินโดนีเซียหรือมาเลเซียที่มีสัดส่วนสูงถึง 30-40% ฉะนั้นหากต่อไปต่างชาติขายออกไปก็มีผลต่อตลาดไม่มากนัก
ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเกิดจากกำลังซื้อของประชาชนและต้นทุนจากการปรับค่าแจ้งแรงงานขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศและราคาวัสดุก่อสร้าง แต่เท่าที่สำรวจ พบว่า แม้เงินทุนไหลเข้าในช่วงที่ผ่านมา แต่บทบาทต่างชาติต่อภาคอสังหาฯ ของไทยยังไม่มาก เพราะกฎหมายไทยห้ามต่างชาติซื้อที่ดิน แต่สามารถซื้อคอนโดได้ไม่เกิน 49%ของพื้นที่โครงการ ขณะเดียวกันต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ มีสัดส่วนไม่สูงประมาณ 16%ของมูลค่าทั้งตลาด
ยันมีแผนรับมือไฟดับ เม.ย.
นายประสารกล่าวถึงกรณีไฟฟ้าดับในช่วงเดือน เม.ย.ว่า คงจะไม่มีผลกระทบ เนื่องจาก ธปท.ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องระบบไฟสำรองอยู่แล้ว โดยระบบไฟ้สำรองทั้ง 2 ระบบนั้น สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ ทำให้มั่นใจว่า จะไม่มีปัญหาต่อการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างแน่นอน.