- กลุ่มประเทศ G7 ยืนยันให้กลไกตลาดเป็นผู้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ โดยนโยบายการเงินต่างๆ ควรจะมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายเศรษฐกิจภายในประเทศ และหลีกเลี่ยงการพุ่งเป้าไปที่อัตราแลกเปลี่ยนซึ่งจะก่อให้เกิดความผันผวนที่มากเกินไปในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
- Moody’s ระบุว่า เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความเสี่ยงขาลงที่ลดลง แต่เศรษฐกิจโลกจะยังขยายตัวอย่างเชื่องช้าเนื่องจากปัจจัยสำคัญ 3 ปัจจัยคือ 1) สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลังได้ 2) ยูโรโซนสามารถผ่อนคลายความกังวลด้านการคลัง และ 3) ประเทศเกิดใหม่ที่สำคัญหลีกเลี่ยงภาวะฮาร์ดแลนดิ้งได้
- สเปนสามารถประมูลพันธบัตรรัฐบาลสเปนอายุ 6 เดือน และ 12 เดือน มูลค่ารวม 5.55 ล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทน 0.859% และ 1.548% ตามลำดับ จากอัตราผลตอบแทน 0.888% และ 1.472% ในการประมูลครั้งก่อน
- อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนม.ค. คงที่อยู่ในระดับ 2.7% จากราคาสินค้าพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้ และจะทรงตัวอยู่เหนือระดับเป้าหมายไปอีก 2 ปี
- ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของออสเตรเลียในเดือนม.ค. ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3 จากระดับ 2 ในเดือนก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของตลาดทุนโลก เศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มดีขึ้น และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 3% ในเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางออสเตรเลีย
- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผอ.ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(ADB) กล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีศักยภาพที่จะขยายตัวในระดับ 2% ในปีนี้ และจะขยายตัวต่อเนื่องในอนาคตจนพ้นจากภาวะถดถอยได้ โดยเสริมว่า ญี่ปุ่นยังสามารถใช้นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และธนาคารกลางญี่ปุ่นยังสามารถซื้อสินทรัพย์ได้อีกหลายล้านล้านเยน ทั้งนี้ นายฮารุฮิโกะ ได้รับการคาดหมายว่า จะได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นคนใหม่
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดียในเดือนธ.ค. ปรับลดลง 0.6% จาก -0.8% ในเดือนก่อน จากความต้องการในประเทศที่หดตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวในระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 10 ปี ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับ 7% ของอินเดียถือเป็นปัจจัยกดดันที่ทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่สามารถทำได้ ขณะที่รัฐบาลพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนแทน
- เกาหลีเหนือมีการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดิน ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนขนาด 4.9 ริคเตอร์ ทั้งนี้ หลายประเทศออกมาประณามการกระทำดังกล่าวและ UN มีการเรียกประชุมฉุกเฉินที่สำนักงานใหญ่กรุงนิวยอร์คเพื่อกำหนดท่าที
- ครม.เห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 โดยตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้ที่ 2.525 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาทจากงบประมาณปี 2556 และตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2.27 ล้านล้านบาท ทำให้เป็นการขาดดุลงบประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ลดลงจากการขาดดุล 3 แสนล้านบาทในงบประมาณปีนี้
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยตั้งเป้าหมายลดหนี้ NPL จำนวน 6,000 ล้านบาทให้ได้ในปีนี้ และคาดว่าจะแก้ปัญหาหนี้ได้ใน 3 ปี โดยปัจจุบันธนาคารฯมีหนี้ NPL ที่สูงถึง 24,730 ล้านบาท และส่วนใหญ่เกิดจากลูกหนี้รายใหญ่ถึง 90% ซึ่งธนาคารฯ จะเริ่มเรียกลูกหนี้กลุ่มดังกล่าวเข้ามาหารือ ทั้งนี้ ธนาคารฯยังคงมั่นใจว่า จะได้รับการเพิ่มทุนจากกระทรวงการคลังตามที่เสนอ
- ม.หอการค้า คาดว่า การใช้จ่ายช่วงวันวาเลนไทร์จะมีมูลค่าสูงถึง 3,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.99% ซึ่งนับเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทที่ทำให้ประชาชนมีเงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
- SET Index ปิดตลาดที่ 1,488.95 จุด ลดลง 0.16 จุด หรือ -0.01% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 55,710.67 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,870 ล้านบาท ยังคงขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ดัชนียังคงแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบจากการที่นักลงทุนยังรอปัจจัยบวกใหม่มาสนับสนุนทิศทางตลาด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุระหว่าง +0.01% ถึง +0.04% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาล อายุ 8 ปี มูลค่า 10,000 ล้านบาท
- ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.75% แม้ว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียในไตรมาสก่อนจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี แต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากการเก็บภาษีพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น ค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินรูเปียที่อ่อนค่าลงทำให้ต้นทุนสินค้านำเข้าสูงขึ้น ทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงินมีความเป็นไปได้ที่ลดลง
