xs
xsm
sm
md
lg

เลื่อนส่งคดีโรงพักให้ปปช. ปูดดีเอสไอฟันแค่พีซีซีฯ 3ผู้บริหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (26 ก.พ.56) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวภายหลังเป็นประธานการชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง มูลค่า 5,848 ล้านบาท ของบริษัทพีซีซี ดีเวลลอปเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เพื่อพิจารณาพยานหลักฐานในคดีฉ้อโกงผู้รับเหมาช่วง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียดว่า พบว่ายังมีเอกสารสำคัญที่ต้องได้จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักนายกรัฐมนตรี จึงจำเป็นต้องเลื่อนสรุบสำนวนส่ง ป.ป.ช. จากสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์หน้า
ส่วนคดีฉ้อโกงมีบริษัทรับเหมาช่วงเข้าร้องทุกข์ อยู่ระหว่างรวบรวมเพื่อดำเนินการ
มีรายงานจาก ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่า ได้มีมติในการแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงผู้รับเหมาช่วงกับบริษัทพีซีซีฯ ในฐานะนิติบุคคล พร้อมผู้บริหารอีก 3 คน ตามมาตรา 341 ประมวลกฎหมายอาญา หลังผู้บริหารบริษัทพีซีซีฯ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ยืนยันว่า ไม่มีเอกสารในการอนุญาตจ้างผู้รับเหมาช่วงจาก สตช.ตามคำขอดีเอสไอ เพียงแฟกซ์เอกสารการส่งมอบพื้นที่ และเอกสารการขยายเวลาก่อสร้างออกไป จึงไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานที่เป็นสาระสำคัญในคดีฉ้อโกงได้ เนื่องจากเห็นว่า การกระทำของบริษัทพีซีซีฯ มีเจตนาทุจริตโดยการฉ้อโกงตั้งแต่ต้น เพราะรู้ว่าจะไม่สามารถก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง ทั่วประเทศ ได้ทันตามสัญญา โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือคัดค้านการรวบประมูลส่วนกลางของบริษัทพีซีซีฯ 3 ฉบับ ที่ส่งถึงสำนักนายกรัฐมนตรี สตช.และสำนักงานส่งกำลังบำรุง สตช.
ทั้งนี้ยังพบว่า บริษัทพีซีซีฯ ยังได้เข้าประมูลโดยเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางกว่า 500 ล้านบาท จากนั้นยังไปจ้างช่วงผู้รับเหมารายย่อย โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก สตช. ดีเอสไอจึงมองว่าบริษัทพีซีซีฯ ไม่คิดจะผูกพันตามสัญญา แต่อาศัยผลแห่งสัญญาและผลงานของผู้รับเหมาช่วงไปเบิกเงินล่วงหน้าและค่างวดงานจาก สตช. 1,500 ล้านบาท อีกทั้งยังไม่จ่ายค่างวดให้ผู้รับเหมาช่วงตามสัญญาหลังได้ลงทุนก่อสร้างสถานีตำรวจ รวมมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท
“ดีเอสไอเห็นว่าพฤติการณ์จึงเข้าข่ายการฉ้อโกงผู้รับเหมาช่วง โดยเป็นการทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คาดว่าอีก 7-10วัน ดีเอสไอจะออกหมายเรียกบริษัทพีซีซีฯ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา”
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือว่าชัดเจนที่อาจมีการขัดมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ให้มีการกระจายการจัดซื้อจัดจ้างการก่อสร้างโรงพักไปยังหน่วยงานในพื้นที่ แต่ต่อมาในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็นรักษาการผบ.ตร. กลับมีการให้รวมสัญญาการก่อสร้างโรงพักมารวมไว้ที่บริษัทเดียว
การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สามารถจ้างรวมได้ แต่สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังบอกไม่ได้ และอะไรก็ตามที่มีมติครม.ไว้ หากจะทำโดยไม่ปฏิบัติตามมติครม.ต้องยกเลิกมติครม.เดิม อย่างไรก็ตาม
“เรื่องนี้ความผิดเกิดแล้ว ไม่ต้องเสนอเรื่องเข้าครม.ใหม่เพื่อยกเลิกมติครม.เดิม หากจะทำต้องทำก่อนอนุมัติ เรื่องนี้ใครจะไปแกล้งพรรคประชาธิปัตย์ได้ เขาพรรคเทวดา”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวและว่าส่วนที่มีนายตำรวจออกมาพูดให้สับสนตนก็รู้ที่มาที่ไป บริษัท พีซีซี สนิทกับพ่อตานักการเมืองคนไหน และนักการเมืองคนนั้นก็สนิทกับเพื่อนสมาชิกในพรรค เพื่อนสมาชิกในพรรคก็มีพ่อตาเป็นอดีตตำรวจเก่า คนที่ออกมาพูดก็คือนายเวรของอดีตนายตำรวจเก่า
ส่วนกรณีพล.ต.อ.เจตน์ มงคลหัตถี ที่ปรึกษา (สบ.10) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบยืนยันว่าไม่พบการทุจริตนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ตนคุยกับผบ.ตร.แล้วว่าเราอย่าเพิ่งไปพูด งานนี้ถ้าสตช.ไม่เสียหายแล้วใครจะเสียหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น