ASTV ผู้จัดการรายวัน - ดีเอสไอ นำพนง.สอบสวนทุจริตสร้างโรงพักพบ "ผบ.ตร." ยัน ไม่ได้ไปขอโทษ แต่ไปตามหน้าที่ตามกฎหมาย เตรียมเชิญเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณและเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง ชี้แจงระเบียบโครงการสร้างสถานีตำรวจทดแทน 19 ก.พ.นี้ "ชูวิทย์” ฉุนถูกเก็บป้ายทุจริตโรงพัก ยันไม่มีเจตนาเหน็บผู้มัครผู้ว่าฯ กทม.กกต.พร้อมสอบหากมีผู้ร้องเรียน
วานนี้ (18ก.พ.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เข้าพบ พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพื่อประสานข้อมูลรายละเอียด กรณีการจัดซื้อจัดจ้างการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศ
โดยนายธาริตระบุว่า หลังจากนี้จะมีการประชุมร่วมและประสานงานอย่างใกล้ชิด กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ส่วนความคืบหน้าคดี เบื้องต้นพบว่าบริษัทพีซีซี ดีเวลลอบเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง หลังมีผู้รับเหมารายย่อยหลายสิบรายมีหลักฐานและร้องเรียนกับดีเอสไอ และยังอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายฮั้วประมูลด้วย ส่วนเรื่องการเบิกจ่างบประมาณ 1,500 ล้านบาทนั้น ต้องตรวจสอบรายละเอียดอย่างรัดกุมเสียก่อน
นายธาริต ยังกล่าวยืนยันด้วยว่า การเชิญอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ จะไม่ทำให้เกิดปัญหาระหว่างหน่วยงานการเข้าพบครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเข้าพบเพื่อขอโทษในประเด็นที่ก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เคยออกมาตำหนิการทำงานของพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ที่เชิญอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลายท่าน อาทิ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าชี้แจงถึงขั้นตอนการเสนอจัดทำสัญญาการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน ทั้งแบบแยกประมูลเป็นรายภาค และรวมประมูลแบบครั้งเดียว
ด้านายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.พ.พนักงานสอบสวนได้เชิญเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเข้าพบเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับระเบียบวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง ภายหลังอดีตผบ.ตร. ที่รับผิดชอบในช่วงการเสนอและอนุมัติโครงการดังกล่าวได้เข้าให้ปากคำเสร็จสิ้นแล้ว โดยของสำนักงบประมาณจะสอบถามถึงวิธีการตั้งงบประมาณตั้งแต่เริ่มต้นว่าเป็นการแยกสัญญาแล้วจึงรวมสัญญาจริงหรือไม่ ส่วนกรมบัญชีกลางจะสอบถามถึงระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างว่ามีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร เพื่อนำมาประมวลผลเปรียบเทียบกับคำชี้แจงก่อนหน้านี้
**“ชูวิทย์” ฉุนถูกเก็บป้ายทุจริตโรงพัก
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า การติดตั้งป้ายที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศทั่วกทม. ไม่มีเจตนาอย่างใดที่จะแอบแฝงให้กระทบกับผู้สมัครผู้ว่า ฯ กทม.รายใด ถือเป็นการให้ความรู้กับประชาชนเรื่องที่มีการคอรัปชั่น ยืนยันว่า จะทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป และหากมีหลักฐานชัดเจนเรื่องการคอรัปชั่น พร้อมจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ตรวจสอบ.
**กกต.จ่อตรวจสอบติดป้าย "ทุจริตโรงพัก"
นายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กต.กทม.) กล่าวว่า การนำป้าย "โครงการโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ 5,848 ล้านบาท อย่าปล่อยให้คอรัปชั่นลอยนวล" มาติดเหนือป้ายหาเสียงของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ว่ากรณีดังกล่าวต้องดูว่าผู้ที่กระทำการดังกล่าวมีเจตนาอย่างไร หากมีเจตนาใส่ร้าย และทำให้เข้าใจผิดต่อคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือเป็นการหลอกลวง จูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องที่เกี่ยวกับผู้สมัคร เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครรายใด ก็อาจมีความผิด ตามพ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาตรา 57 (5) ได้ เพราะคดีทุจริตโครงการโรงพักทดแทนนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งยังไม่มีผลสรุปคดีออกมาเป็นที่สิ้นสุด
วานนี้ (18ก.พ.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เข้าพบ พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพื่อประสานข้อมูลรายละเอียด กรณีการจัดซื้อจัดจ้างการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศ
โดยนายธาริตระบุว่า หลังจากนี้จะมีการประชุมร่วมและประสานงานอย่างใกล้ชิด กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ส่วนความคืบหน้าคดี เบื้องต้นพบว่าบริษัทพีซีซี ดีเวลลอบเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง หลังมีผู้รับเหมารายย่อยหลายสิบรายมีหลักฐานและร้องเรียนกับดีเอสไอ และยังอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายฮั้วประมูลด้วย ส่วนเรื่องการเบิกจ่างบประมาณ 1,500 ล้านบาทนั้น ต้องตรวจสอบรายละเอียดอย่างรัดกุมเสียก่อน
นายธาริต ยังกล่าวยืนยันด้วยว่า การเชิญอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ จะไม่ทำให้เกิดปัญหาระหว่างหน่วยงานการเข้าพบครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเข้าพบเพื่อขอโทษในประเด็นที่ก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เคยออกมาตำหนิการทำงานของพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ที่เชิญอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลายท่าน อาทิ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าชี้แจงถึงขั้นตอนการเสนอจัดทำสัญญาการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน ทั้งแบบแยกประมูลเป็นรายภาค และรวมประมูลแบบครั้งเดียว
ด้านายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.พ.พนักงานสอบสวนได้เชิญเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเข้าพบเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับระเบียบวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง ภายหลังอดีตผบ.ตร. ที่รับผิดชอบในช่วงการเสนอและอนุมัติโครงการดังกล่าวได้เข้าให้ปากคำเสร็จสิ้นแล้ว โดยของสำนักงบประมาณจะสอบถามถึงวิธีการตั้งงบประมาณตั้งแต่เริ่มต้นว่าเป็นการแยกสัญญาแล้วจึงรวมสัญญาจริงหรือไม่ ส่วนกรมบัญชีกลางจะสอบถามถึงระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างว่ามีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร เพื่อนำมาประมวลผลเปรียบเทียบกับคำชี้แจงก่อนหน้านี้
**“ชูวิทย์” ฉุนถูกเก็บป้ายทุจริตโรงพัก
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า การติดตั้งป้ายที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศทั่วกทม. ไม่มีเจตนาอย่างใดที่จะแอบแฝงให้กระทบกับผู้สมัครผู้ว่า ฯ กทม.รายใด ถือเป็นการให้ความรู้กับประชาชนเรื่องที่มีการคอรัปชั่น ยืนยันว่า จะทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป และหากมีหลักฐานชัดเจนเรื่องการคอรัปชั่น พร้อมจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ตรวจสอบ.
**กกต.จ่อตรวจสอบติดป้าย "ทุจริตโรงพัก"
นายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กต.กทม.) กล่าวว่า การนำป้าย "โครงการโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ 5,848 ล้านบาท อย่าปล่อยให้คอรัปชั่นลอยนวล" มาติดเหนือป้ายหาเสียงของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ว่ากรณีดังกล่าวต้องดูว่าผู้ที่กระทำการดังกล่าวมีเจตนาอย่างไร หากมีเจตนาใส่ร้าย และทำให้เข้าใจผิดต่อคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือเป็นการหลอกลวง จูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องที่เกี่ยวกับผู้สมัคร เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครรายใด ก็อาจมีความผิด ตามพ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาตรา 57 (5) ได้ เพราะคดีทุจริตโครงการโรงพักทดแทนนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งยังไม่มีผลสรุปคดีออกมาเป็นที่สิ้นสุด