xs
xsm
sm
md
lg

“อู๋ แว้นกระเจิง” สุดทน “ธาริต” ลาก “บิ๊กตำรวจ” เน่ากันไปหมด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.
สน.พระอาทิตย์ / สามยอด

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว แม่ทัพใหญ่สีกากี เจ้าของฉายา “อู๋ แว้นกระเจิง” จากสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ออกอาการปรี๊ดแตกใส่ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการทำคดีทุจริตสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทนจำนวน 396 แห่งทั่วประเทศ ต้องบอกว่าไม่ใช่อาการแสดงหรือการเบี่ยงเบนประเด็นอะไร แต่เป็นอาการไม่พอใจอย่างแท้จริง

ขนาด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่คอยสนับสนุนสอดรับการทำงานของธาริตเหมือนคอหอยลูกกระเดือกตลอดมา ก็ยังไม่กล้าโดดออกมาแสดงความคิดเห็นไปข้างหนึ่งข้างใด หรือออกมาเป็นกาวใจให้ทั้ง 2 ฝ่ายคืนดีกัน เพราะอดีตตำรวจกองปราบเก่ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เช่นเดียวกับ ธาริต ก็รู้ว่าอู๋ แว้นกระเจิงของขึ้นจริง ชนิดที่ใครก็อย่ามาขวาง จนธาริตต้องยอมเสียฟอร์มออกมาขอโทษ พล.ต.อ.อดุลย์ผ่านสื่อ พร้อมยืนยันดีเอสไอไม่มีเจตนาให้ร้ายองค์กรตำรวจแน่นอน และให้ความเคารพ ผบ.ตร.และหน่วยงานของตำรวจ ไม่มีเจตนาหมิ่นเกียรติ หากมีสิ่งใดที่นำเสนอเป็นข่าวแล้วไม่สบายใจ ต้องขอโทษด้วย

“ผมมีความไม่สบายใจอย่างมาก เพราะพล.ต.อ.อดุลย์ เป็นผู้ใหญ่ของ สตช. เกรงจะเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กร ซึ่งไม่ดีต่อกระบวนการยุติธรรม ผมมีความตั้งใจจะหาโอกาสไปขอพบและขอโทษด้วยตัวเองอีกครั้ง”

แม้ธาริตจะออกตัวบอกโครงการสร้างโรงพักตำรวจทดแทนพบการกระทำเข้าข่ายความผิด 2 เรื่อง คือ ฮั้วประมูลและฉ้อโกง และอ้างว่าเหตุที่ทำหนังสือเรียก ผบ.ตร.มาพบก็เพื่อให้ ผบ.ตร.ในฐานะผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์คดีฉ้อโกง ถือเป็นการออกหนังสือในนามหัวหน้าหน่วยงานไม่ใช่ส่วนตัว โดยมองว่า สตช.ได้รับความเสียหาย จึงต้องการให้มาร้องทุกข์อย่างเป็นทางการ ซึ่ง ผบ.ตร.คงไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าร้องทุกข์เอง สามารถมอบหมายให้ผู้รับมอบอำนาจมาร้องทุกข์ได้ ทั้งนี้ ดีเอสไอเปิดโอกาสให สตช.ใช้ดุลพินิจเต็มที่ในการเข้ามาร้องทุกข์ต่อดีเอสไอก็ตาม

ว่ากันถึงบุคลิก พล.ต.อ.อดุลย์ในสายตาของคนทั่วไป ต้องถือเป็นตำรวจที่ใจเย็น อ่อนน้อม ถ่อมตน ไม่ค่อยมีปัญหาขัดแย้งกับใครง่าย ขนาดลงไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งต่างก็รู้ว่าหน่วยงานราชการจะขัดแข้งขัดขากันเอง ถึงขั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องพยายามสานสัมพันธ์ด้วยการคิดนโยบายการบูรณาการทำงานร่วมกัน ก็ไม่มีกระแสเสียงใดที่กระเส็นกระสายออกมาว่าบิ๊กอู๋ขัดแย้งกับใคร ตรงกันข้ามทั้ง ทหาร ฝ่ายปกครอง ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ต่างชื่นชอบชื่นชม พล.ต.อ.อดุลย์อย่างมาก

อาการปรี๊ดแตกครั้งนี้จึงไม่ธรรมดา!!!

หากถอดอารมณ์ อู๋ แว้นกระเจิงกับอาการของขึ้น ประเด็นสำคัญที่สุดน่าจะมีอยู่ 2 ประการหลัก คือ ประการแรกศักดิ์ศรี ประการที่สองกระสุนลั่นใส่พวกตัวเอง

ประเด็นเรื่องศักดิ์ศรีมาจากตลอดสัปดาห์การให้สัมภาษณ์ของธาริต ยิ่งนับวันจะเหิมเกริมเข้าลักษณ์ประหนึ่งบ้าอำนาจกลายๆ มีการออกข่าวจะเรียก บิ๊กอู๋และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร.มาให้ข้อมูล ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หากเทียบซีตามระบบราชการ ธาริตมีตำแหน่งแค่เพียง อธิบดีซี 10 แต่ พล.ต.อ.อดุลย์ เป็น ผบ.ตร. เทียบเท่า ปลัดกระทรวง ซี 11 การใช้คำพูดจิกเช่นนั้นจึงดูไม่เหมาะสม

นอกจากนี้ ธาริตก็ยังเดินสายไปดูโรงพักที่สร้างไม่เสร็จตามสถานที่ต่างๆ พร้อมทั้งพาสื่อมวลชนติดตามไปทำข่าวตลอดเวลา แถมมีการให้ข่าวจะเรียกตำรวจคนนั้นคนนี้มาให้ข้อมูล ในลักษณะหว่านไปทั่ว ถึงขนาด พล.ต.อ.เพียวพันธ์ก็จะเรียก ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ก็เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ไม่มีข้อมูล และหมิ่นศักดิ์ศรีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ประเด็นกระสุนลั่นใส่พวกตัวเอง ก็เพราะเป็นที่รับรู้ว่า การที่ดึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ามาทำคดีทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทนครั้งนี้ เป้าประสงค์ทางการเมืองก็คือการตั้งธงเล็งกระสุนยิงไปที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำคนสำคัญพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้เซ็นอนุมัติโครกการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ

แต่พอดีเอสไอเริ่มทำคดีธาริตก็พร่ำไปเรื่อยๆฟาดฟันตำรวจเกือบเกลี้ยงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พาดพิงอดีต ผบ.ตร.หลายคน ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาการ ผบ.ตร. และพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร. ซึ่งข้อพาดพิงก็เป็นลักษณะอดีตนายตำรวจผู้ใหญ่ทั้ง 3 รายเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกง จนทำให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนไม่สบายใจและส่งสัญญาณไปถึงรุ่นน้องโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานอย่างบิ๊กอู๋ว่าเรื่องนี้ชักจะบานปลาย และดูเป็นการทำลายองค์กรตำรวจด้วยข้อครหาโกงกินบ้านตัวเอง

ตำรวจถูกลากเป็นเหยื่อสถานการณ์จนบอบช้ำเหม็นเน่ากันไปหมด

นอกจากนี้ การกระพือโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน ก็ยังไปเชื่อมโยง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย สมัยที่เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. ว่าเป็นประธานทีโออาร์โครงการ ซึ่งสร้างความขุ่นข้องให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ ถึงขั้นต้องส่งสัญญาณไปถึงคนแดนไกลว่าไม่สบายใจหากยังหยิบโยงชื่อไปเกี่ยวข้อง เพราะจะทำให้คะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ตกลง

สัญญาณความไม่พอใจดีเอสไอจากฝ่ายคนสีกากี จึงถูกส่งผ่านอาการปรี๊ดแตกของ พล.ต.อ.อดุลย์ ดังนั้นสิ่งที่น่าจับตาต่อจากนี้ก็คงต้องโฟกัสที่การทำคดีโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทนของดีเอสไอ ที่เชื่อว่าโทนคดีจะพลิกเปลี่ยนปากกระบอกที่เล็งกระสุนมายังสีกากี จะวกไปทางสุเทพมากขึ้น หรือไม่เช่นนั้นธาริตก็คงสงบปากสงบคำไม่โหมกระหนำสาดกระสุนมั่วซั่ว

กระสุนจะลั่นใส่พวกเดียวกันเหมือนที่ผ่านมา
(แฟ้มภาพ)นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี(ดีเอสไอ.)
กำลังโหลดความคิดเห็น