xs
xsm
sm
md
lg

บริหารชุมชนโจทย์ใหญ่LPN“ลุมพีนี ทาวน์ชิป”คอนโดหมื่นยูนิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - แม้ว่าจะมีเสียงเตือนดังๆ มาจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ถึงภาวะใกล้ล้นตลาดของคอนโดมิเนียมในบางทำเล แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ประกอบการหยุดพัฒนาหรือชะลอพัฒนาคอนโดฯออกสู่ตลาดได้ ในทางตรงข้ามบางราบกับพัฒนาโครงการขนาดใหญ่จำนวนยูนิตมากๆ เช่นเดิม โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่ไม่กลัวน้ำร้อน โดยให้เหตุผลว่า การลงทุนของผู้ประกอบการรายใหญ่ในปัจจุบัน ที่ผ่านวิกฤตมาหลายช่วงเวลา ทั้งต้องยำกุ้ง แฮมเบอร์เกอร์ รวมถึงปัจจัยลบต่างๆที่ถาโถมมากระทบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่เนื่องๆ

การผ่านมรสุมมาหลายต่อหลายหน ทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริหารการเงิน การรักษาระดับหนีสินต่อทุน การศึกษาความต้องการของผู้บริโภค การพัฒนาผลิตภัณฑ์จนสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการเหล่านั้น มีความเชื่อมั่นว่าตนเองจะสามารถประสบความสำเร็จในโครงการที่ลงทุนไปได้

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ยอมรับว่าสินค้าในบางทำเลมีมากเกินไปจนอาจทำให้ยอดขายในทำเลนั้นๆชะลอตัวได้ แต่อย่างไรก็ตาม การหาทำเลใหม่ที่มีความต้องการนับเป็นโจทย์และความท้าทายของผู้ประกอบการอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาแอล.พี.เอ็น.ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า แม้ว่าจะมีจำนวนยูนิตมากเพียงใดก็สามารถขายได้หมด เพราะเราได้ทำการศึกษาตลาดมาแล้วเป็นอย่างดีว่าพัฒนาสินค้าออกมาเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในย่านนั้น

การขายคอนโดฯให้สามารถปิดการขายได้นับว่ายากแล้ว การบริหารจัดการชุมชนกลับยากกว่าหลายเท่านัก เพราะอย่าลืมว่า การพัฒนาโครงการใช่จะจบเพียงแค่ปิดการขาย แต่เป็นการบริหารชุมชนหลังการขายต่างหากที่ยากยิ่งกว่า เพราะอย่าลืมว่าแอล.พี.เอ็น.ล้วนแต่พัฒนาโครงการขนาดใหญ่ 1,000-5,000 ยูนิต นั้นหมายถึงการที่ต้องบริหาร 1,000-5,000 ครอบครัวให้สามารถอยู่รวมกันได้อย่างมีระเบียบ และน่าอยู่ ไม่กลายเป็นสลัมเหมือนที่หลายโครงการเป็นมาแล้ว

ที่ผ่านมา แอล.พี.เอ็น. ได้พัฒนาแนวทางการบริหารชุมชนมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน จนกลายเป็นความเชียวชาญ ซึ่งหัวใจสำคัญของการบริหารชุมชนของแอล.พี.เอ็น. นั้นคือ FBLES

F คือ Facility Management การบริหารจัดการส่วนประกอบของโครงการ ซึ่งประกอบด้วย ทรัพย์ส่วนกลาง ตัวอาคาร และงานระบบ โดยกำหนดให้มีการบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่มีประสิทธิภาพ,

B คือ Budgeting Management การบริหารจัดการงบประมาณ โดยการตั้งงบประมาณ บริหารงบประมาณด้านรับ-จ่าย อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส

L คือ Life Quality Management การบริหารจัดการคุณภาพชีวิต ภายใต้การปฏิบัติตามระเบียบการพักอาศัยภายในชุมชน การสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน และสร้างกิจกรรมภายในชุมชนเพื่อสร้างจิตสำนึกการอยู่ร่วมกัน ดูแลห่วงใย และแบ่งปัน

E คือ Environment Management การบริหารจัดการสภาพแวดล้อม อันได้แก่ พื้นที่สีเขียวในโครงการ ดูแลความสะอาด บริหารขยะอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคในพื้นที่ส่วนกลางของชุมชน

S คือ Security Management การบริหารความปลอดภัยของชุมชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าโดยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ บริษัทได้ส่งมอบระบบและอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย รวมทั้งเครือข่ายในอาคารที่เหมาะสม โดยเฉพาะการบริหารเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มีจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อหน้าที่และมีกระบวนการตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่ผ่านมาแอล.พี.เอ็น. ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประสบความสำเร็จในการบริหารชุมชนขนาดใหญ่ และโจทย์ใหญ่และท้าทายที่แอล.พี.เอ็น.กำลังจะตั้งขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ นั้นคือ “ลุมพินี ทาวน์ชิพ” ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างจัดทำมาสเตอร์แพลน ในเบื้องต้นจะเป็นการพัฒนาที่ดิน 100 ไร่ บนรังสิตคลอง 2 เยื้องห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต แบ่งเป็น 50 อาคารๆ ละประมาณ 200 ยูนิต เปิดขายในราคา 6 แสนบาท ขนาดตั้งแต่ 21 ตร.ม. ขึ้นไป มูลค่ารวมกว่า 7,000 ล้านบาท

กลุ่มลูกค้าหลักของโครงการนี้จะเป็นพนักงานบริษัท โรงงานในย่านปทุมธานี นวนคร อยุธยา ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยกลุ่มนี้จะเช่าอพาร์ทเน้นท์ในย่านนั้น การขายแอล.พี.เอ็นจะแบ่งออกเป็นเฟสๆ ทยอยเปิดที่ละเฟส แต่การก่อสร้างจะสร้างในคราวเดียวจนแล้วเสร็จและส่งมอบ

แม้ว่าโครงการนี้ถือเป็นบิ๊กโปรเจคต์ของแอล.พี.เอ็น. ด้วยจำนวนยูนิตที่สูงถึงกว่า 10,000 ยูนิต แต่ด้วยศักยภาพของทำเล และแอล.พี.เอ็น.แล้วเชื่อว่าจะสามารถปิดการขายได้ไม่ยาก แต่โจทย์ใหญ่ที่สุดของโครงการนี้คือ การบริหารชุมชนให้สามารถอยู่รวมกันได้อย่างสงบและเป็นสุข หัวใจในการบริหารชุมชนต้องเข้มข้นทุกข้อ ทุกคนต้องอยู่ในกฎระเบียบ เช่น การที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ต้องใช้งบประมาณส่วนกลางสูงมาก ดังนั้นการเก็บเงินค่าส่วนกลางจากลูกบ้านก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากงบประมาณส่วนกลางหมดก็จะทำให้โครงการเสื่อมสภาพได้

“การขายเราไม่กลัวเพราะเชื่อว่ากำลังซื้อจะสามารถซัพพอร์ตได้หมด แต่สิ่งที่ท้าทายมากกว่านั้น คือ คุณภาพชีวิต บริหารชุมชนอย่างไรจึงจะไม่ให้กลายเป็นสลัม ซึ่งที่ผ่านมาเราเชื่อว่าเดินมาถูกทางแล้ว และการที่เราเปิดโครงการในช่วงไตรมาส 3 ทั้งๆที่ซื้อที่ดินมาระยะหนึ่งแล้ว ก็เพื่อต้องการว่างมาสเตอร์แพลนการบริหารชุมชน โดยทุกข้อต้องมีความเข้มขนเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีคุณภาพชีวิตทีดี่
กำลังโหลดความคิดเห็น