ตอนที่ผมเรียนอยู่นิวซีแลนด์ รัฐบาลนิวซีแลนด์มีหอพักให้นักเรียนโคลัมโบอยู่ตรงบ้านเลขที่ 52 และ 44 ถนนฮอบสัน ในบริเวณนั้นมีหอพักนักเรียนพยาบาลอยู่ด้วย หอพักนี้เป็นบ้านหลังใหญ่มีห้องประมาณ 6 ห้อง ข้างล่างเป็นครัวและห้องอาหาร มีนักเรียนทุนโคลัมโบหลายชาติคือ จากมาเลเซีย จากศรีลังกา และไทย
ที่หอพักทำอาหารให้นักศึกษา เขาจะมีข้าวทุกมื้อนอกนั้นก็จะมีการทำอาหารแบบที่ชาวนิวซีแลนด์กินคือ มีแกะ บางวันก็มีแกงกะหรี่ซึ่งของเขาใส่ลูกเกดและไม่เผ็ดมาก ที่ห้องครัวเขาอนุญาตให้พวกเราทำอาหารกินกันเองได้ พูดถึงแกงกะหรี่นึกถึงสมัยผมอยู่โรงเรียนที่อินเดีย กินแกงกะหรี่เขาผัดถั่วมัน และแครอทแห้งๆ แล้วก็มีคัลคือซุปถั่วทุกวัน ที่ร้านขายขนมมีโรตีกินกับถั่วแห้งๆ หากใครอยากกินไก่ก็ต้องไปสั่งให้คนงานที่เลี้ยงไว้ฆ่าไก่ บางวันเราได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเมือง มีร้านอาหารจีนทำอาหารพื้นๆ ก๋วยเตี๋ยวน้ำเรียกว่า “หมี่ฮุ้ง” คนเสิร์ฟเป็นสาวทิเบต จำได้ว่าแกไม่ค่อยอาบน้ำ เวลาเดินเสิร์ฟเหม็นกลิ่นอับจากเสื้อ แต่นักเรียนไทยก็ยังชอบแอบจับนมแกบ่อยๆ
อาหารที่หอพักในนิวซีแลนด์อร่อยพอสมควร โดยเฉพาะหมูย่างที่เคยเล่าไปแล้ว หมูย่างนี้ไม่มีอะไรอร่อยเท่ากับหมูย่างที่เมืองเซวิโก้ ประเทศสเปน เป็นหมูที่อายุเพียง 29 วัน เขาย่างทั้งตัวจนหนังกรอบ เวลาเอามาเสิร์ฟเขาใช้สันจานเฉาะหมู ความกรอบของมันแค่ใช้จานสับก็ได้ เนื้อหมูฉ่ำมากมีน้ำเกรวี่ราดมาด้วย
ที่นิวซีแลนด์เนื้อแกะที่อร่อยคือแกะที่เรียกว่า “ฮอกเกต” เป็นแกะที่อยู่ระหว่างลูกแกะกับแกะที่โตแล้ว การย่างแกะจะมีการใส่พวกเครื่องปรุงลงไปเล็กน้อย แล้วทานกับมันหวานของชาวเมารี และที่ขาดเสียไม่ได้ก็คือ ซอสมิ้นท์เพื่อดับกลิ่นแกะ คนอเมริกันไม่ชอมกินเนื้อแกะ จะชอบกินเนื้อวัวมากกว่า เนื้อวัวนิวซีแลนด์ก็มีชื่อเช่นกัน แต่คนก็ซื้อเนื้อแกะซึ่งถูกกว่ามาทำอาหารได้ ที่เหลือก็แช่ตู้เย็นไว้ แล้วนำมาแร่เป็นชิ้นบางๆ ใส่แซนวิชกินตอนกลางวันได้
อาหารที่อร่อยขึ้นชื่อของนิวซีแลนด์คือ ปลาตัวเล็กๆ ชื่อ ไวท์เบท เหมือนปลาเข็ม เขาเอาชุบไข่ใส่แป้งเล็กน้อยทานเป็นออเดิร์ฟ ปีหนึ่งเราจะได้กินครั้งหนึ่งคือวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่สถานทูตไทยจัดงานเลี้ยง ที่นิวซีแลนด์แต่ก่อนคนมักจะกินอาหารที่บ้าน ร้านอาหารมีน้อยแห่ง ส่วนมากจะเป็นผับขายเบียร์เป็นเหยือกๆ พอวันศุกร์นักศึกษาก็จะเข้าไปสังสรรค์กันที่ผับ เวลานี้ร้านอาหารดีๆ เกิดขึ้นมากมาย มีร้านอาหารฝรั่งเศสอยู่แถว Oriental Bay รสชาติดีมาก
อาหารที่นักศึกษากินกันมากก็คือ Fish and Chip สมัยผมยังใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ เวลากินก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบออกมา หน้าหนาวทำให้มืออุ่นไปด้วย เดี๋ยวนี้หากินแบบเก่าไม่ได้แล้ว แต่ผมเพิ่งมารู้ว่า Fish and Chip นั้น ใช้ปลาไม่ค่อยจะดีนักทำ ปลาดีๆ ที่เมืองนอกไม่ว่าจะเป็นที่นิวซีแลนด์หรือที่อเมริกาแพงกว่าพวกเนื้อไก่ หมู ตอนที่ผมอยู่กับโปรเฟสเซอร์ วันศุกร์เราจะต้องกินปลา วิธีทำก็ไม่ยาก ปิ้งเฉยๆ ก็อร่อยแล้ว โปรเฟสเซอร์บอกว่า หากใส่อะไรลงไปจะทำให้เนื้อปลาไม่หวาน
ตอนผมอยู่นิวซีแลนด์ พวกน้องๆ ชอบดำน้ำไปจับหอยเพาว่ามากิน เป็นหอยเหมือนกับเป๋าฮื้อต้องเอามาต้มใส่หม้อต้มอยู่นานแต่รสชาติอร่อยมาก นับว่าเป็นการกินของดีที่ไม่ต้องเสียสตางค์ ที่เมืองเพิร์ธออสเตรเลียมีตลาดนัดที่ฟรีเมนทัลขายของสารพัด รวมทั้งมีหอยเป๋าฮื้ออร่อยมากตัวโต ใครซื้อมาก็ถูกกว่ามาสั่งกินที่เมืองไทย เพราะเดี๋ยวนี้เป๋าฮื้อจานละ 2,500 บาทแล้ว
วันนี้มีแต่เล่าเรื่องอาหารการกิน ผมมีร้านจะแนะนำเพราะร้านนี้ย้ายจากสีลมไปอยู่ลาดปลาเค้า ต่อมาย้ายไปอยู่ที่ปากซอยรามอินทรา 30 มีที่จอดรถแยะ เป็นร้านหูฉลามเก่าแก่ที่อร่อยมาก วิธีทำหูฉลามของเขานั้น พิเศษคือแยกหูฉลามออกใส่จานไว้ เมื่อนำหม้อดินมีน้ำซุปเดือดมาเสิร์ฟจึงเทหูฉลามแผ่นใหญ่ลงไป ราคาหม้อละ 2,500 บาท แต่ก็คุ้มอร่อยพอๆ กับร้านที่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ที่ร้าน “อาซ้อ” นี้มีเป๋าฮื้อด้วย เขาผัดแห้งๆ กับเห็ดหอมและแอสพารากัส น้ำแห้งไม่เละแต่เข้าเนื้อดี ผมขอแนะนำร้านนี้ว่าของเขาดีจริงๆ
ที่ผมเล่ามานี้ไม่ใช่ว่าจะกินบ่อยๆ ผมต้องระมัดระวังอาหารเพราะเป็นเบาหวาน ส้มตำเป็นอาหารที่เหมาะกับคนเป็นเบาหวานมากที่สุด และผมเพิ่งกินซุปหน่อไม้เป็นก็เป็นอาหารที่ดีสำหรับคนเป็นเบาหวานอีกอย่างหนึ่ง อย่างไรเสียก็อย่าลืมแวะไปร้านอาซ้อให้ได้นะครับ
ที่หอพักทำอาหารให้นักศึกษา เขาจะมีข้าวทุกมื้อนอกนั้นก็จะมีการทำอาหารแบบที่ชาวนิวซีแลนด์กินคือ มีแกะ บางวันก็มีแกงกะหรี่ซึ่งของเขาใส่ลูกเกดและไม่เผ็ดมาก ที่ห้องครัวเขาอนุญาตให้พวกเราทำอาหารกินกันเองได้ พูดถึงแกงกะหรี่นึกถึงสมัยผมอยู่โรงเรียนที่อินเดีย กินแกงกะหรี่เขาผัดถั่วมัน และแครอทแห้งๆ แล้วก็มีคัลคือซุปถั่วทุกวัน ที่ร้านขายขนมมีโรตีกินกับถั่วแห้งๆ หากใครอยากกินไก่ก็ต้องไปสั่งให้คนงานที่เลี้ยงไว้ฆ่าไก่ บางวันเราได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเมือง มีร้านอาหารจีนทำอาหารพื้นๆ ก๋วยเตี๋ยวน้ำเรียกว่า “หมี่ฮุ้ง” คนเสิร์ฟเป็นสาวทิเบต จำได้ว่าแกไม่ค่อยอาบน้ำ เวลาเดินเสิร์ฟเหม็นกลิ่นอับจากเสื้อ แต่นักเรียนไทยก็ยังชอบแอบจับนมแกบ่อยๆ
อาหารที่หอพักในนิวซีแลนด์อร่อยพอสมควร โดยเฉพาะหมูย่างที่เคยเล่าไปแล้ว หมูย่างนี้ไม่มีอะไรอร่อยเท่ากับหมูย่างที่เมืองเซวิโก้ ประเทศสเปน เป็นหมูที่อายุเพียง 29 วัน เขาย่างทั้งตัวจนหนังกรอบ เวลาเอามาเสิร์ฟเขาใช้สันจานเฉาะหมู ความกรอบของมันแค่ใช้จานสับก็ได้ เนื้อหมูฉ่ำมากมีน้ำเกรวี่ราดมาด้วย
ที่นิวซีแลนด์เนื้อแกะที่อร่อยคือแกะที่เรียกว่า “ฮอกเกต” เป็นแกะที่อยู่ระหว่างลูกแกะกับแกะที่โตแล้ว การย่างแกะจะมีการใส่พวกเครื่องปรุงลงไปเล็กน้อย แล้วทานกับมันหวานของชาวเมารี และที่ขาดเสียไม่ได้ก็คือ ซอสมิ้นท์เพื่อดับกลิ่นแกะ คนอเมริกันไม่ชอมกินเนื้อแกะ จะชอบกินเนื้อวัวมากกว่า เนื้อวัวนิวซีแลนด์ก็มีชื่อเช่นกัน แต่คนก็ซื้อเนื้อแกะซึ่งถูกกว่ามาทำอาหารได้ ที่เหลือก็แช่ตู้เย็นไว้ แล้วนำมาแร่เป็นชิ้นบางๆ ใส่แซนวิชกินตอนกลางวันได้
อาหารที่อร่อยขึ้นชื่อของนิวซีแลนด์คือ ปลาตัวเล็กๆ ชื่อ ไวท์เบท เหมือนปลาเข็ม เขาเอาชุบไข่ใส่แป้งเล็กน้อยทานเป็นออเดิร์ฟ ปีหนึ่งเราจะได้กินครั้งหนึ่งคือวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่สถานทูตไทยจัดงานเลี้ยง ที่นิวซีแลนด์แต่ก่อนคนมักจะกินอาหารที่บ้าน ร้านอาหารมีน้อยแห่ง ส่วนมากจะเป็นผับขายเบียร์เป็นเหยือกๆ พอวันศุกร์นักศึกษาก็จะเข้าไปสังสรรค์กันที่ผับ เวลานี้ร้านอาหารดีๆ เกิดขึ้นมากมาย มีร้านอาหารฝรั่งเศสอยู่แถว Oriental Bay รสชาติดีมาก
อาหารที่นักศึกษากินกันมากก็คือ Fish and Chip สมัยผมยังใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ เวลากินก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบออกมา หน้าหนาวทำให้มืออุ่นไปด้วย เดี๋ยวนี้หากินแบบเก่าไม่ได้แล้ว แต่ผมเพิ่งมารู้ว่า Fish and Chip นั้น ใช้ปลาไม่ค่อยจะดีนักทำ ปลาดีๆ ที่เมืองนอกไม่ว่าจะเป็นที่นิวซีแลนด์หรือที่อเมริกาแพงกว่าพวกเนื้อไก่ หมู ตอนที่ผมอยู่กับโปรเฟสเซอร์ วันศุกร์เราจะต้องกินปลา วิธีทำก็ไม่ยาก ปิ้งเฉยๆ ก็อร่อยแล้ว โปรเฟสเซอร์บอกว่า หากใส่อะไรลงไปจะทำให้เนื้อปลาไม่หวาน
ตอนผมอยู่นิวซีแลนด์ พวกน้องๆ ชอบดำน้ำไปจับหอยเพาว่ามากิน เป็นหอยเหมือนกับเป๋าฮื้อต้องเอามาต้มใส่หม้อต้มอยู่นานแต่รสชาติอร่อยมาก นับว่าเป็นการกินของดีที่ไม่ต้องเสียสตางค์ ที่เมืองเพิร์ธออสเตรเลียมีตลาดนัดที่ฟรีเมนทัลขายของสารพัด รวมทั้งมีหอยเป๋าฮื้ออร่อยมากตัวโต ใครซื้อมาก็ถูกกว่ามาสั่งกินที่เมืองไทย เพราะเดี๋ยวนี้เป๋าฮื้อจานละ 2,500 บาทแล้ว
วันนี้มีแต่เล่าเรื่องอาหารการกิน ผมมีร้านจะแนะนำเพราะร้านนี้ย้ายจากสีลมไปอยู่ลาดปลาเค้า ต่อมาย้ายไปอยู่ที่ปากซอยรามอินทรา 30 มีที่จอดรถแยะ เป็นร้านหูฉลามเก่าแก่ที่อร่อยมาก วิธีทำหูฉลามของเขานั้น พิเศษคือแยกหูฉลามออกใส่จานไว้ เมื่อนำหม้อดินมีน้ำซุปเดือดมาเสิร์ฟจึงเทหูฉลามแผ่นใหญ่ลงไป ราคาหม้อละ 2,500 บาท แต่ก็คุ้มอร่อยพอๆ กับร้านที่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ที่ร้าน “อาซ้อ” นี้มีเป๋าฮื้อด้วย เขาผัดแห้งๆ กับเห็ดหอมและแอสพารากัส น้ำแห้งไม่เละแต่เข้าเนื้อดี ผมขอแนะนำร้านนี้ว่าของเขาดีจริงๆ
ที่ผมเล่ามานี้ไม่ใช่ว่าจะกินบ่อยๆ ผมต้องระมัดระวังอาหารเพราะเป็นเบาหวาน ส้มตำเป็นอาหารที่เหมาะกับคนเป็นเบาหวานมากที่สุด และผมเพิ่งกินซุปหน่อไม้เป็นก็เป็นอาหารที่ดีสำหรับคนเป็นเบาหวานอีกอย่างหนึ่ง อย่างไรเสียก็อย่าลืมแวะไปร้านอาซ้อให้ได้นะครับ