xs
xsm
sm
md
lg

เด็ดหัวโจรใต้16ศพ เตือนระวังเจอสวนกลับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-กองทัพโจรใต้แต่งชุดเลียนแบบทหาร พร้อมอาก้า เอ็ม 16 สวมเสื้อเกราะ บุกถล่มฐานหมวดปืนเล็กที่ 2 ฉก.นราธิวาส อ.บาเจาะ ทหารรู้ตัวก่อน ปะทะเดือดเกือบชั่วโมง ผลแกนนำอาร์เคเคดับพร้อมสมุน 16 ศพ มทภ.4 สั่งปิดล้อม 6 ตำบล 2 จังหวัดไล่ล่า ผู้นำอิสลามขอรัฐเร่งชี้แจง หวั่นประชาชนสับสน สมช.เตือนเจอสวนกลับรุนแรงแน่ "ปู"เผยไม่มีผลต่อการตัดสินใจใช้เคอร์ฟิว "มาร์ค" แนะหน่วยงานมั่นคงเร่งประเมิน

เมื่อเวลา 01.30 น. วานนี้ (13 ก.พ.) พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายประมาณ 50 คน แต่งกายเลียนแบบทหาร พร้อมอาวุธสงครามครบมือ บุกโจมตีฐานร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจ (ฉก.) นราธิวาส 32 บ้านยือลอ หมู่ 3 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิตจำนวนมาก จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุชาติธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ (ศชต.) พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองพิสูจน์หลักฐานภ.จว.นราธิวาส

**ปะทะเดือด1ชม.คนร้ายตาย16ศพ

ระหว่างทางปรากฏว่าคนร้ายได้ตัดต้นไม้ขวางถนน และโปรยตะปูเรือใบไว้ โดยเฉพาะที่หัวสะพานบ้านบือแนปีแย หมู่ 1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ คนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่ถังแก๊สหนัก 50 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าสนับสนุน ซึ่งใช้เวลาเคลียร์เส้นทางนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงเข้าไปยังฐานปฏิบัติการได้

ที่หน้าฐานปฏิบัติการ ซึ่งเป็นสวนยางพารา พบศพคนร้าย 16 ศพ แต่ละศพสวมหมวกไหมพรม มีอาวุธปืนอาก้าและเอ็ม 16 สวมเสื้อเกราะ และรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บค 7968 ยะลา ของคนร้าย กระสุนปืนพรุนไปทั้งคัน กระบะหลังพบเป้สนาม 8 ใบ ภายในบรรจุปืนพก ระเบิด โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้า และเครื่องยังชีพในป่า โดยเจ้าหน้าที่ตรวจยึดปืนอาก้า 3 กระบอก และเอ็ม 16 อีก 12 กระบอก ปืนพกสั้นขนาด .38 และ 9 ม.ม. รวม 3 กระบอก ระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้าง 3 ลูก ระเบิดแสวงเครื่อง (ปลากระป๋อง) 3 ลูก เลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง รถกระบะ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน โดยรถกระบะคนร้ายปล้นมาจากอ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2555

**"มะรอโซ"แกนนำอาร์เคเคดับด้วย

เบื้องต้นพบว่า มีผู้เสียชีวิตที่เป็นระดับแกนนำกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค เคลื่อนไหวก่อเหตุในอ.บาเจาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และอ.กะพ้อ จ.ปัตตานี คือ นายมะรอโซ จันทรวดี ผู้ต้องหาตามหมาย ป.วิอาญา คดีความมั่นคง 18 หมาย และเป็นผู้ต้องสงสัยตามหมายพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 หมาย อาทิ เป็นผู้ร่วมก่อเหตุและสั่งการสังหารนายชลธี เจริญชล ครูโรงเรียนบ้านตันหยง ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา คดีลอบวางระเบิดรถยนต์ทหาร ฉก.นราธิวาส 32 เสียชีวิต 3 นาย บนถนนในหมู่บ้านดูกู หมู่ 3 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2548 คดีลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านบือเจาะ หมู่ 1 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 คดียิงชาวไทยพุทธ 4 ศพในหมู่บ้านฮูแตยือลอ หมู่ 6 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ เป็นต้น มีค่าหัว 2 ล้านบาท

ส่วนคนร้ายอีก 15 คน คือ 1.นายมะไพดี ปูเต๊ะ 2.นายซอบือรี โดตาเยะ 3.นายกาสมัน มะเด็ง 4.นายปรือกิ นิมิง 5.นายสะอุดี อาลี 6.นายฮาเซ็ม บือราเฮง 7.นายมะสักกรี สะสะ 8.นายรอมือลี ซาเระ 9.นายมะนัง บือราเฮง 10.นายอาหะมะ โซะกุนิง 11.นายมะตอเฮ แฉะ 12.นายอับดุมเลาะ โต๊ะม๊ะ 13.นายมะยุดดิน รีรา 14.นายมัสลัน มะลี 15.นายอัสรี รอเป็ง

**ผบ.ฉก.เผยทหารเจอแผนถล่มก่อน

น.ท.ธรรมนูญ วรรณา ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมนายสุไฮดี ตะเห อายุ 31 ปี เพื่อนสนิทนายมะรอโซ โดยทั้ง 2 คนนี้ถือเป็นแกนนำหลักชุดคอมมานโด มีสมาชิกกลุ่มกว่า 30 คน แต่การโจมตีฐานครั้งนี้น่าจะมีแนวร่วมจากพื้นที่อื่นเข้ามาร่วมก่อเหตุ โดยนายสุไฮดีเป็นหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุบุกยิงนายชลธีเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตรวจยึดแผนผังและเอกสารการบุกโจมตีฐานร้อยปืนเล็กที่ 2 ฉก.นราธิวาส 32 ได้ จึงวางมาตรการรับมือที่กลุ่มคนร้ายที่จะบุกถล่ม เพื่อแก้แค้นในนายสุไฮดี

จนกระทั่งช่วงเที่ยงคืนกว่า กลุ่มคนร้ายจึงบุกโจมตีทางด้านหน้าและด้านหลังพร้อมกัน เจ้าหน้าที่ซึ่งวางกำลังพร้อมรับมืออยู่แล้ว ได้ยิงปะทะกันอย่างดุเดือด เสียงปืนดังสนั่นไปทั้งหมู่บ้านนานกว่า 1 ชั่วโมง ขณะเดียวกันคนร้ายอีกชุดได้ตัดต้นไม้ขวางถนน โปรยตะปูเรือใบ และวางระเบิดแสวงเครื่องสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ หลังเสียงปืนสงบ พบว่าคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 16 ศพ ที่เหลืออีกประมาณ 30 คนขึ้นรถกระบะหนีไป ซึ่งในจำนวนนั้นถูกยิงได้รับบาดเจ็บด้วย

พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอบาเจาะ จ.นราธิวาส กล่าวว่า เวลาไล่เลี่ยกันคนร้ายคาดว่ามี 3-4 คน พร้อมอาวุธปืน ได้บุกเข้าไปในโรงเรียนบ้านบือเระ ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ ห่างจุดเกิดเหตุปะทะประมาณ 1 กิโลเมตร โดยใช้ปืนข่มขู่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 2 นายจนวิ่งหนีไป จากนั้นได้ใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไฟเผาที่อาคารเรียน แต่ผู้ใหญ่บ้านนำกำลังมาช่วยกันดับไฟได้ทัน

**สั่ง4จังหวัดใต้ตั้งด่านสกัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุปะทะ หน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้สั่งการให้ทหารในพื้นที่ทุกฐานปฏิบัติการ ออกตรวจสอบเส้นทางไปโรงเรียน และสถานที่ราชการ เพื่อป้องกันปฏิบัติการตอบโต้ โดยให้ทหารตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนเส้นทางหลัก เขตรอยต่ออ.บาเจาะ เพื่อสกัดกลุ่มคนร้ายที่คาดว่าได้รับบาดเจ็บหลบหนีเข้ามา รวมทั้งตรวจสอบตามโรงพยาบาล สถานีอนามัย ว่าคนร้ายเข้ามารักษาตัวหรือไม่ โดยเฉพาะเขตรอยต่ออ.บาเจาะ นราธิวาส อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี กับต.ท่าธง ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เพราะมีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มแนวร่วมอ.รามัน อาจร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย

ขณะที่ พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา ออกตรวจเยี่ยมสถานียุทธศาสตร์ 8 แห่ง และจุดตรวจอ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และอ.สะบ้าย้อย ซึ่งเป็นอำเภอชายแดน เพื่อป้องกันคนร้ายแก้แค้น โดยให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อม และประสานฉก.สงขลา ฝ่ายปกครอง เฝ้าระวังสถานที่ราชการ และจัดกำลังเต็มทั้งในฐานและนอกฐาน วางกำลังซุ่มโจมตี และเคลื่อนที่เร็วตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนอ.หาดใหญ่ ได้เสริมกำลังเข้าไปในพื้นที่แล้ว

พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี สั่งการด่วนไปยังทุกสภ. ให้เพิ่มความเข้มข้นเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะรอยต่ออ.ไม้แก่น อ.สายบุรี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี กับอ.บาเจาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพราะเชื่อว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีเข้ามา โดยให้เพิ่มจุดตรวจ ชุดลาดตระเวนเส้นทาง และปิดล้อมตรวจค้นตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจสอบสถานพยาบาลทุกแห่ง ตรวจค้นรถทุกชนิด หากพบบุคคลต้องสงสัยหรือมีท่าทีพิรุธให้สอบสวนทันที และทำประวัติให้ชัดเจน

ขณะที่นายสุพล โพธิ์แก้ว นายอำเภอไม้แก่น จ.ปัตตานี กล่าวว่า พร้อมที่จะปฏิบัติทันทีหากประกาศเคอร์ฟิว ซึ่งขณะนี้ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้อาสาสมัครรักษาดินแดนทุกคนลากิจ เพื่อจัดกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งตั้งด่านตรวจ ตรวจสอบสถานพยาบาล และยังได้ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดคุ้มครองหมู่บ้านเข้าดูแลโรงเรียน เพื่อป้องกันการตอบโต้ เพราะอ.ไม้แก่น อยู่ติดกับอ.บาเจาะ จึงเสี่ยงต่อการถูกตอบโต้ ส่วนขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ยังดีอยู่ ครูยังคงทำการสอนตามปกติ

**มทภ.4ปิดล้อม6ตำบล2จังหวัดไล่ล่า

เวลา 11.00 น. พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางลงพื้นที่พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวกลุ่มคนร้ายทั้ง 16 ราย เนื่องจากเจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องตอบโต้ ส่วนกรณีประกาศให้ประชาชนอยู่ในบ้านพักตลอด 24 ชั่วโมงในพื้นที่ ต.บาเระเหนือ ต.บาเระใต้ ต.กาเยาะมาตี ต.บาลูกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และทต.ดอนทราย ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เป็นการขอความร่วมมือ ยังไม่ใช่ประกาศเคอร์ฟิวอย่างที่เป็นข่าวในสื่อ เพียงขอให้อยู่ในบ้านพักตั้งแต่เวลา 06.00 วันที่ 13 ก.พ. ถึงเวลา 06.00 น. วันที่ 14 ก.พ. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กองกำลังผสมนราธิวาส ซึ่งมีน.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ นำชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมทหารพรานที่ 43 และกรมทหารพรานที่ 46 รวมกว่า 300 นาย ติดตามไล่ล่ากลุ่มอาร์เคเคกว่า 30 คน เพราะคาดว่าน่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่

เมื่อถามว่า การประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) วันนี้ 15 ก.พ.นี้ จะเสนอให้ประกาศเคอร์ฟิวบางพื้นที่หรือไม่ พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า หากเห็นว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุยังลอบฆ่าผู้บริสุทธิ์ ก็ต้องพูดคุยถึงความเหมาะสม เช่น ตั้งจุดตรวจเพิ่มขึ้น หากประชาชนยังพลุกพล่าน อาจพิจารณาเป็นรายพื้นที่ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการใช้กฎหมายพิเศษที่จะมีปัญหากับประชาชน

ต่อมา นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน พร้อมกำชับกำนันและผู้ใหญ่บ้านไปชี้แจงกับลูกบ้านของตนเอง เพื่อป้องกันการปลุกระดม พร้อมให้ตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิต หากเป็นลูกบ้านให้แจ้งกับญาติมารับศพไปทำพิธีทางศาสนา ระหว่างนั้นมีญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมารับศพ ซึ่งจากการสอบถามญาติบอกว่าผู้ตายหายออกจากบ้านไปนานแล้ว มาทราบข่าวอีกทีก็เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้

ขณะที่พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. กล่าวภายหลังติดความความคืบหน้าในพื้นที่ว่า ได้ย้ำให้ไล่ล่าคนร้าย พร้อมส่งเจ้าหน้าที่สอดส่องดูแลตามกูโบร์ในเขตรับผิดชอบช่วง 1-2 วันนี้ หากมีการฝังศพผู้เสียชีวิตให้ตรวจสอบว่าเป็นใคร เสียชีวิตด้วยเหตุใด เพราะเป็นคนร้ายที่บาดเจ็บและเสียชีวิตแฝงตัวมาฝังอำพราง โดยเน้นที่อ.รือเสาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส อ.กะพ้อ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เพราะทั้ง 4 อำเภอ มีแนวร่วมของนายมะรอโซ จันทรวดี หลายคนพื้นที่

**กอ.รมน.ขอบคุณชาวบ้าน-แนวร่วม

พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากชาวบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้กลับใจหรือเคยหลงผิด ให้ข้อมูลกับฝ่ายบ้านเมือง จึงทำให้ทุกฝ่ายเตรียมตั้งรับอยู่ในฐานที่มั่น ซึ่งขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทุกคนล้วนเป็นคนไทย ไม่มีใครต้องการให้เกิดความสูญเสีย ส่วนคนร้ายที่หลบหนี เชื่อว่าแฝงตัวปะปนกับพี่น้องประชาชนบางตำบลใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ทั้งต.บาเระเหนือ และต.บาเระใต้ หากประชาชนพบเห็นผู้ต้องสงสัยแต่งกายเลียนแบบทหาร แต่งชุดลายพราง ใส่เสื้อเกราะกันกระสุน มีผูกผ้าผูกคอ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบโดยด่วน

**ผู้นำอิสลามจี้แจงข้อเท็จจริง-กันสับสน

นายนิมุ มะกาเจ ผู้นำศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า อยากให้ทหารรีบประชาสัมพันธ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประชาชนจะได้หายข้องใจ เพราะสิ่งที่เป็นภัยต่อการทำงานในพื้นที่ คือ การเล่าลือที่ผิดๆ การประชาสัมพันธ์อย่างเร่งด่วนเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ลดความหวาดระแวง และเข้าหารัฐมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่เป็นห่วง คือ ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามแต่งกายเลียนแบบทหาร ทำให้ประชาชนไม่ทราบว่าคนไหนคือทหารจริงหรือทหารปลอม เรื่องนี้น่าเป็นห่วงมาก

**สมช.ชี้ยกระดับรุนแรง-แก้แค้นแน่

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า เชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะกลับมาล้างแค้นแน่ ซึ่งในแง่การข่าวทางการได้รับรายงานว่าจะมีการก่อเหตุบุกโจมตีฐาน เพื่อเป็นการยกระดับสถานการณ์ในพื้นที่ มีเป้าหมายแบ่งแยกดินแดน โดยสัปดาห์นี้สมช.เตรียมพิจารณางบประมาณจัดกำลังตำรวจลงพื้นที่ 3,000 นาย คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในสัปดาห์หน้า

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ปืนอาก้าและเอ็ม 16 ที่คนร้ายใช้ มีทั้งของตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร ส่วนเสื้อเกราะเป็นของอาสาสมัคร และเป็นที่น่าสังเกตว่าในตัวคนร้ายมีเชือกและลวด ซึ่งคาดว่าจะไว้ใช้จับตัวประกัน ซึ่งต้องขอชื่นชมนาวิกโยธินที่ไม่ประมาท เตรียมพร้อมและตอบโต้โดยไม่เกิดความสูญเสีย ขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียใจที่สุดที่มีคนไทยหลงผิดเข้าไปเป็นแนวร่วมจนต้องมาเสียชีวิต จึงอยากให้ผู้หลงผิดกลับมาร่วมพัฒนาชาติไทย ให้ข้อมูลกับภาครัฐ เพราะถึงอย่างไรเป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบที่ตั้งไว้ไม่มีวันทำได้สำเร็จ

**"ยิ่งลักษณ์"ยันไม่มีผลถกใช้"เคอร์ฟิว"

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือว่าด้านข่าวกรองทำงานเร็วขึ้น และต้องไม่อยู่ในความประมาท ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อยืนยันว่าเราเน้นการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีผลต่อการตัดสินใจใช้เคอร์ฟิว เพราะต้องดูรายละเอียดของพื้นที่ก่อน

**"มาร์ค"ชี้เหมือนส่งสัญญาณบางอย่าง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ และอยากให้รัฐบาลเร่งประเมินสถานการณ์ เพราะถือว่าอุกอาจมาก รวมทั้งต้องเร่งขยายผลว่าคนเหล่านี้เป็นใคร อยู่ที่ไหน เพื่อใช้เป็นข้อมูลขยายผลไปสู่การจับกุมขบวนการ สำหรับเรื่องสำคัญ ไม่อยากให้รัฐบาลประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป เพราะผู้ก่อเหตุก็แสดงศักยภาพให้เห็นว่าเป็นขบวนการใหญ่ ก่อเหตุกับยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐ โดยอาจประเมินตัวเองว่ามีความพร้อมมากขึ้น หรืออาจจะส่งสัญญาณบางอย่าง ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงต้องเร่งประเมินให้ได้

"ครั้งนี้ต้องถือว่าเจ้าหน้าที่มีความเข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพ และแสดงให้เห็นว่าเราไม่สามารถประมาทได้เลย ส่วนที่ประกาศใช้เคอร์ฟิวบางพื้นที่นั้น ฝ่ายความมั่นคงอย่าใช้อำนาจตามประกาศอย่างเดียว เพราะประชาชนจะได้รับความเดือดร้อน ซึ่งผมก็เป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะหัวใจสำคัญ คือ ต้องให้เกิดความเข้าใจ และการยอมรับในพื้นที่ด้วย โดยการเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วงของอาร์เคเค อาจเป็นปฏิกริยาจากการที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ไปเจรจากับทางการมาเลเซีย ซึ่งได้เคยเตือนไว้แล้ว จึงอยากให้รัฐบาลประเมินตรงนี้ด้วย "

**ปชป.ใต้อัดแก้ปัญหาแบบไร้เอกภาพ

นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ส.ส.นราธิวาส และนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงสถานการณ์รุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า ขอคัดค้านการประกาศเคอร์ฟิวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่และเจ้าหน้าที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากจะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ ขอให้นายกรัฐมนตรีทบทวน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีก็มีความเห็นขัดแย้งกัน สะท้อนความไม่เป็นเอกภาพในการแก้ปัญหา นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้แสดงภาวะผู้นำ ไม่ตัดสินใจให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าแนวทางแก้ปัญหาของรัฐบาลจะประสบความสำเร็จ

**รวบอีกมือบึมทหารตาย2นายวันเด็ก

วันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง ผบ.ฉก.ปัตตานี แถลงว่า ฉก.ปัตตานี 21 รวมกับสภ.ยะรัง พร้อมกำลังตำรวจและทหารกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมหมู่บ้านดารุลสลาม ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง หลังทราบข่าวมีคนร้ายกบดานในพื้นที่ สามารถควบคุมตัวคนร้ายได้ 2 คน คือ นายอับดุลเล๊าะ ราแดง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ 1 บ้านดารุลสลาม มีหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานีที่ จ 54/58 และนายฮาซัน สาแล๊ะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 1 บ้านดารุลสลาม มีหมายจับศาลจังหวัดปัตตานีที่ จ.50/56 ข้อหาร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ในเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.8033 ที่กำลังเดินทางไปงานวันเด็ก ทำให้ทหารเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 2 นาย เหตุเกิดบนถนนในพื้นที่หมู่ 4 ต.ประจัน อ.ยะรัง วันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา โดยจากการสอบสวนขยายผลทราบว่า คนร้ายกลุ่มนี้มีประมาณ 12 คน จับกุมได้เกือบหมดแล้ว เหลือเพียงนายอันนูวา ยือเลาะ เชื่อว่าหลบหนีเข้าไปประเทศใกล้เคียงแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น