ASTVผู้จัดการรายวัน - คนร้ายบุกจับพ่อค้ารับซื้อผลไม้ชาวจ.ระยอง มัดมือไขว้หลัง จ่อยิงหัวเสียชีวิต 4 ศพที่อ.กรงปินัง จ.ยะลา ผู้การฯประณามยิงคนไม่มีทางสู้ ทำร้ายชาวสวนในพื้นที่โดยตรง ชุดสืบสวนระบุได้กลิ่นก่อนก่อเหตุ เชื่อฝีมือ"ฮูไบดีละห์" ด้านศชต.-ตชด.รวบ"เจะหมะ วานิ" มือบึมโรงแรมลีการ์เดนส์ หาดใหญ่ ด้านผู้นำท้องถิ่นแห่ให้กำลังใจนายอำเภอมายอ จ.ปัตตานี หลังถูกลอบยิง ด้านททท.วอนกำลัง 3 ฝ่ายคุมเข้มก่อนเทศกาลตรุษจีน ผู้ว่าฯนราธิวาส สั่งตั้งจุดตรวจรถยนต์ต้องสงสัย หวั่นคาร์บอมบ์
เมื่อเวลา 00.55 น. วานนี้(5 ก.พ.)ตำรวจสภ.กรงปินัง จ.ยะลา รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายบุกยิงพ่อค้าและลูกน้องที่มารับซื้อผลไม้ในร้านริมถนนทางเข้าอำเภอกรงปินัง หมู่ 7 ต.กรงปินัง ห่างจากที่ว่าการอำเภอกรงปินัง และสภ.กรงปินัง เพียง 500 เมตร เสียชีวิต 4 ราย หลังรับแจ้งร.ต.ต.อนุรักษ์ นิ่งสระ ร้อยเวรสภ.กรงปินัง จึงนำกำลังทหารและตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
**จับพ่อค้ามัดมือไขว้หลังยิงหัว4ศพ
เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิต 4 ราย ทราบชื่อนายถาวร สุวรรณโชติ อายุ 35 ปี นางทัศภา ทุมพร อายุ 25 ปี ภรรยานายถาวร นายสุทัศน์ สมรูป อายุ 37 ปี และนายสมชาย รื่นรมย์ อายุ 30 ปี ทั้งหมดอยู่หมู่ 5 ต.สองสลึง อ.แกลง จ.ระยอง สภาพศพทั้ง 4 ราย ถูกมัดมือไขว้หลัง จ่อยิงศีรษะและลำตัวด้วยปืนขนาด 9 มม. 11 มม. อาก้า และเอ็ม 16 บนพื้นพบปลอกกระสุน 8 ปลอก หัวกระสุนขนาด 9 มม. 1 หัว นอกจากนี้มีผู้ที่รอดชีวิต 3 รายเป็นลูกจ้าง
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุทั้ง 7 คนกำลังนั่งรับประทานอาหาร และบางคนนอนพักผ่อนอยู่ภายในร้าน มีคนร้าย 6-7 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ขับรถยนต์มาจอดที่ถนนแยกทางเข้าอ.กรงปินัง จากนั้นเดินมาด้านหลังร้าน ก่อนที่จะจับผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายมัดมือไขว้หลังแล้วจ่อยิง จากนั้นรื้อค้นทรัพย์สินภายในร้านแล้วขึ้นรถหลบหนีไป ส่วนผู้ที่รอดชีวิต 3 ราย ซ่อนตัวอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดเป็นการกระทำของอุสตาสโซะ หรือนายอิสมาแอ ระยะหลง แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบเคลื่อนไหวในพื้นที่อ.กรงปินัง นำทีมก่อเหตุครั้งนี้
**ผบก.จวกนักรบทำร้ายคนอ่อนแอ
พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวว่า ถือเป็นเหตุการณ์อุกอาจ เพราะคนร้ายใช้ทั้งเอ็ม 16 และอาก้า และยังส่งผลกระทบกับพี่น้องในพื้นที่ เนื่องจากทั้ง 4 คนเป็นคนนอกพื้นที่ มารับซื้อผลไม้ไปขายที่ตลาดไท กรุงเทพฯ สำหรับคนงานที่เป็นคนไทยพุทธอีก 3 คนที่รอดชีวิต เนื่องจากนอนอยู่ใต้ท้องรถ 10 ล้อ และจริงๆแล้วในที่เกิดเหตุมีคนงานอีก 2 คนที่เป็นชาวไทยมุสลิมอยู่ร่วมกับผู้เสียชีวิต และเป็นคนในอ.กรงปินัง แต่คนร้ายก็ไม่ได้ทำร้าย
"อยากจะถามคนร้ายว่า การจับคนไม่มีทางสู้มัดมือมัดเท้าแล้วจ่อยิงศีรษะ แต่อีก 2 คนที่เป็นมุสลิมไม่ได้ยิง มันคืออะไร และคนที่มีอุดมการณ์ ไม่ว่าจะเป็นที่ฟิลิปปินส์ อาเจะห์ หรือที่อื่นนั้น นักรบต้องรบกับนักรบ ไม่มีประเทศไหนที่นักรบทำกับคนอ่อนแอกว่า ต้องขอฝากไปถึงพวกฮาร์ดคอร์ที่มีอุดมการณ์ ช่วยไปคิดเรื่องนี้ด้วย
**ได้ข่าวล่วงหน้า-เชื่อฝีมือ"ฮูไบดีละห์"
รายงานจากชุดสืบสวนระบุว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวในพื้นที่ว่าพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายฮูไบดีละห์ รอมลี แกนนำก่อเหตุรุนแรง รับผิดชอบพื้นที่ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา นายอับดุลรอฮิ สะนินิง และนายฮามะ เจ๊ะอาลี เข้ามาประชุมร่วมกับนายอิสมาแอ ระยะหลง ในต.ห้วยกระทิง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ซึ่งเมื่อทราบข่าวก็วางแผนเข้าปิดล้อมเป้าหมาย แต่คนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุก่อน ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มของนายฮูไบดีละห์ อย่างไรก็ตามขณะเกิดเหตุมีพยานเห็นเหตุการณ์ สามารถให้ข้อมูลกับฝ่ายสืบสวนได้
สำหรับนายฮูไบดีละห์ รอมลี มีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายสิบคดี โดยเป็นคนลอบยิงรถตู้สายหาดใหญ่-เบตง ผู้โดยสารเสียชีวิต 8 ศพ เมื่อปี 2547 และยังอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ไม่สงบหลายเหตุในพื้นที่
ด้านนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา มอบเงินเยียวยาให้ญาติผู้เสียชิตทั้ง 4 ราย รายละ 5 แสนบาท สำหรับกรณีนายถาวร สุวรรณโชติ ซึ่งมีลูกสาว ทางจังหวัดจะขอทุนการศึกษาให้เรียนต่อจนจบปริญญาตรี
**รวบแล้ว"ไคโร"มือวางบึมลีการ์เด้นส์
เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) พ.อ.คมกฤษ รัตนฉายา ผบ.ทพ .41 พ.อ.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ รองเสธนาธิการฉก.สงขลา พร้อมกำลังตำรวจสภ.เทพา จ.สงขลา และทหาร กว่า 100 นาย ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 128 หมู่ 5 ต.เทพา อ.เทพา และจับกุมนายเจะหมะ วานิ หรือมาค่อม หรือไคโร อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ 4 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 นำตัวไปสอบสวนและเก็บดีเอ็นเอ เพื่อตรวจหาหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับคดีใดบ้าง โดยคดีลอบวางระเบิดมีผู้ถูกออกหมายจับ 3 คน คือ นายเจะหมะ วานิ นายรุสลัน ใบมะ และนายเสรี แวมามุ
จากการตรวจสอบประวัตินายเจะหมะ ปรากฏว่ามีหมายจับของจ.สงขลา 7 หมาย อาทิ คดีลอบยิงนายอรุณ จันทร์จิตจริงใจ ครูโรงเรียนบ้านสะพานไม้แก่น อ.จะนะ ได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2549 ลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านแพร้ว โรงเรียนบ้านเลียบ และโรงเรียนบ้านนนท์ อ.จะนะ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2550
พ.อ.คมกฤษ กล่าวว่า นายเจะหมะยังคงเคลื่อนไหวในเขตรอยต่ออ.หนองจิก จ.ปัตตานี และอ.เทพา จ.สงขลา จนสายข่าวรายงานว่าเข้ามากบดานที่บ้านหลังดังกล่าว จนสามารถจับกุมได้ นอกจากนี้ยังมีแนวร่วมในเครืออีก 8 คนที่จะเคลื่อนไหว ซึ่งขณะนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังป้องกันการตอบโต้ด้วย
**แห่เยี่ยมนายอำเภอมายอหลังถูกยิง
ที่จ.ปัตตานี ที่ห้องทำงานของนายพิศาล อาแว นายอำเภอมายอ ตั้งแต่ช่วงเช้ามีผู้นำท้องท้องที่เข้าเยี่ยมให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก หลังถูกคนร้ายลอบยิงระหว่างเดินทางกลับบ้านพักเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ แต่เนื่องจากเป็นรถกันกระสุนทุกคนจึงปลอดภัย ขณะเดียวกันพ.ต.อ.วสันต์ พวงน้อย ผกก.สภ.ยะรัง เข้าสอบปากคำนายพิศาล และอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอมายอทั้ง 3 นายที่นั่งมาด้วยกันในรถ
ส่วนแนวทางการสืบสวน เจ้าหน้าที่มองว่าน่าจะเป็นการตอบโต้ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เนื่องจากนายพิศาลดึงมวลชนเข้าร่วมกับทางราชการได้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบไม่พอใจ แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว
**กอ.รมน.ชี้คนร้ายขยายความรุนแรง
พ.อ.ปราโมทย์ พรมหมอินทร์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมี่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า กรณีคนร้ายบุกยิงพ่อค้าผลไม้ชาวระยอง และซุ่มยิงครูชาวนานั้น ทั้ง 2 เหตุการณ์ล้วนเป็นคนต่างถิ่น ทำให้หลายหน่วยงานไม่สบายใจ ทั้งนี้ยุทธศาสตร์การดูแลความปลอดภัยนั้น กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ากำหนดไว้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเป้าหมายอ่อนแอ ที่สร้างความรู้สึกเป็นวงกว้าง เช่น ครู พระสงฆ์ ประชาชน ซึ่งรวมถึงพ่อค้าแม่ค้าต่างถิ่นที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่เนื่องจากเป้าหมายมีจำนวนมาก การดูแลอาจไม่ทั่วถึงหรือไม่เข้มแข็งนัก โดยเฉพาะเมื่อบวกกับความเคยชิน ทำให้ทุกฝ่ายขาดความตระหนักบ้าง จึงกลายเป็นช่องโหว่ให้กลุ่มขบวนการก่อเหตุได้
ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ เป้าหมายสำคัญ เช่น กรณียิงนายอำเภอมายอ จ.ปัตตานี คนร้ายมีเป้าหมายชัดเจน กรณีนี้ได้แจ้งไปยังข้าราชการทุกหน่วยงาน ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางแล้ว
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้แสดงให้เห็นว่า คนร้ายต้องการสร้างความรุนแรงเป็นวงกว้าง และตอกย้ำแบบซ้ำๆ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายอ่อนแอนั้น หากรู้สึกไม่ปลอดภัย และต้องการความคุ้มครอง สามารถร้องขอผ่านเจ้าหน้าที่รัฐได้ทุกพื้นที่ รวมถึงทหารในแต่ละหน่วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง"
**ททท.วอน3ฝ่ายคุมเข้มก่อน"ตรุษจีน"
นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานนราธิวาส รับผิดชอบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า วันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ หลายองค์กรจัดงานเฉลิมฉลองเทศกดาลตรุษจีน ซึ่งมี 3 จุดซึ่งเป็นไฮไลท์ คือ ศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ลานวัฒนธรรม เทศบาลเมืองปัตตานี และหลังอุโมงค์ เทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนข้ามแดนเข้ามาร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะที่อ.เบตง เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลอดภัย จึงสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว เมื่อเทียบกับอ.สุไหงโก-ลก ที่ยอดนักท่องเที่ยวไม่ต่างกันมาก แต่จะมีเฉพาะชาวจีนจากมาเลเซียเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่ไม่มั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย
"อยากให้กองกำลังผสม 3 ฝ่ายเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ไม่ปล่อยให้เกิดช่องโหว่ให้คนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ เพราะเกรงว่าหากเกิดเหตุร้ายขึ้นก่อนตรุษจีน จะส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลงแน่นอน"
ด้านนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กำชับกองกำลังผสม 3 ฝ่าย ทั้ง 13 อำเภอควบคุมพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อป้องปรามกลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเคยเกิดเหตุคาร์บอมบ์มาแล้ว โดยให้ทุกหน่วยตั้งจุดสกัดตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัย ที่แหล่งข่าวแจ้งว่ากลุ่มคนร้ายเตรียมใช้เป็นคาร์บอมบ์ 3-4 คัน ตรวจสอบบุคคลตามหมายจับที่อาจข้ามแดนกลับมาก่อเหตุ ส่วนการจุดพลุและประทัด ให้ประชาชนแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าด้วย เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด และผู้ไม่หวังดีอาศัยช่วงดังกล่าวก่อเหตุ
พ.ต.อ.ประสาร อิ่มสมบัติ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า พ.ท.วุทธยา จันทมาศ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 ได้จัดกำลังพล 200 นายเข้ามาเสริม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น
เมื่อเวลา 00.55 น. วานนี้(5 ก.พ.)ตำรวจสภ.กรงปินัง จ.ยะลา รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายบุกยิงพ่อค้าและลูกน้องที่มารับซื้อผลไม้ในร้านริมถนนทางเข้าอำเภอกรงปินัง หมู่ 7 ต.กรงปินัง ห่างจากที่ว่าการอำเภอกรงปินัง และสภ.กรงปินัง เพียง 500 เมตร เสียชีวิต 4 ราย หลังรับแจ้งร.ต.ต.อนุรักษ์ นิ่งสระ ร้อยเวรสภ.กรงปินัง จึงนำกำลังทหารและตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
**จับพ่อค้ามัดมือไขว้หลังยิงหัว4ศพ
เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิต 4 ราย ทราบชื่อนายถาวร สุวรรณโชติ อายุ 35 ปี นางทัศภา ทุมพร อายุ 25 ปี ภรรยานายถาวร นายสุทัศน์ สมรูป อายุ 37 ปี และนายสมชาย รื่นรมย์ อายุ 30 ปี ทั้งหมดอยู่หมู่ 5 ต.สองสลึง อ.แกลง จ.ระยอง สภาพศพทั้ง 4 ราย ถูกมัดมือไขว้หลัง จ่อยิงศีรษะและลำตัวด้วยปืนขนาด 9 มม. 11 มม. อาก้า และเอ็ม 16 บนพื้นพบปลอกกระสุน 8 ปลอก หัวกระสุนขนาด 9 มม. 1 หัว นอกจากนี้มีผู้ที่รอดชีวิต 3 รายเป็นลูกจ้าง
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุทั้ง 7 คนกำลังนั่งรับประทานอาหาร และบางคนนอนพักผ่อนอยู่ภายในร้าน มีคนร้าย 6-7 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ขับรถยนต์มาจอดที่ถนนแยกทางเข้าอ.กรงปินัง จากนั้นเดินมาด้านหลังร้าน ก่อนที่จะจับผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายมัดมือไขว้หลังแล้วจ่อยิง จากนั้นรื้อค้นทรัพย์สินภายในร้านแล้วขึ้นรถหลบหนีไป ส่วนผู้ที่รอดชีวิต 3 ราย ซ่อนตัวอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดเป็นการกระทำของอุสตาสโซะ หรือนายอิสมาแอ ระยะหลง แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบเคลื่อนไหวในพื้นที่อ.กรงปินัง นำทีมก่อเหตุครั้งนี้
**ผบก.จวกนักรบทำร้ายคนอ่อนแอ
พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวว่า ถือเป็นเหตุการณ์อุกอาจ เพราะคนร้ายใช้ทั้งเอ็ม 16 และอาก้า และยังส่งผลกระทบกับพี่น้องในพื้นที่ เนื่องจากทั้ง 4 คนเป็นคนนอกพื้นที่ มารับซื้อผลไม้ไปขายที่ตลาดไท กรุงเทพฯ สำหรับคนงานที่เป็นคนไทยพุทธอีก 3 คนที่รอดชีวิต เนื่องจากนอนอยู่ใต้ท้องรถ 10 ล้อ และจริงๆแล้วในที่เกิดเหตุมีคนงานอีก 2 คนที่เป็นชาวไทยมุสลิมอยู่ร่วมกับผู้เสียชีวิต และเป็นคนในอ.กรงปินัง แต่คนร้ายก็ไม่ได้ทำร้าย
"อยากจะถามคนร้ายว่า การจับคนไม่มีทางสู้มัดมือมัดเท้าแล้วจ่อยิงศีรษะ แต่อีก 2 คนที่เป็นมุสลิมไม่ได้ยิง มันคืออะไร และคนที่มีอุดมการณ์ ไม่ว่าจะเป็นที่ฟิลิปปินส์ อาเจะห์ หรือที่อื่นนั้น นักรบต้องรบกับนักรบ ไม่มีประเทศไหนที่นักรบทำกับคนอ่อนแอกว่า ต้องขอฝากไปถึงพวกฮาร์ดคอร์ที่มีอุดมการณ์ ช่วยไปคิดเรื่องนี้ด้วย
**ได้ข่าวล่วงหน้า-เชื่อฝีมือ"ฮูไบดีละห์"
รายงานจากชุดสืบสวนระบุว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวในพื้นที่ว่าพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายฮูไบดีละห์ รอมลี แกนนำก่อเหตุรุนแรง รับผิดชอบพื้นที่ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา นายอับดุลรอฮิ สะนินิง และนายฮามะ เจ๊ะอาลี เข้ามาประชุมร่วมกับนายอิสมาแอ ระยะหลง ในต.ห้วยกระทิง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ซึ่งเมื่อทราบข่าวก็วางแผนเข้าปิดล้อมเป้าหมาย แต่คนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุก่อน ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มของนายฮูไบดีละห์ อย่างไรก็ตามขณะเกิดเหตุมีพยานเห็นเหตุการณ์ สามารถให้ข้อมูลกับฝ่ายสืบสวนได้
สำหรับนายฮูไบดีละห์ รอมลี มีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายสิบคดี โดยเป็นคนลอบยิงรถตู้สายหาดใหญ่-เบตง ผู้โดยสารเสียชีวิต 8 ศพ เมื่อปี 2547 และยังอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ไม่สงบหลายเหตุในพื้นที่
ด้านนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา มอบเงินเยียวยาให้ญาติผู้เสียชิตทั้ง 4 ราย รายละ 5 แสนบาท สำหรับกรณีนายถาวร สุวรรณโชติ ซึ่งมีลูกสาว ทางจังหวัดจะขอทุนการศึกษาให้เรียนต่อจนจบปริญญาตรี
**รวบแล้ว"ไคโร"มือวางบึมลีการ์เด้นส์
เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) พ.อ.คมกฤษ รัตนฉายา ผบ.ทพ .41 พ.อ.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ รองเสธนาธิการฉก.สงขลา พร้อมกำลังตำรวจสภ.เทพา จ.สงขลา และทหาร กว่า 100 นาย ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 128 หมู่ 5 ต.เทพา อ.เทพา และจับกุมนายเจะหมะ วานิ หรือมาค่อม หรือไคโร อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ 4 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 นำตัวไปสอบสวนและเก็บดีเอ็นเอ เพื่อตรวจหาหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับคดีใดบ้าง โดยคดีลอบวางระเบิดมีผู้ถูกออกหมายจับ 3 คน คือ นายเจะหมะ วานิ นายรุสลัน ใบมะ และนายเสรี แวมามุ
จากการตรวจสอบประวัตินายเจะหมะ ปรากฏว่ามีหมายจับของจ.สงขลา 7 หมาย อาทิ คดีลอบยิงนายอรุณ จันทร์จิตจริงใจ ครูโรงเรียนบ้านสะพานไม้แก่น อ.จะนะ ได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2549 ลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านแพร้ว โรงเรียนบ้านเลียบ และโรงเรียนบ้านนนท์ อ.จะนะ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2550
พ.อ.คมกฤษ กล่าวว่า นายเจะหมะยังคงเคลื่อนไหวในเขตรอยต่ออ.หนองจิก จ.ปัตตานี และอ.เทพา จ.สงขลา จนสายข่าวรายงานว่าเข้ามากบดานที่บ้านหลังดังกล่าว จนสามารถจับกุมได้ นอกจากนี้ยังมีแนวร่วมในเครืออีก 8 คนที่จะเคลื่อนไหว ซึ่งขณะนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังป้องกันการตอบโต้ด้วย
**แห่เยี่ยมนายอำเภอมายอหลังถูกยิง
ที่จ.ปัตตานี ที่ห้องทำงานของนายพิศาล อาแว นายอำเภอมายอ ตั้งแต่ช่วงเช้ามีผู้นำท้องท้องที่เข้าเยี่ยมให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก หลังถูกคนร้ายลอบยิงระหว่างเดินทางกลับบ้านพักเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ แต่เนื่องจากเป็นรถกันกระสุนทุกคนจึงปลอดภัย ขณะเดียวกันพ.ต.อ.วสันต์ พวงน้อย ผกก.สภ.ยะรัง เข้าสอบปากคำนายพิศาล และอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอมายอทั้ง 3 นายที่นั่งมาด้วยกันในรถ
ส่วนแนวทางการสืบสวน เจ้าหน้าที่มองว่าน่าจะเป็นการตอบโต้ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เนื่องจากนายพิศาลดึงมวลชนเข้าร่วมกับทางราชการได้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบไม่พอใจ แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว
**กอ.รมน.ชี้คนร้ายขยายความรุนแรง
พ.อ.ปราโมทย์ พรมหมอินทร์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมี่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า กรณีคนร้ายบุกยิงพ่อค้าผลไม้ชาวระยอง และซุ่มยิงครูชาวนานั้น ทั้ง 2 เหตุการณ์ล้วนเป็นคนต่างถิ่น ทำให้หลายหน่วยงานไม่สบายใจ ทั้งนี้ยุทธศาสตร์การดูแลความปลอดภัยนั้น กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ากำหนดไว้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเป้าหมายอ่อนแอ ที่สร้างความรู้สึกเป็นวงกว้าง เช่น ครู พระสงฆ์ ประชาชน ซึ่งรวมถึงพ่อค้าแม่ค้าต่างถิ่นที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่เนื่องจากเป้าหมายมีจำนวนมาก การดูแลอาจไม่ทั่วถึงหรือไม่เข้มแข็งนัก โดยเฉพาะเมื่อบวกกับความเคยชิน ทำให้ทุกฝ่ายขาดความตระหนักบ้าง จึงกลายเป็นช่องโหว่ให้กลุ่มขบวนการก่อเหตุได้
ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ เป้าหมายสำคัญ เช่น กรณียิงนายอำเภอมายอ จ.ปัตตานี คนร้ายมีเป้าหมายชัดเจน กรณีนี้ได้แจ้งไปยังข้าราชการทุกหน่วยงาน ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางแล้ว
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้แสดงให้เห็นว่า คนร้ายต้องการสร้างความรุนแรงเป็นวงกว้าง และตอกย้ำแบบซ้ำๆ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายอ่อนแอนั้น หากรู้สึกไม่ปลอดภัย และต้องการความคุ้มครอง สามารถร้องขอผ่านเจ้าหน้าที่รัฐได้ทุกพื้นที่ รวมถึงทหารในแต่ละหน่วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง"
**ททท.วอน3ฝ่ายคุมเข้มก่อน"ตรุษจีน"
นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานนราธิวาส รับผิดชอบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า วันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ หลายองค์กรจัดงานเฉลิมฉลองเทศกดาลตรุษจีน ซึ่งมี 3 จุดซึ่งเป็นไฮไลท์ คือ ศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ลานวัฒนธรรม เทศบาลเมืองปัตตานี และหลังอุโมงค์ เทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนข้ามแดนเข้ามาร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะที่อ.เบตง เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลอดภัย จึงสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว เมื่อเทียบกับอ.สุไหงโก-ลก ที่ยอดนักท่องเที่ยวไม่ต่างกันมาก แต่จะมีเฉพาะชาวจีนจากมาเลเซียเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่ไม่มั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย
"อยากให้กองกำลังผสม 3 ฝ่ายเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ไม่ปล่อยให้เกิดช่องโหว่ให้คนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ เพราะเกรงว่าหากเกิดเหตุร้ายขึ้นก่อนตรุษจีน จะส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลงแน่นอน"
ด้านนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กำชับกองกำลังผสม 3 ฝ่าย ทั้ง 13 อำเภอควบคุมพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อป้องปรามกลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเคยเกิดเหตุคาร์บอมบ์มาแล้ว โดยให้ทุกหน่วยตั้งจุดสกัดตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัย ที่แหล่งข่าวแจ้งว่ากลุ่มคนร้ายเตรียมใช้เป็นคาร์บอมบ์ 3-4 คัน ตรวจสอบบุคคลตามหมายจับที่อาจข้ามแดนกลับมาก่อเหตุ ส่วนการจุดพลุและประทัด ให้ประชาชนแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าด้วย เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด และผู้ไม่หวังดีอาศัยช่วงดังกล่าวก่อเหตุ
พ.ต.อ.ประสาร อิ่มสมบัติ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า พ.ท.วุทธยา จันทมาศ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 ได้จัดกำลังพล 200 นายเข้ามาเสริม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น
