xs
xsm
sm
md
lg

โจรใต้ถล่มร้านน้ำชา ดับ4-ทารก11เดือนสาหัส จ่อยิงหัวผอ.รับเปิดเรียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โจรใต้เหิมหนักบุกยิงถล่มร้านน้ำชาในนราธิวาสดับ 4 ไม่เว้นเด็กทารก 11 เดือนสาหัส 4 ก่อนบุกยิง "ผอ.และครู" ในปัตตานีดับอีก 2 ขณะนั่งกินข้าวเที่ยง แฉนาทีโหดบุกถึงโรงอาหารโรงเรียน ประกาศให้ทุกคนก้มหัวลงกับโต๊ะก่อนใช้ปืนเอ็ม 16 จ่อยิงหัว ผอ.และครูดับจมกองเลือด ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของครูและนักเรียน ก่อนชิงรถครูหลบหนี ขณะที่โรงเรียนในปัตตานีปิดเรียนทันที ด้าน "มทภ.4" เรียกร้อง ปชช.ร่วมประณามโจรใต้ พร้อมสั่งปรับรื้อแผน รปภ.ครู สร้างความมั่นใจ

เวลา 07.20 น.วานนี้ (11ธ.ค.) ร.ต.อ.บุญศักดิ์ หนูหมาด ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายยิงถล่มร้านน้ำชา ตั้งอยู่หน้าบ้านเลขที่ 60/2 บ้านดามาบูเวาะ ม.1 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย จึงนำกำลังไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.วิชัย เกษมวงศ์ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 พ.ต.อ.จิรเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ เจ้าหน้าที่กองวิทยาการ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง

ที่เกิดเหตุเป็นหน้าบ้านเปิดเป็นร้านน้ำชา มีนางกามีละ มามะ อายุ 47 ปี เป็นเจ้าของร้าน เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงครามทั้งขนาดเอ็ม 16 อาก้า และเอชเค ตกอยู่กว่า 40 ปลอก พบกองเลือดกระจัดกระจายอยู่บนพื้นที่หน้าร้าน ถ้วยชามที่ใส่อาหาร และแก้วน้ำชาตกกระจายเกลื่อนจากวิถีกระสุนของคนร้าย

ส่วนศพผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บพลเมืองดีได้นำตัวส่ง รพ.ระแงะ ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยผู้เสียชีวิตมี 4 ราย คือ 1.นายซอบรี เลาะ อายุ 23 ปี 2.ด.ญ.อินฟานี สาเมาะ อายุ 11 เดือน 3.นายปะเงาะ นิแม อายุ 76 ปี และ 4.น.ส.นิสบะห์ มูซอ อายุ 25 ปี ซึ่งทั้ง 4 ราย ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณศีรษะและลำตัว

ส่วนผู้บาดเจ็บมี 4 ราย ถูกกระสุนปืนที่บริเวณขา แขน และลำตัว คือ 1.นางซีตี รอฮีมะ มามะ อายุ 70 ปี เป็นมารดาของภรรยาเจ้าของร้าน 2.นายต่วนมา ตีงี อายุ 61 ปี 3.น.ส.มิสบะห์ มูซอ อายุ 25 ปี และ 4.ด.ช.มูฮำหมัดดัรริสฮากีมี แยนา อายุ 10 เดือน ทั้ง 5 รายมีอาการสาหัสแพทย์ต้องส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์

สอบสวนนายปิยะวัฒน์ โมง เจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านดามาบูเวาะ ม.1 ต.ตันหยงลิมอ ซึ่งนั่งอยู่ในบ้านทราบว่า ในระหว่างที่นางกามีระ มามะ ภรรยาซึ่งกำลังขายอาหารและน้ำชาให้แก่ลูกค้าที่นั่งดื่ม และยืนซื้ออยู่ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถยนต์กระบะไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียนมาจอดหน้าร้าน จากนั้นคนร้ายที่นั่งกระบะหลัง 3 คนได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 อาก้า และเอชเค คนละกระบอกกราดยิงใส่ร้านน้ำชากว่า 40 นัดทำให้มารดาของภรรยา หลาน และชาวบ้านที่เป็นลูกค้าถูกกระสุนปืนล้มทั้งยืนและนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด

หลังจากนั้น คนร้ายได้รีบขับรถยนต์กระบะหลบหนีไป ตนจึงได้วิ่งออกจากบ้านร้องขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกจุดเกิดเหตุ นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อสร้างสถานการณ์ร้ายรายวัน หลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ในพื้นที่กดดันอย่างหนัก

ต่อมา พ.ต.อาคม ทองพวง นายทหารฝ่ายยุทธการ กรม ทพ.ที่ 45 ร่วมกับ ร.ท.บำเพ็ญ คชเวช ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 4505 นำกำลังรวม 30 นายติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายแล้ว ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าเป็นการกระทำของสมุนนายอำรัน มิง แกนนำปฏิบัติการที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.บองอ อ.ระแงะ

**ยิงครูใต้ดับอีก2-ยอดสังเวย157ศพ

ต่อมาเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรณขำ ผกก.สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งคนร้ายบุกยิงครูเสียชีวิตภายในโรงเรียนบ้านบาโง ม.1 ต.ปาหนัน อีก 2 ราย จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี โดยจุดเกิดเหตุอยู่ภายในโรงอาหารของโรงเรียน พบผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือดอย่างน่าอนาถ 2 ราย คือ 1.นางตติยรัตน์ ช่วยแก้ว อายุ 51 ปี เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบาโง อยู่บ้านเลขที่ 233 ม.4 ต.คูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา และนายสมศักดิ์ ขวัญมา อายุ 38 ปี เป็นครูผู้ช่วย อยู่บ้านเลขที่ 64/8 ซอยอินทรทิศ 4 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา สภาพศพทั้ง 2 คนถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าศีรษะจนกะโหลกเปิด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 ปลอก

สอบสวนทราบว่าขณะที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 กำลังนั่งกินข้าวพร้อมกับครูอีก 5 คนภายในโรงอาหาร โดยที่นักเรียนกำลังพักเที่ยงเล่นอยู่ภายในบริเวณโรงเรียน ปรากฏว่าได้มีคนร้าย 5 คน 2 ในนั้นสวมใส่ชุดคล้ายทหารมีอาวุธปืนเอ็ม 16 ใช้รถจักรยานยนต์ 3 คันขับมาจอดไว้หน้าโรงเรียน จากนั้นคนร้าย 2 คนที่ใส่ชุดทหารเดินเข้ามาภายในโรงอาหารก่อนจะประกาศว่าให้ทุกคนก้มหัวลงกับโต๊ะ จากนั้น 2 คนร้ายจึงปฏิบัติการโหดจ่อยิงหัวของผู้อำนวยการ และครูผู้ช่วย ยิงใส่คนละ 1 นัดจนล้มกองกับพื้นเสียชีวิตทันที ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของครู และนักเรียน และดึงกุญแจรถยนต์ที่เอวของนายสมศักดิ์แล้วขโมยรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า รุ่น BT50 ทะเบียน บฉ 218 ยะลา ก่อนหลบหนีไปโดยภายในรถมีอาวุธปืน ขนาด 9 มม.ด้วย 1 กระบอก

หลังเกิดเหตุนายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวสัดิ์ รอง ผบช.ศชจ. พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง ผบ.ฉก.ปัตตานี รุดมาที่เกิดเหตุพร้อมสั่งกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายกระจายเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุทันทีในรัศมี 1 กิโลเมตร พร้อมทั้งให้ไล่ล่าสกัดจับรถยนต์ที่คนร้ายขโมยไปด้วย ขณะที่โรงเรียนบ้านบาโง และโรงเรียนใกล้เคียงต่างปิดเรียนทันที

สำหรับนางตติยรัตน์ ช่วยแก้ว และนายสมศักดิ์ ขวัญมา เป็นบุคลาการทางการศึกษารายที่ 156 และ 157 ที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยก่อนหน้านี้ในห้วงเวลาเพียง 12 วันช่วงปลายเดือน พ.ย.ต่อเนื่องต้นเดือน ธ.ค.มีครูถูกยิงไปแล้ว 3 รายเสียชีวิต 2 รายและได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

**มทภ.4เรียกร้อง ปชช.ร่วมประณาม

เวลา 16.00 น. วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของคุณครู ตลอดจนลูกศิษย์ เพื่อนร่วมอาชีพ และพี่น้องคนไทยทุกคนที่คอยให้กำลังใจคุณครูตลอดมา เราได้สูญเสียบุคลากรครูผู้ทรงคุณค่ายิ่งของสังคมไทยไปอีก 2 ท่าน จากการกระทำอย่างโหดเหี้ยมของผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งมีความสุดโต่งทั้งแนวความคิด และการกระทำอย่างไร้มนุษยธรรม เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับคุณครู ผู้ซึ่งคอยทำหน้าที่ประสิทธิ์ประสาทสิ่งที่ดีให้แก่ลูกหลานของสังคมเรา

แม่ทัพภาค 4 ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียกร้องให้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งพลังมวลชนต่างๆ ได้แสดงพลังต่อต้านผู้ก่อเหตุรุนแรงทุกรูปแบบ เพื่อแสดงให้เห็นว่า เราไม่เห็นด้วยปฏิเสธการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ พร้อมกันนี้ ขอให้ช่วยกันปกป้อง คุ้มครอง และให้กำลังใจแก่คุณครู บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทุกคน เพื่อนำสันติสุขกลับคืนสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็วต่อไป

พล.ท.อุดมชัย ยังได้กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีความไม่สบายใจในความปลอดภัยของเพื่อนครูในพื้นที่นั้น ตนเองได้ประสานกับทางครูแล้ว เพื่อปรับแผนในการรักษาความปลอดภัย ตนเองไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่จะพยายามปรับแผนให้เกิดความปลอดภัยแก่ครูให้มากที่สุด ส่วนกรณีคนร้ายแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่นั้น ตนเองก็ได้กำชับลงไปในพื้นที่เพื่อป้องกัน และระวังต่อไปแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น