รมว.กห.รับโจรใต้ก่อเหตุป่วน ใส่เสื้อเกราะอาสาฯ ทั้งหมด ชมนาวิกฯ ไม่ประมาท ป้องกันเยี่ยม แฉมีแผนจับตัวประกัน รับเสียใจมีคนหลงผิด ขอกลับใจพัฒนาชาติ ยันไม่ต้องเชิญทูตมุสลิมแจง พร้อมศึกษาเหตุลอบใส่ชุดพรางทหาร โยน “เหลิม” นั่งหัวโต๊ะถกความเหมาะสมเคอร์ฟิว ย้อนโอไอซีช่วยแก้ไข อย่าเอาแต่ติ เตรียมรับมืออัลกออิดะห์จ้องป่วนกงสุลมะกัน ย้อนสื่อเป็นฝ่ายไหนหลังถูกซัก
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่วิทยาลัยป้องกันประเทศ (วปอ.) พล.อ.อ.สุกำพล รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีเหตุปะทะระหว่างทหารนาวิกโยธินกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ว่าได้รับรายงานว่ามีผู้ก่อความไม่สงบประมาณ 70-80 คนรวมตัวก่อเหตุโดยสวมชุดพรางทหาร อาวุธครบมือ ซึ่งทราบภายหลังว่ามีทั้งอาวุธปืนของทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร แต่ในส่วนของเสื้อเกราะที่คนร้ายใส่เป็นของอาสาสมัครทั้งหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องชื่นชมนาวิกโยธินกองทัพเรือที่ไม่ประมาท มีการเตรียมพร้อมป้องกันและสามารถตอบโต้โดยที่ไม่เกิดความสูญเสียขึ้น ล่าสุดพบว่าคนร้ายเสียชีวิตทั้งหมด 16 ศพ ยึดอาวุธปืน 19 กระบอก รถยนต์กระบะ 2 คัน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าในการตรวจสอบภายในตัวคนร้ายมีการเตรียมเชือกและเส้นลวด ซึ่งคาดว่าจะเอาไว้ใช้สำหรับจับตัวประกัน
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวต่อว่า รู้สึกเสียใจที่สุดที่มีคนไทยที่หลงผิดเข้าไปเป็นแนวร่วมก่อเหตุจนต้องมาเสียชีวิต เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ตนสงสารและเห็นใจครอบครัว แต่ในส่วนของกองทัพนั้นก็ต้องป้องกันตัวเอง ดังนั้นอยากให้ผู้ที่หลงผิดกลับมาร่วมพัฒนาชาติไทย มามอบตัว รวมถึงให้ข้อมูลแก่ภาครัฐ เพราะอย่างไรก็ตามเป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบที่ตั้งไว้จะไม่มีวันสำเร็จ
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเชิญทูตประเทศมุสลิมมาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ รมว.กห.กล่าวว่า ไม่ต้องเชิญ กระทรวงการต่างประเทศคงทราบว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป ทุกคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเอง ซึ่งการแก้ปัญหาใต้ในขณะนี้ทุกหน่วยงาน ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ทำงานกันอย่างสอดคล้องประสานกันเป็นอย่างดี ส่วนของชุดพรางทหารที่คนร้ายสวมใส่ก่อเหตุจะต้องมีการควบคุมอย่างไร พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ชุดของทหารมีขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็มีวิธีการในการควบคุมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็จะถูกเก็บไปเป็นประเด็นเพื่อศึกษาทบทวนต่อไป
เมื่อถามว่าในส่วนของการประกาศเคอร์ฟิวควรจะมีการประกาศเพิ่มเติมมากขึ้นหรือไม่ เพราะขณะนี้ได้มีการประกาศเคอร์ฟิวใน 6 ตำบลของ จ.นราธิวาส และจ.ปัตตานี เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันนี้ถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) จะเป็นประธานในการประชุมในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ซึ่งจะตัดสินใจในวันนั้นว่าจะดำเนินการเรื่องประกาศเคอร์ฟิวอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งต้องฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่าย ในส่วนของพื้นที่ที่ไม่ได้ประกาศเคอร์ฟิว ก็ต้องมีการระมัดระวังการก่อเหตุด้วย
เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ต้องเตรียมพร้อมในการเตรียมรับมือการตอบโต้กลับของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างไร พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ต้องมีความระมัดระวังอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวคิดได้ ทำไมทหารจะคิดไม่ได้ และเมื่อถามถึงในส่วนขององค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ควรจะมีบทบาทต่อการแก้ไขปัญหาใต้อย่างไร พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า โอไอซีมีอิทธิพลต่อชาวไทยมุสลิมในภาคใต้พอสมควร ดังนั้นน่าจะมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาใต้มากกว่านี้ ไม่ใช่มาดูแล้วมาติติงอย่างเดียว เพราะโอไอซีสามารถทำได้มากกว่านี้ ซึ่งก็น่าจะช่วยกัน
รมว.กลาโหมกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่ามีกระแสข่าวกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์มีแผนก่อเหตุโจมตีสถานกงสุลหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเดือน ก.พ.นี้ว่า เป็นไปตามที่หลายคนได้ให้ข่าวในเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องระมัดระวังและเตรียมรับมือ อย่างไรก็ตามข่าวก็คือข่าว ไม่มีการยืนยันว่ามีข่าวแล้วจะต้องทำจริงเสมอ เพราะข่าวมีทั้งข่าวกรองและข่าวไม่กรอง เมื่อถามว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวกรองหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลย้อนถามสื่อว่า “ถามแบบนี้เป็นฝ่ายไหน”
