นายกฯ เผยเหตุโจรใต้ปะทะทหารนาวิกโยธิน ฝ่ายข่าวกรองทำงานเร็วขึ้น สั่ง “ประชา” ติดตามรายละเอียด เผยพร้อมดูแลญาติคนร้ายเต็มที่ พร้อมคุ้มครองแหล่งข่าว ไม่ขอให้คำตอบเรื่องสถานการณ์ ลั่นขอแก้ที่ต้นเหตุ ไม่มีผลต่อประกาศเคอร์ฟิว อีกด้านเผยกรณีซีอีโอแอร์เอเชียเข้าเยี่ยมคารวะ บอกขอเพิ่มเที่ยวบิน ก่อนแจ้ง ทอท.-คมนาคม
วันนี้ (13 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคนร้ายประมาณ 50 คน บุกเข้าโจมตีฐานทหารนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ที่บ้านยือลอ หมู่ที่ 3 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่ตอบโต้อย่างดุเดือด จนคนร้ายเสียชีวิต 17 ศพ และยึดปืนเอ็ม16 ได้ 16 กระบอกว่า กรณีนี้ฝ่ายข่าวกรองทำงานได้เร็วขึ้น โดยได้สั่งให้นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทยติดตามดูแลรายละเอียดในพื้นที่แล้ว ส่วนเรื่องการดูแลญาติของผู้สูญเสียในเหตุการณ์ดังกล่าวจะให้เจ้าหน้าที่สรุปก่อนว่ามีความต้องการส่วนใดจะดูแลให้อย่างเต็มที่ ส่วนในเรื่องการคุ้มครองดูแลแหล่งข่าวก็จะมีการดูแลคุ้มครองอย่างเต็มที่ไม่ให้ตกเป็นเป้า สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือรอให้เกิดเหตุก่อนแล้วให้แก้ไข แต่ต่อไปจะเน้นการป้องกันก่อนเกิดเหตุเพราะไม่อยากเห็นความรุนแรง โดยเพิ่มอาสาสมัครให้ชุมชนดูแลกันเอง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวต่อว่า การตอบโต้ต่อฝ่ายก่อการนั้นจะไม่ต้องอยู่บนความประมาท จะแก้ไขที่ต้นเหตุ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นยังไม่ขอให้คำตอบ เพราะอาจจะเร็วเกินไป และไม่อยากให้มองว่าเป็นการท้าทาย ทั้งนี้ การที่จะพูดคุยกับประเทศมุสลิมหรือไม่นั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบก็จะชี้แจงอยู่แล้ว ส่วนจะมีผลต่อการประกาศเคอร์ฟิววันที่ 15 ก.พ.หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของแตละพื้นที่ เหตุการณ์นี้ไม่มีผลต่อการตัดสินใจ ส่วนกรณีมีกระแสข่าวกลุ่มก่อการร้ายเตรียมก่อเหตุที่สถานกงสุลสหรัฐฯ จ.เชียงใหม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่าไม่กังวล แต่ต้องอยู่ในความไม่ประมาท
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายโทนี เฟอร์นานเดส ผู้บริหารสูงสุดสายการบินแอร์เอเชีย เข้าเยี่ยมคารวะที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ว่าสืบเนื่องจากอัตรานักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น แอร์เอเชียจึงมีความคิดจะขยายเพิ่มเที่ยวบิน รัฐบาลก็อยากเห็นสายการบินต้นทุนต่ำขยายไปทั่วภูมิภาคในอาเซียน จึงจะแจ้งการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยและ รมว.คมนาคม
