ASTVผู้จัดการรายวัน-พลังงานจับมืออุตฯ-คมนาคม คุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัยในรถใช้แอลพีจี ตรวจยิบก่อนจดทะเบียนให้ พร้อมจ่อยกเลิกการจดทะเบียนถาวร หวังให้รถหันไปใช้เอ็นจีวีแทน
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการสัมมนาโครงการ "พลังงานสัญจรสะท้อนความเห็นผู้ประกอบการปี 2556“ จัดโดยกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ว่า ได้หารืออย่างไม่เป็นทางการร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงคมนาคม ที่จะควบคุมความปลอดภัยการใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในรถยนต์ หลังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะเข้มงวดเรื่องมาตรฐานตัวถัง ขณะที่กรมขนส่งทางบกจะเข้มงวดเรื่องของการตรวจสอบรถก่อนจดทะเบียนที่จะต้องมีการติดตั้งให้ได้มาตรฐาน และระยะยาวได้มองไปถึงการยกเลิกการจดทะเบียนรถใช้แอลพีจีเพื่อให้หันไปใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ (เอ็นจีวี) ตามนโยบายรัฐ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้มอบให้ ธพ. ไปเร่งสรุปแนวทางการลงทุนวางท่อน้ำมันที่จะเชื่อมจาก จ.ระยองไปยัง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี-จ.สระบุรี-จ.พิษณุโลก และอ.กบินทร์บุรี-จ.นครราชสีมา-จ.ขอนแก่น ระยะทาง รวมทั้งหมด 1,000 กิโลเมตร และยังมีคลัง 5 แห่ง ได้แก่ คลังที่กบินทร์บุรี สระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น และพิษณุโลก ลงทุน 1.9 หมื่นล้านบาท เพื่อทำให้ราคาน้ำมันทั่วประเทศเท่ากันที่คลังปลายท่อและเมื่อขนส่งจากคลังไปจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในต่างจังหวัดถูกลงอย่างต่ำ 30 สตางค์ต่อลิตร
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการสัมมนาโครงการ "พลังงานสัญจรสะท้อนความเห็นผู้ประกอบการปี 2556“ จัดโดยกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ว่า ได้หารืออย่างไม่เป็นทางการร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงคมนาคม ที่จะควบคุมความปลอดภัยการใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในรถยนต์ หลังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะเข้มงวดเรื่องมาตรฐานตัวถัง ขณะที่กรมขนส่งทางบกจะเข้มงวดเรื่องของการตรวจสอบรถก่อนจดทะเบียนที่จะต้องมีการติดตั้งให้ได้มาตรฐาน และระยะยาวได้มองไปถึงการยกเลิกการจดทะเบียนรถใช้แอลพีจีเพื่อให้หันไปใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ (เอ็นจีวี) ตามนโยบายรัฐ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้มอบให้ ธพ. ไปเร่งสรุปแนวทางการลงทุนวางท่อน้ำมันที่จะเชื่อมจาก จ.ระยองไปยัง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี-จ.สระบุรี-จ.พิษณุโลก และอ.กบินทร์บุรี-จ.นครราชสีมา-จ.ขอนแก่น ระยะทาง รวมทั้งหมด 1,000 กิโลเมตร และยังมีคลัง 5 แห่ง ได้แก่ คลังที่กบินทร์บุรี สระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น และพิษณุโลก ลงทุน 1.9 หมื่นล้านบาท เพื่อทำให้ราคาน้ำมันทั่วประเทศเท่ากันที่คลังปลายท่อและเมื่อขนส่งจากคลังไปจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในต่างจังหวัดถูกลงอย่างต่ำ 30 สตางค์ต่อลิตร