วานนี้(12 ก.พ.56) นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงการเป็นตัวกลางในการประสานตัวแทนทุกฝ่ายทุกสีเพื่อออกกฎหมายนิรโทษกรรม โดยยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่ไม่ดีแอบแฝง แต่เป็นการทำเพื่อต้องการเห็นประเทศชาติมีความสุข สงบ และสันติ ซึ่งเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมที่ผ่านมา มีแต่คนพูดแต่ไม่มีผู้ที่ลงมือกระทำ ตนในฐานะที่เป็นทนายความเก่า และเป็นนักการเมืองที่อยู่ในสภามานาน มองเห็นช่องทางว่าการจะออกกฎหมายเพื่อนำไปสู่ความปรองดองได้นั้น ต้องมีการหารือจากฝ่ายที่มีความขัดแย้งกัน เพื่อหาจุดร่วมและทางออกที่เป็นที่ข้อยุติ
"ผมไม่ได้รับลูกใคร แต่เห็นว่าทุกฝ่ายล้วนมีความปราถนาดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองทั้งสิ้น เช่น บางฝ่ายเดินหน้าสานเสวนาทำวิจัยจนนำเสนออกเป็นรายงาน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครนำผลการศึกษามาปฏิบัติ เพราะประเทศไทยมีแต่การพูด ไม่มีคนทำ มีแต่คนวิพากษ์วิจารณ์คนเก่ง แต่จะมาทำเพื่อประเทศชาติ นำความสุขสงบมาสู่สังคมไม่มี ดังนั้นผมจึงไม่อยากจะเห็นคนรักชาติจนน้ำลายหรือน้ำตาไหล หรือกลายเป็นคนคลั่งชาติ ผมจึงต้องเป็นคนกลางประสานทุกฝ่ายให้มาร่วมพูดคุยกัน"นายเจริญ กล่าว
ทั้งนี้ เบื้องต้นนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.ระบะบัญชีรายชื่อปชป. รับที่จะไปหารือกับแกนนำของพรรค และเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานายไตรรงค์ได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าได้หารือกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคแล้วแต่ยังไม่ได้หารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรค.
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช. พาณิชย์ ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า เป็นท่าทีที่ดี และอยากสนับสนุนทุกฝ่ายที่พยายามหาข้อสรุปเรื่องนี้ เดินหน้าต่อไป การที่ นายเจริญ ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างชัดเจนทำให้สัญญาณการขับเคลื่อนกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างเป็นรูปธรรมมีความหวังมากขึ้น
ตนอยากฝากถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเรื่องใหญ่ และจะเป็นการคลี่คลายความขัดแย้งในสังคมไทย เพราะฉะนั้น การทำเรื่องใหญ่จะใจแคบไม่ได้
เมื่อถามว่า จุดยืน คนเสื้อแดงยังยืนยันยกเว้นแกนนำใช่หรือไม่ เพราะ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำคนเสื้อแดง ได้ออกมาระบุว่า รัฐมนตรี หรือ ส.ส.บางคนก็ไม่ได้อยู่ในระดับแกนนำ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายก่อแก้วคงหมายถึง ตัว รัฐมนตรี หรือ ส.ส.บางคนที่ได้มาแสดงจุดยืนทางการเมืองเป็นครั้งคราว แต่ไม่ได้ขับเคลื่อนอย่างเป็นกระบวนการต่อเนื่องแบบที่พวกตนดำเนินการ
“คำว่าแกนนำนั้นพวกตนไม่ปฏิเสธ แต่ก็ได้พูดมาโดยตลอดว่าไม่ได้เป็นแกนนำที่มีอำนาจสั่งการ แต่เรื่องนี้ไม่มีมีบิดพลิ้ว คำว่าแกนนำก็คือพวกผม พวกผมยินดีที่จะไม่เข้าไปอยู่ในเงื่อนไขการนิรโทษ ขอพูดให้ชัดเลย” นายณัฐวุฒิกล่าว..
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเจริญ อ้างว่าได้ประสานกับนายไตรรงค์ ว่า ยังไม่ได้คุยกับนายไตรรงค์ในเรื่องนี้ แต่ตนคิดว่าใครติดต่อมานายไตรรงค์ก็คงคุยโดยมีจุดยืนชัดเจน อย่างไรก็ตามตนจะได้สอบถามนายไตรรงค์ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งมั่นใจว่าไม่สามารถล็อบบี้นายไตรรงค์ให้เปลี่ยนจุดยืนได้
ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ออกมาเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เปิดใจกว้างในเรื่องการนิรโทษกรรมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้นายณัฐวุฒิมีจุดยืนและมีใจมาชุมนุมเพราะคำเชิญของนายณัฐวุฒิจนได้รับความเดือดร้อนแต่นายณัฐวุฒิกลับไม่ยอมช่วยคนเหล่านี้เพราะต้องไปช่วยนายก่อน จึงไม่ทราบว่าใครกันแน่ที่ใจแคบหรือใจดำ และการที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ออกมาระบุว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่มีแกนนำแต่เป็นการชุมนุมโดยประชาชนซึ่งจะทำให้แกนนำได้ประโยชน์จากการนิรโทษกรรมด้วยนั้น ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ายังมีการเอาคนเสื้อแดงมาเป็นตัวประกันเพื่อพ่วงให้มีการนิรโทษกรรมกับแกนนำด้วย เพราะกฎหมายไม่สามารถที่จะเขียนได้ว่าจะให้แกนนำได้รับผลประโยชน์หรือไม่ให้ แต่เขียนได้ด้วยการระบุการนิรโทษกรรมความผิดที่ชัดเจน เช่น การฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์คิดเรื่องนี้เพื่อช่วยชาวบ้านเสื้อแดงจริง ๆ ที่เดือดร้อนแต่ติดที่แกนนำและพ.ต.ท.ทักษิณ ที่จับคนเสื้อแดงเป็นตัวประกัน นายณัฐวุฒิจึงไม่ควรถามว่าคนอื่นใจกว้างหรือไม่แต่ต้องถามว่าใครใจดำชักชวนคนมาเดือดร้อนแต่ไม่ยอมแก้ปัญหาให้เพราะมีผลประโยชน์ของตัวเองอยู่ เพราะถ้าตนใจดำเหมือนทางโน้นก็ต้องจับคนเสื้อแดงเป็นตัวประกันด้วย เผื่อจะนิรโทษกรรมคดีของตนด้วย แต่ไม่มีเพราะตนพร้อมที่จะขึ้นศาลและนิรโทษกรรมให้กับคนเสื้อแดงที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างเดียว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า อยากถามว่านายเจริญทำในฐานะอะไร เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ปฏิเสธไม่ได้มอบหมาย และหากผลักดันให้เสร็จ จะกระทบความเป็นกลางต่อการปฎิบัติหน้าที่ในฐานะรองประธานสภาฯหรือไม่ และเป็นการรับลูกของคณะนิติราษฎร์ คอ.นธ. และนปช.มาดำเนินการต่อเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการล้างผิด ถือเป็นกระบวนการต่อเนื่องกันใช่หรือไม่
นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกวุฒิสภา สายสรรหา กล่าวว่า กฎหมายนิรโทษกรรม ที่มีการเสนอของทุกฝ่าย ส่วนตัวมองว่า เป็นการแสวงหาหนทางเพื่อต้องการนิรโทษกรรมให้ได้ และเป็นการอำพรางความผิดให้แกนนำและคนต่างประเทศ เนื่องจากหลักฐานและคำพูดของแกนนำ อยู่ในข่าวของสื่อมวลชน และถูกโพสต์ลงในยูทูปหมดแล้ว จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ใครใช่แกนนำ หรือ ไม่ใช่แกนนำ อีกทั้ง กระบวนการยุติธรรมของศาล ก็แยกแยะไว้ชัดเจนแล้วว่า ใครมาชุมนุมแบบบริสุทธิ์ จึงทำการฟ้องร้องกับผู้ชุมนุมเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น จากผู้ชุมนุมกว่าแสนคน
ส่วนกระบวนการนิรโทษกรรม เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่วางใจ อีกทั้ง น.พ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะอ้างว่า การชุมนุมไม่เกี่ยวข้องกับ ส.ส. ไม่ได้ เพราะขณะนั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็มีสถานะเป็น ส.ส. จึงเป็นคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้
"ผมไม่ได้รับลูกใคร แต่เห็นว่าทุกฝ่ายล้วนมีความปราถนาดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองทั้งสิ้น เช่น บางฝ่ายเดินหน้าสานเสวนาทำวิจัยจนนำเสนออกเป็นรายงาน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครนำผลการศึกษามาปฏิบัติ เพราะประเทศไทยมีแต่การพูด ไม่มีคนทำ มีแต่คนวิพากษ์วิจารณ์คนเก่ง แต่จะมาทำเพื่อประเทศชาติ นำความสุขสงบมาสู่สังคมไม่มี ดังนั้นผมจึงไม่อยากจะเห็นคนรักชาติจนน้ำลายหรือน้ำตาไหล หรือกลายเป็นคนคลั่งชาติ ผมจึงต้องเป็นคนกลางประสานทุกฝ่ายให้มาร่วมพูดคุยกัน"นายเจริญ กล่าว
ทั้งนี้ เบื้องต้นนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.ระบะบัญชีรายชื่อปชป. รับที่จะไปหารือกับแกนนำของพรรค และเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานายไตรรงค์ได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าได้หารือกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคแล้วแต่ยังไม่ได้หารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรค.
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช. พาณิชย์ ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า เป็นท่าทีที่ดี และอยากสนับสนุนทุกฝ่ายที่พยายามหาข้อสรุปเรื่องนี้ เดินหน้าต่อไป การที่ นายเจริญ ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างชัดเจนทำให้สัญญาณการขับเคลื่อนกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างเป็นรูปธรรมมีความหวังมากขึ้น
ตนอยากฝากถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเรื่องใหญ่ และจะเป็นการคลี่คลายความขัดแย้งในสังคมไทย เพราะฉะนั้น การทำเรื่องใหญ่จะใจแคบไม่ได้
เมื่อถามว่า จุดยืน คนเสื้อแดงยังยืนยันยกเว้นแกนนำใช่หรือไม่ เพราะ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำคนเสื้อแดง ได้ออกมาระบุว่า รัฐมนตรี หรือ ส.ส.บางคนก็ไม่ได้อยู่ในระดับแกนนำ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายก่อแก้วคงหมายถึง ตัว รัฐมนตรี หรือ ส.ส.บางคนที่ได้มาแสดงจุดยืนทางการเมืองเป็นครั้งคราว แต่ไม่ได้ขับเคลื่อนอย่างเป็นกระบวนการต่อเนื่องแบบที่พวกตนดำเนินการ
“คำว่าแกนนำนั้นพวกตนไม่ปฏิเสธ แต่ก็ได้พูดมาโดยตลอดว่าไม่ได้เป็นแกนนำที่มีอำนาจสั่งการ แต่เรื่องนี้ไม่มีมีบิดพลิ้ว คำว่าแกนนำก็คือพวกผม พวกผมยินดีที่จะไม่เข้าไปอยู่ในเงื่อนไขการนิรโทษ ขอพูดให้ชัดเลย” นายณัฐวุฒิกล่าว..
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเจริญ อ้างว่าได้ประสานกับนายไตรรงค์ ว่า ยังไม่ได้คุยกับนายไตรรงค์ในเรื่องนี้ แต่ตนคิดว่าใครติดต่อมานายไตรรงค์ก็คงคุยโดยมีจุดยืนชัดเจน อย่างไรก็ตามตนจะได้สอบถามนายไตรรงค์ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งมั่นใจว่าไม่สามารถล็อบบี้นายไตรรงค์ให้เปลี่ยนจุดยืนได้
ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ออกมาเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เปิดใจกว้างในเรื่องการนิรโทษกรรมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้นายณัฐวุฒิมีจุดยืนและมีใจมาชุมนุมเพราะคำเชิญของนายณัฐวุฒิจนได้รับความเดือดร้อนแต่นายณัฐวุฒิกลับไม่ยอมช่วยคนเหล่านี้เพราะต้องไปช่วยนายก่อน จึงไม่ทราบว่าใครกันแน่ที่ใจแคบหรือใจดำ และการที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ออกมาระบุว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่มีแกนนำแต่เป็นการชุมนุมโดยประชาชนซึ่งจะทำให้แกนนำได้ประโยชน์จากการนิรโทษกรรมด้วยนั้น ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ายังมีการเอาคนเสื้อแดงมาเป็นตัวประกันเพื่อพ่วงให้มีการนิรโทษกรรมกับแกนนำด้วย เพราะกฎหมายไม่สามารถที่จะเขียนได้ว่าจะให้แกนนำได้รับผลประโยชน์หรือไม่ให้ แต่เขียนได้ด้วยการระบุการนิรโทษกรรมความผิดที่ชัดเจน เช่น การฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์คิดเรื่องนี้เพื่อช่วยชาวบ้านเสื้อแดงจริง ๆ ที่เดือดร้อนแต่ติดที่แกนนำและพ.ต.ท.ทักษิณ ที่จับคนเสื้อแดงเป็นตัวประกัน นายณัฐวุฒิจึงไม่ควรถามว่าคนอื่นใจกว้างหรือไม่แต่ต้องถามว่าใครใจดำชักชวนคนมาเดือดร้อนแต่ไม่ยอมแก้ปัญหาให้เพราะมีผลประโยชน์ของตัวเองอยู่ เพราะถ้าตนใจดำเหมือนทางโน้นก็ต้องจับคนเสื้อแดงเป็นตัวประกันด้วย เผื่อจะนิรโทษกรรมคดีของตนด้วย แต่ไม่มีเพราะตนพร้อมที่จะขึ้นศาลและนิรโทษกรรมให้กับคนเสื้อแดงที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างเดียว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า อยากถามว่านายเจริญทำในฐานะอะไร เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ปฏิเสธไม่ได้มอบหมาย และหากผลักดันให้เสร็จ จะกระทบความเป็นกลางต่อการปฎิบัติหน้าที่ในฐานะรองประธานสภาฯหรือไม่ และเป็นการรับลูกของคณะนิติราษฎร์ คอ.นธ. และนปช.มาดำเนินการต่อเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการล้างผิด ถือเป็นกระบวนการต่อเนื่องกันใช่หรือไม่
นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกวุฒิสภา สายสรรหา กล่าวว่า กฎหมายนิรโทษกรรม ที่มีการเสนอของทุกฝ่าย ส่วนตัวมองว่า เป็นการแสวงหาหนทางเพื่อต้องการนิรโทษกรรมให้ได้ และเป็นการอำพรางความผิดให้แกนนำและคนต่างประเทศ เนื่องจากหลักฐานและคำพูดของแกนนำ อยู่ในข่าวของสื่อมวลชน และถูกโพสต์ลงในยูทูปหมดแล้ว จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ใครใช่แกนนำ หรือ ไม่ใช่แกนนำ อีกทั้ง กระบวนการยุติธรรมของศาล ก็แยกแยะไว้ชัดเจนแล้วว่า ใครมาชุมนุมแบบบริสุทธิ์ จึงทำการฟ้องร้องกับผู้ชุมนุมเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น จากผู้ชุมนุมกว่าแสนคน
ส่วนกระบวนการนิรโทษกรรม เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่วางใจ อีกทั้ง น.พ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะอ้างว่า การชุมนุมไม่เกี่ยวข้องกับ ส.ส. ไม่ได้ เพราะขณะนั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็มีสถานะเป็น ส.ส. จึงเป็นคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้