“ณัฐวุฒิ” เชียร์ “เจริญ” เคลื่อนไหวผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม เปิดไต๋ให้ยกโทษพวกที่ก่อเหตุเพราะแรงจูงใจทางการเมืองด้วย อ้างกลุ่มที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินพ้นโทษเกือบหมดแล้ว ส่วนแกนนำไม่ขอรับอานิสงส์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (12 ก.พ.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เคลื่อนไหวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยการเชิญตัวแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เข้าหารือถึงแนวทางการออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่า เป็นท่าทีที่ดีและอยากสนับสนุนทุกฝ่ายที่พยายามหาข้อสรุปเรื่องนี้เดินหน้าต่อไป การที่นายเจริญออกมาเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนทำให้สัญญาณการขับเคลื่อนกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างเป็นรูปธรรมมีความหวังมากขึ้น และส่วนตัวในฐานะแกนนำคนเสื้อแดงก็ยังยืนยันวิธีการเสนอ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมเช่นเดิม แต่ถ้าหากมีการพูดคุยเพื่อให้ได้ข้อสรุปจากทุกฝ่ายตนก็ยินดี
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า อยากฝากไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเรื่องใหญ่ และจะเป็นการคลี่คลายความขัดแย้งในสังคมไทย เพราะฉะนั้นการทำเรื่องใหญ่จะใจแคบไม่ได้ แม้นายอภิสิทธิ์บอกว่าเห็นด้วย แต่กลับมีเงื่อนไขตลอดเวลา ทั้งเรื่องให้นิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนที่ฝ่าผืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และต้องถอนกฎหมายปรองดองออกจากสภาก่อน ก็ไม่แน่ว่าจะมีเงื่อนไขอะไรเพิ่มขึ้นอีก ตนอยากบอกว่าเมื่อทุกฝ่ายที่ยื่นร่างกฎหมายพูดชัดเจนว่าไม่เกี่ยวข้องกับแกนนำไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด น่าจะเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่จะให้กฎหมายนี้เดินหน้า ส่วนเงื่อนไปต่างๆ ที่นายอภิสิทธิ์พูดไว้นั้นตนคิดว่าค่อยนำมาพูดในกระบวนการที่กฎหมายจะเดินหน้าได้จริงแล้ว เพราะการมาพูดอย่างนี้กฎหมายจะเดินหน้าไม่ได้
ทั้งนี้ตนก็ไม่แน่ใจว่าคนที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.จะเข้าเงื่อนไขสักกี่คน เพราะส่วนใหญ่ถูกคุมขังจนครบโทษแล้ว อย่างไปตั้งเงื่อนไขอะไรเพิ่ม ขอให้ประชาชนที่ต้องโทษเพราะแรงจูงใจทางการเมืองได้มาอยู่ร่วมกฎหมายเดียวกันเสียก่อน ส่วนรายละเอียดของคดีจะเป็นอย่างไรก็ค่อยคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนคนเสื้อแดงยังยืนยันยกเว้นแกนนำใช่หรือไม่ เพราะนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำคนเสื้อแดงได้ออกมาระบุว่ารัฐมนตรีหรือ ส.ส.บางคนก็ไม่ได้อยู่ในระดับแกนนำ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นายก่อแก้วคงหมายถึงตัวรัฐมนตรี หรือ ส.ส.บางคนที่ได้มาแสดงจุดยืนทางการเมืองเป็นครั้งคราว แต่ไม่ได้ขับเคลื่อนอย่างเป็นกระบวนการต่อเนื่องแบบที่พวกตนดำเนินการ
“คำว่าแกนนำนั้นพวกตนไม่ปฏิเสธ แต่ก็ได้พูดมาโดยตลอดว่าไม่ได้เป็นแกนนำที่มีอำนาจสั่งการ แต่เรื่องนี้ไม่มีมีบิดพลิ้ว คำว่าแกนนำก็คือพวกผม พวกผมยินดีที่จะไม่เข้าไปอยู่ในเงื่อนไขการนิรโทษฯ ขอพูดให้ชัดเลย”