หัวหน้าประชาธิปัตย์ปัดถูกโดดเดี่ยวนิรโทษกรรม ชี้แนวทาง “ปานเทพ” คล้ายๆ กัน ซัดรัฐจับแดงบริสุทธิ์เป็นตัวประกัน หวังพ่วงพวกเผาเมือง จวกอย่าเอาเงื่อนไขล้างผิดคนโกง ยันต้องออก กม.ฉบับเดียวเพื่อคนทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินเท่านั้น จี้ถอนร่างในสภาด้วย ระบุไม่จำเป็นนิรโทษกรรมแกนนำ
วันนี้ (10 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หารือร่วมกับตัวแทนกลุ่ม นปช. ร่วมกับนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภา เกี่ยวกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่า ไม่คิดว่าจะเป็นการโดดเดี่ยวพรรคประชาธิปัตย์เพื่อกล่าวหาว่าพรรคขัดขวางเรื่องนี้เพียงฝ่ายเดียว เพราะการนิรโทษกรรมตนได้เสนอแนวทางอย่างชัดเจนมานานแล้วว่าให้มีการนิรโทษกรรมจำกัดขอบเขตเฉพาะคนที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เท่าที่ฟังดูตัวแทนพันธมิตรฯ ก็ไม่มีความคิดที่แตกต่างไปเท่าไหร่จากการสัมภาษณ์ล่าสุด แต่ปัญหาที่ประชาชนคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมโดยสงบแต่ทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังไม่สามารถรับนิรโทษกรรมได้ เพราะถูกจับเป็นตัวประกัน เนื่องจากรัฐบาลไม่ยอมนิรโทษฯ ให้ แต่ต้องการพ่วงบรรดาผู้เผา ผู้ฆ่า คนโกงเข้าไปด้วย ทำให้เรื่องหยุดชะงัก ปัญหาในขณะนี้จึงไม่ได้อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ แต่ทุกคนต้องตั้งคำถามกับรัฐบาลว่ามีความเชื่อในเรื่องการปรองดองว่าจะช่วยประชาชนคนธรรมดาอย่างไร ไม่ใช่เอาเงื่อนไขนี้มาบังหน้าล้างผิดให้คนโกง จึงเห็นว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมหากจะออกมาก็ควรออกมาฉบับเดียวเฉพาะกรณีทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินเท่านั้น และควรถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง 4 ฉบับที่ค้างในสภาฯ ออกไป โดยต้องตกลงให้เกิดความมั่นใจด้วยว่าจะไม่มีการเล่นแร่แปรธาตุในชั้นกรรมาธิการฯ ด้วย
ส่วนแนวคิดที่มีการเปิดเผยหลังการเจรจาว่าจะมีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอีกฉบับหนึ่งในส่วนของแกนนำซึ่งจะให้มีคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาว่าใครสมควรได้รับการนิรโทษกรรมนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังมองไม่เห็นเหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องพูดถึงตรงนั้นเพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้ง ตนเห็นว่าหากมีความเชื่อเรื่องความปรองดองก็ควรเริ่มต้นจากจุดร่วม จะไปเริ่มต้นจากจุดที่มีความขัดแย้งทำไม เพราะถ้าเห็นตรงกันว่าประชาชนที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินสมควรได้รับการนิรโทษกรรมก็มาทำเรื่องนี้ด้วยกัน ซึ่งจะเป็นวิธีการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน สร้างเจตนารมณ์ร่วมกัน แต่ถ้าจะเอาเรื่องของคนอื่นเข้ามาพ่วงด้วยก็ขัดแย้งต่อไปอีก อยากให้เห็นใจคนที่รอคอยสิ่งนี้ เพราะเป็นคนที่สังคมยอมรับว่าเขาควรได้รับการนิรโทษกรรม อย่าหยิบเรื่องอื่นขึ้นมาขอให้ทำเรื่องเดียว ทั้งนี้ ไม่คิดว่าเมื่อเกิดภาพการเจรจาระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับกลุ่ม นปช.แล้วจะเป็นตัวบีบพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคมีจุดยืนเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง