xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ชี้นิรโทษฯ ควรฟังผู้เสียหาย ดันวาระ คอ.นธ.ล้างผิด “แม้ว“” มีวุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
หน.ปชป.ข้องใจ “อุกฤษ” ชง พ.ร.บ.นิรโทษฯ 3 วาระ ย้ำล้างผิดหมดไม่ปรองดอง แนะฟังเสียงผู้เสียหาย ล้างผิดพวกไม่ยอมรับผิดขัดวัตถุประสงค์ อัด คอ.นธ.ตั้งธงทำเพื่อนายใหญ่ ชี้ให้แก๊งแดงลงชื่อไม่ร่วม แค่ละคร บี้เขียน กม.ให้ชัดล้างผิดใคร จวก กม.คอ.นธ.ไม่ต่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ขู่ “ปู” เสี่ยงดันประเทศลุกเป็นไฟ ซัดรัฐโยงเลื่อนแถลงผลงานกับเลือกตั้งผู้ว่าฯ แจง รบ.ก่อนติดม็อบ เหตุแถลงช้า จี้ รบ.รับลูก ส.ว.แถลง

วันนี้ (6 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมอิสระเพื่อส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) เสนอให้รัฐบาลออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และให้สภาพิจารณา 3 วาระรวดว่า ไม่ทราบว่ามีเหตุผลอะไรที่จะเสนอกฎหมายดังกล่าว ซึ่งตนได้ย้ำหลายครั้งแล้วว่าหากรัฐบาลยึดเป็นเรื่องเดียวกับการสร้างความปรองดองก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร

ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลต้องแสวงหาจุดร่วมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเท่านั้น ตนเห็นว่ารัฐบาลควรรับฟังข้อเสนอของผู้เสียหาย ซึ่งเมื่อวันที่ 5 ก.พ. นางนิชา หิรัญบูรณะ ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 ก็มีข้อเสนอว่าจะนิรโทษกรรมแต่ฝ่ายที่กระทำความผิดยังไม่แสดงออกในลักษณะผลักดันการปรองดองเลยก็จะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งตนคิดว่าหากรัฐบาลจริงใจที่จะปรองดองน่าจะหาจุดเริ่มต้นในเรื่องเหล่านี้ แต่หากยังยึดแนวทางที่จะนิรโทษกรรมทุกความผิดก็ไม่เป็นการสร้างความปรองดอง ส่วนการดำเนินการออกกฎหมายนิรโทษกรรมหลายรูปแบบนั้น เป็นการเคลื่อนไปเป็นกระบวนการเดียวกัน และดูช่องทางไปเรื่อยๆและทำในลักษณะไปทางไหนได้ก็ไป เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือล้างผิดให้พรรคพวกและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

“คณะกรรมการชุดนี้ (คอ.นธ.) ก็เป็นอีกช่องทาง และเครื่องมือหนึ่งที่จะนำไปสู้เป้าหมายล้างผิดให้พรรคพวก และ พ.ต.ท.ทักษิณของรัฐบาล ส่วนข้อเสนอลงชื่อไม่ยอมรับการนิรโทษกรรมนั้นก็เป็นเพียงความพยายามเพื่อลดกระแส และเลี่ยงประเด็นที่จะถูกโจมตี แต่เป้าหมายยังเป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งผมอยากเห็นความจริงใจของรัฐบาลที่จะคุยกับฝ่ายอื่นๆมากกว่าหากลไกมารองรับความต้องการตัวเอง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า การที่นายอุกฤษเสนอให้แกนนำที่ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรมลงชื่อในสัตยาบันไม่ยอมรับการนิรโทษกรรมนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติไม่ได้ เพราะเวลาที่กฎหมายออกมาแล้วจะบอกว่าไม่รับเงื่อนไขไม่ได้ จึงเป็นหน้าที่ของคนเขียนกฎหมายที่ต้องระบุให้ชัดเจนว่าใครบ้างที่จะได้รับประโยชน์ ซึ่งความปรองดองจะไม่เกิดขึ้นหากมีการผลักดันกฎหมายที่ไม่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยตนมองว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่เทคนิคทางกฎหมาย แต่อยู่ที่เป้าหมายคืออะไร ทั้งนี้หากมีการผลักดันกฎหมายฉบับดังกล่าวก็เชื่อว่าจะไม่แตกต่างจากการผลักดันกฎหมายปรองดอง 4 ฉบับในปีที่ผ่านมา และจะทำให้เกิดความขัดแย้งและรุนแรงมากขึ้น ส่วนการที่จะดำเนินการ 3 วาระรวดนั้นเป็นไปได้ยากมาก อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลตั้งหลักให้ดีว่าการจะเกิดความปรองดองต้องได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย และอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมีความชัดเจนในเรื่องนี้ว่าจะช่วยพี่ชายแต่ไม่แก้ปัญหาพื้นฐาน หรือจะทำให้เกิดความปรองดองก็ต้องหารือกันว่าทุกฝ่ายยอมรับเงื่อนไขอะไรกันได้บ้าง

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการแถลงผลงานรัฐบาลครบ 1 ปี ที่รัฐบาลได้ให้วิป 3 ฝ่ายหารือและให้เลื่อนไปหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าเลย ซึ่งวิปทั้ง 3 ฝ่ายก็ควรดูว่าจะสามารถพิจารณาได้ตอนไหน ส่วนการที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรอ้างว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมาเคยมีการแถลงผลงานล่าช้านั้น รายงานชุดแรกของรัฐบาลเสนอให้สภาในช่วงมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการชุมนุมอยู่ และในสมัยประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติขณะนั้นก็ไม่มีใครติดใจหยิบยกเรื่องขึ้นมา แต่ขณะนี้ ส.ว.ก็ขอให้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งก็เห็นว่ารัฐบาลน่าจะใช้โอกาสนี้แถลงผลงานไปเลย


กำลังโหลดความคิดเห็น