“หมอเหวง” เอาด้วยข้อเสนอ “อุกฤษ” ให้แกนนำลงชื่อไม่ขอรับนิรโทษฯ เย้ย พ.ร.บ.ใช้เวลาเป็นปี สู้ฉบับ นปช.ไม่ได้ ทำได้ทันที รับเป็นผู้สั่งการจริง โยนเสื้อแดงตัดสินใจเห็นด้วยแนวทางกลุ่มไหน อ้างกลุ่ม นปป.ชุมนุมหน้าศาลรับไม่ได้ถูกห้ามไม่ให้พูด 112 ซัดอธิบดีศาลควรย้อนดูตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 ก.พ. ที่รัฐสภา นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธาน คอ.นธ. ที่เตรียมยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้รัฐบาลพิจารณา พร้อมทั้งเสนอความเห็นว่าแกนนำมวลชนควรลงนามแนบท้ายด้วยเพื่อความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ขอรับการนิรโทษกรรมว่า ยินดี เคยแสดงท่าทีแล้วว่าประชาชนที่มาชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองนับแต่เหตุการณ์หลังรัฐประหารจนถึงช่วงปี 2554 และที่ถูกคุมขังได้รับโทษ เขาต่างได้รับทุกขเวทนา หรือในส่วนอื่นก็ดีที่ต้องคดีอาญาหรือที่มีคดีติดตัวเกิดจากความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน คนเหล่านี้สมควรได้รับการปล่อยตัวไป ให้ลงโทษเฉพาะแกนนำเท่านั้น ข้อเสนอของนายอุกฤษส่วนตัวยินดีอย่างยิ่ง เชื่อว่าแกนนำ นปช.คนอื่นก็คงเห็นด้วย แต่คงไปตอบแทนแกนนำฝ่ายอื่นไม่ได้ ตอบได้แค่ในส่วนของคนเสื้อแดง อย่างไรก็ดีที่ นปช.เสนอ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาเนื่องจากทำได้ทันที ถ้ารัฐบาลเห็นด้วย นายกฯ ลงนาม ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว พี่น้องทุกคนจะได้รับการปล่อยตัวทันที ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่ทำได้ทันที
“พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่อาจารย์อุกฤษเสนออาจมีการพิจารณาในสภาฯ 9 เดือนเป็นอย่างน้อย หรืออาจจะหลายปี สมมติรัฐบาลอยู่อีก 2 ปี ครบวาระปี 2558 อาจไม่สำเร็จ ไม่ต้องการให้การนิรโทษกรรมล้มเหลว ล่องลอยไปในอากาศ จึงเสนอเป็น พ.ร.ก.ที่เป็นทางเดียวที่สามารถทำให้สัมฤทธิผลได้ทันที” นพ.เหวงกล่าว
ถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์เยอะถึงร่าง พ.ร.ก.นิรโทษกรรมของ นปช. โดยเฉพาะผู้ซึ่งมีอำนาจสั่งการนั้น ที่ไม่ได้นิยามว่าลักษณะใดที่จะเข้าข่ายคำว่า ผู้ซึ่งมีอำนาจสั่งการ นพ.เหวงกล่าวว่า ความตั้งใจของแกนนำ นปช.คือ ต้องการแยกประชาชนออกจากแกนนำ เราจึงต้องมีข้อความนี้อยู่ด้วย หากเป็นการนิรโทษกรรมอย่างอื่นจะเขียนคลอบครุมหมด แต่ในทัศนะ นปช.คือ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่สามารถดำเนินการ ขับเคลื่อนต่อการเคลื่อนไหวได้ หรือมีอำนาจในการตัดสินใจ เพราะถ้าจะขับเคลื่อนได้ต้องมีอำนาจซึ่งในการตัดสินใจ
ถามว่า นพ.เหวง ถือเป็นผู้ซึ่งมีอำนาจสั่งการหรือไม่ นพ.เหวงกล่าวว่า ใช่ เพราะได้เข้าร่วมประชุม ร่วมแสดงความคิดเห็นว่าควรทำอย่างไร
นพ.เหวงกล่าวถึงกรณีนางดารุณี กฤตบุญญาลัย หนึ่งในแกนนำกลุ่ม 29 มกรา ออกมาตอบโต้ตนหลังจากไปวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวว่า ส่วนตัวเคารพความคิดเห็นนางดารุณี ที่ไปพูดหอประชุมลิปตพัลลภ จ.นครราชสีมา เป็นการเสอนข้อคิดเห็นต่อการต่อสู้ว่า เราควรแยกมิตร ศัตรูให้ชัดเจน หากเป็นมิตรควรปฏิบัติกันฉันมิตรแม้จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันก็ตาม และต้องถือว่ารัฐบาลก็เป็นมิตรเราด้วย ที่พูดถึงศัตรูนั้น เพราะไม่อยากให้เอาท่าทีศัตรูมาทำให้กระทบต่อมิตร ไม่ควรเอาคมดาบ คมหอกมาทิ่มแทงใส่มิตร ส่วนที่กลุ่ม 29 มกรา จะจัดกิจกรรมวันที่ 22 ก.พ. เพื่อรำลึก 2 ปี การถูกคุมขังของนายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำกลุ่มแดงสยามนั้น ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ในการแสดงออก แต่อยู่ที่ประชาชนเสื้อแดงจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่อย่างไร
นอกจากนี้ นพ.เหวง ยังกล่าวถึงกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยภาคประชาชน (นปป.) ชุมนุมหน้าศาลอาญาเมื่อ 4 ก.พ.หน้าศาลอาญา เรียกร้องให้นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีศาลอาญา ออกมาระบุไม่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์คดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และยังเรียกร้องให้ออกมาขอโทษด้วยว่า เป็นประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ออกมาแสดงความเห็นตามระบอบประชาธิปไตย ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ มีสิทธิแสดงออก ขอให้ทำตามกรอบประชาธิปไตย ผู้ถูกกล่าวหาควรดูด้วยว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่จริง แต่ในส่วนของกลุ่มต่างๆ ขอให้เคลื่อนไหวตามกรอบกฎหมาย
