xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เรื่องลับๆ ล่อๆ และแก๊งโฟร์ซีซั่นส์ ที่ ร.ร.อัสสัมชัญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -แม้มูลนิธิมูลนิธิคณะเซนต์คาเบลียลแห่งประเทศไทย จะมีคำสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่ของภราดา อานันท์ ปรีชาวุฒิ ในฐานะผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนอัสสัมชัญและโรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม และในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญและโรงเรียนอัสสัมชัญประถม พร้อมแต่งตั้งให้ภราดา สุรสิทธิ์ สุขชัย ปฏิบัติหน้าที่แทน รวมถึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อหาข้อเท็จจริงหลังครูและศิษย์เก่าฯ สวมชุดดำรวมตัวประท้วงครั้งใหญ่สุดบริเวณโรงเรียนเมื่อวันที่25 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่เชื่ออย่างยิ่งว่า ยังคงมีเงื่อนงำอีกหลายข้อที่สังคมสงสัยว่าสุดท้ายแล้วผลจะออกมาอย่างไร

โดยเฉพาะความห่วงใยเรื่องการหาผลประโยชน์บนที่ดินของโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม ซอยเซนต์หลุยส์ โดยให้ควบรวมโรงเรียนให้เด็กนักเรียนประถมย้ายมาเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก การไม่ปรับเงินเดือนครู หรือข่าวที่มีการย้ายนักเรียนไปเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2

ย้อนไปจุดเริ่มต้น ปลายเดือน ธ.ค. 2555 จากการเปิดเผยปัญหาภายในรั้วอัสสัมชัญซึ่งโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก(Facebook) ส่วนตัวของ “หมอนิด-กิจจา ทวีกุล” ที่ระบุว่า “มีฝ่ายบริหารที่เป็นใหญ่ “อ.” ร่วมมือกับนักการเมืองผู้หนึ่ง และข้าราชการบางคนสมรู้ร่วมคิดในการแก้ไขกฎหมายการรวมเด็กนักเรียนชั้นประถม แถวซอยเซนต์หลุยส์ให้มาเรียนรวมกับเด็กมัธยมที่บางรัก ทั้งที่มีกฎห้ามไว้ และมีการให้ครูเซ็นชื่อลาออกล่วงหน้า เพื่อเป็นการข่มขู่ถ้าครูท่านไหนไม่ให้ความร่วมมือในอนาคต?” พร้อม ๆ กับการออกมาสำทับของ ศ.ดร.เกื้อ วงศ์บุญสิน รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะนายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอัสสัมชัญ และระบุด้วยว่า มีกระแส ครูแต่งชุดดำ เพราะไม่ต้องการควบรวมจริง

นอกจากนี้ ยังมีบทความโดย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คอลัมน์นิสต์หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ ที่ได้ตีแผ่ข้อร้องเรียนจากครู ผู้ปกครอง ที่ต้องการความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว

ทว่า มีความเคลื่อนจาก ภราดา อานันท์ ที่เด่นชัดเพียง 2 ครั้งในเรื่องดังกล่าว ครั้งแรกคือการประชุมทำความเข้าใจผ่านนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ในวันที่ 7 ม.ค.2556 ยอมรับว่าจะมีการควบรวมโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถมและมัธยมเข้าด้วยกันเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2554 เกี่ยวกับตราสารจัดตั้ง ซึ่งโรงเรียนได้ทำรายละเอียดเผยแพร่ทางเว็บไซต์ www.assumption.ac.th ด้วย

กฎหมายที่ว่า คือ การขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบ การกำหนดรายการและการขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสารจัดตั้ง และการกำหนดขนาดที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนในระบบ พ.ศ. 2555” ซึ่งลงนามโดย นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ

ส่วนครั้งที่ 2 อันเนื่องจากเหตุครูแต่งชุดดำประท้วง ประมาณกลางเดือนม.ค. 2556 ภราดา อานันท์ และภราดา ศิริชัย ฟองซีกา ประธานมูลนิธิคณะเซ็นต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย จึงร่วมแถลงข่าวเคลียร์ประเด็นคับข้องใจยืนยันว่าจะไม่มีการควบรวมโรงเรียนทั้งประถมและมัธยมเข้าด้วยกัน ครูทุกคนยังทำงานเช่นเดิม ส่วนการย้ายนักเรียนไปเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2 นั้นก็เฉพาะนักเรียนที่เรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ (English Program : EP) ที่สมัครใจย้ายไปเรียนเท่านั้น

ขณะที่ในวันที่27 ม.ค.ที่ผ่านมา “ทีม Special Scoop นสพ.ผู้จัดการรายวัน”ได้นำเสนอเรื่อง “แก๊งโฟร์ซีซั่นส์จ้องฮุบ“อัสสัมชัญ” ปั้นโครงการสำเร็จกำไรกว่า 2 พันล้าน” โดยมีข้อมูลจากแหล่งข่าวศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญ ว่า เบื้องหลังจริง ๆ คือภราดา อานันท์ ต้องการย้ายนักเรียนไปเรียนในที่โรงเรียนสร้างขึ้นใหม่แถวพระราม 2 ซึ่งเปิดสอนหลักสูตร EPและกำลังก่อสร้างโดยได้ซื้อที่ดิน231 ไร่ ซึ่งใช้งบประมาณมหาศาล และมีบริเวณใกล้กับโครงการสารินซิตี้ บริเวณดังกล่าวเดินทางเข้าออกลำบาก จนทำให้กลุ่มศิษย์เก่าหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า มีการเข้าไปช่วยโครงการสารินซิตี้ซื้อที่ดิน หรือการช่วยโฆษณาด้วยหรือไม่ เพราะล่าสุด มีการทำโฆษณาบ้านจัดสรรบริเวณดังกล่าวอยู่ติดโรงเรียนอัสสัมชัญใหม่เรียบร้อยแล้ว”

สำหรับความอภิมหึมาของ โรงเรียนอัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2 มีกระแสว่าใช้งบประมาณมูลค่ากว่า2,500 ล้านบาท เป้าหมายรองรับนักเรียนถึง 1,800 คน ขณะที่ภายในอาณาเขต 231 ไร่ก็เตรียมการสร้างสิ่งแวดล้อมใหม่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าใต้ดิน อาคารเรียน โดยเฉพาะสนามกีฬา มีทั้งสนามฟุตบอลสดี้ยม ขนาด 15,000 ที่นั่ง สนามฟุตบอล 2 สนาม สนามกรีฑา 9 ลู่วิ่ง ฟิตเนส สระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิก ฯลฯ โดยเริ่มสร้างมาแต่ม.ค.2552 และตั้งเป้าต้องสร้างแล้วเสร็จ ร้อยละ 75 ในปี 2558 แต่ขณะนี้โรงเรียนแห่งนี้เพิ่งมีการรับนักเรียนรุ่นแรกเดือนมี.ค.2555 มีนักเรียนเข้าเรียนกว่า 900 คนในระดับประถมและมัธยม อีกทั้งโรงเรียนแห่งนี้อยู่ห่างจากโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก ประมาณ 28.4 กิโลเมตร ด้วยระยะทางที่ห่างจากไกลหากจะให้ผู้ปกครองเดินไป-กลับระหว่างกรุงเทพฯ-สมุทรสาคร เฉลี่ย 60 กิโลเมตรทุก ๆ วันคงไม่น่าจะคุ้มค่าใช้จ่ายเท่าใดนัก และคาดว่าไม่น่าจะเป็นการลงทุนมูลค่ามหาศาลที่คุ้มค่า ?

ทั้งนี้ โรงเรียนแห่งนี้เป็นโปรเจ็กต์ยักษ์ที่ ภราดา อานันท์ ทั้งผลักทั้งดัน แม้จะไม่ได้รับการอนุมัติการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาชุดเก่าก็ตาม เพราะการสร้างโรงเรียนขนาดใหญ่เกินจำเป็น รวมไปถึงสนามกีฬาจำนวนมากส่งผลต่อสถานการณ์ทางการเงินของโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกมัธยมเกิดวิกฤต ! เพราะถูกดึงเงินของโรงเรียนมาใช้ในการก่อสร้างที่ขณะนี้ยังติดชำระหนี้กับ บริษัท ฤทธา ผู้รับเหมาจำนวนมากเช่นกัน โดยที่ผ่านมา ผู้บริหารโรงเรียนได้มีการออกพันธบัตรกู้ยืม หรือ บอนด์ แก่ผู้ปกครองให้เงินกู้กับโรงเรียนไม่มีดอกเบี้ย และได้คืนเมื่อบุตรจบการศึกษา แต่ก็เกิดคำถามด้วยว่าหากอธิการอัสสัมชัญ หมดวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปีใครกันจะใช้หนี้เหล่านี้แทน

แต่..ถ้าผู้บริหารหากสามารถควบรวมโรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถมและมัธยมเข้าร่วมกันได้ตามข้อกฎหมายใหม่สำเร็จ นั่นหมายถึง เม็ดเงินของโรงเรียนแผนกประถมก็จะเป็นเนื้อเดียวกับแผนกมัธยม ซึ่งไม่แคล้วคลาดถูกดึงสร้างโรงเรียนอัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2 แห่งนี้?

และในภาวะเงินตึงมือผลกรรมเลยไปตกที่ “ครู”เพราะผู้บริหารไม่เคยขึ้นเงินเดือนให้ครู แม้รัฐบาลจะมีนโยบายให้ผู้จบปริญญาตรีได้เงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท และสช.ได้ส่งหนังสือแจ้งมายังโรงเรียนเอกชนในกำกับ หรือกระทั่งมูลนิธิฯ จะมีคำสั่งให้ดำเนินการก็ตาม แต่ผู้บริหารก็ไม่ดำเนินการทันที ซ้ำยังตัดค่าครองชีพ หรือเดิมคือค่าวิทยฐานะที่เคยจ่าย 2,000 บาทเหลือเพียง 1,500 บาท ดังนั้นครูจึงประท้วงเรียกร้องขอคืนสิทธิที่พึงได้ตามกฎหมาย รวมทั้งต้องปรับเงินเดือนตามประกาศมูลนิธิฯ เช่น ปริญญาตรี ต้องได้เงินเดือนที่ 11,680บาท

ขณะที่มีข้อมูลจากครูโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกมัธยม ระบุว่าโรงเรียนมีการเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษาเพิ่มขึ้น เช่นในปีการศึกษา 2555ทั้งหลักสูตรปกติและหลักสูตรภาษาอังกฤษ ระดับม.ต้น เฉลี่ยที่ 2,500 บาทต่อเทอม และม.ปลาย เฉลี่ยที่ 2,800 บาทต่อเทอม เฉพาะหลักสูตรภาษาอังกฤษ ที่เปิดสอน ม.2,3 ค่าธรรมเนียมการศึกษาตลอดปีในปีการศึกษา2555 อยู่ที่ 168,000บาท และ 165,000บาท ส่วน ม.4แผนกวิทย์ อยู่ที่ 173,200 บาท แผนกศิลป์ 167,200 บาท ระดับม.5,6 แผนกวิทย์ อยู่ที่ 163,000บาท และ 168,000 บาท ซึ่งแน่นอนว่าหลักสูตรภาษาอังกฤษที่โรงเรียนอัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2 จะมีราคาสูงกว่านี้

คำถามคือ โรงเรียนชื่อดังระดับนี้ มีผู้ปกครองต้องการให้ลูกเรียนทั้งแผนกประถม-มัธยมจำนวนมาก และเต็มใจจ่ายพิเศษ และพร้อมยอมควักเงินจ่ายแล้วเหตุใดเจอประสบปัญหาการเงิน และหากควบรวมโรงเรียน 2 แห่งเข้าด้วยกันโรงเรียนที่ไร้นักเรียนบนพื้นที่ทำเลทอง นั่นจะถูกนำไปทำอะไร ? ใครกันที่กำลังจ้องตาเป็นมันหวัง “ฮุบ”!!

มีข้อมูลเชื่อมโยงซึ่ง “ทีม Special Scoopนสพ.ผู้จัดการรายวัน” นำเสนอด้วยว่า คอนเนกชันทางการเมืองที่มีการพูดถึง คือ กลุ่มนักการเมือง และกลุ่มนักธรกิจกลุ่ม “โฟร์ซีซั่น” เตรียมการจะเข้าซื้อที่ดินอัสสัมชัญย่านเซนต์หลุยส์ และย่านบางรัก ซึ่งแหล่งข่าว ระบุว่า “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ศิษย์เก่าอัสสัมชัญ และ“เศรษฐา ทวีสิน” กำลังตกเป็นเป้าที่ศิษย์เก่าฯ เชื่อว่าจะเป็นผู้ที่มาซื้อที่ดินอัสสัมชัญ เซนต์หลุยส์ และเมื่อภราดา อานันท์ ทำทุกอย่างสำเร็จทั้งควบรวมประถม-มัธยม สำเร็จและย้ายไปรวมไว้ที่พระราม 2 ได้อีก ที่ดินบางรักก็คือเป้าหมายถัดไป

โดยระยะแรกข่าวที่ศิษย์เก่าฯ ได้รับระบุว่า เบื้องต้น บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และน.ส.ยิ่งลักษ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสูด สนใจจะเข้ามาลงทุน โดยจะทำโรงแรม ซึ่งเป็นธุรกิจที่เก็บเกี่ยวได้นาน แต่ล่าสุดตัดสินใจใส่เกียร์ถอย ไม่อยากยุ่งเกี่ยวเพราะเกิดประเด็นครึกโครมขึ้น

ขณะที่ “เศรษฐา ทวีสิน” เจ้าพ่อแสนสิริ ที่เจอข้อครหาว่าได้รับประโยชน์จากรัฐเอื้อให้ต่อธุรกิจตนเองมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลืมไม่ได้กับเหตุการณ์ “ว.5” ที่โฟร์ซีซั่นส์ ซึ่งถูกโยงเรื่องผลประโยชน์ของพื้นที่ฟลัดเวย์ และถูกจับตามองพิเศษว่าในยุคการบริหารงานของพรรคเพื่อไทย ธุรกิจในเครือแสนสิริ เติบโตมากเป็นพิเศษ คือ ตัวเต็งที่นั่งในโต๊ะการเจรจาและคาดว่าเป็นไปได้มากที่สุด เพราะหมายตาทำโปรเจ็กต์คอนโดมิเนียมซึ่งพื้นที่ดังกล่าวลงทุนได้สบาย ๆ โดยเฉพาะสไตล์ “แสนสิริ” กล้าสู้ราคาที่ดินแพง!?

สำหรับโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนประถม ซ.เซนต์หลุยส์มีเนื้อที่ 5 ไร่ 2 งาน ซึ่งกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ประเมิน ถ.สาทร อยู่ที่ 4.5-6 แสนบาทต่อตารางวา เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2554-2558 ซึ่งหากประมาณราคาซื้อขายกันเองของที่แปลงนี้880 ล้านบาท พัฒนาเป็นพื้นที่ขายได้ประมาณ 44,000 ตารางเมตร (ตร.ม.)ขายเฉลี่ย ตร.ม.ละ 1 แสนบาทหักค่าก่อสร้างประมาณ 1,600 ล้านบาท จะได้กำไร 2 พันล้านบาท ขณะที่โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก มีเนื้อจำนวน 8 ไร่ 3 งาน ราคาประเมินเบื้องต้น ถ.เจริญกรุงอยู่ที่ 1.8-4.5 แสนบาทต่อตารางวา

ทว่า สิ่งที่น่าสงสัยคือ มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย เคยระแคะระคายบ้างหรือไม่?และเหตุใดเกิดเหตุการณ์ยุ่งเหยิงขนาดนี้จึงไม่ออกมาสร้างความกระจ่างให้แก่นักเรียน ผู้ปกครอง และศิษย์เก่า หรือออกมาไขข้องใจแก่สังคม


กำลังโหลดความคิดเห็น