ASTVผู้จัดการรายวัน - “ซีพีเอ็น” รุกหนัก ทุ่มหมื่นล้านบาท ผุดโปรเจ็คต์ยักษ์ “เซ็นทรัลเวสท์เกต” 100 ไร่ แยกบางใหญ่ น้องๆเซ็นทรัลเวิลด์สร้างเป็นศูนย์ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์รีจินัลมอลล์ รับกำลังซื้อทะลักจากเออีซีและโครงการทวายในอนาคต
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ ออกแบบและก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า บริษัทฯจะใช้งบลงทุนรวมกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการ “เซ็นทรัลเวสท์เกต” ที่บางใหญ่เป็นสาขาที่ 24 ของซีพีเอ็น ซึ่งเป็นต้นแบบซูเปอร์รีจินัลมอลล์ ที่ดีที่สุดในเอเชีย บริเวณแยกบางใหญ่ จุดตัดถนนกาญจนภิเษกและถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งพื้นที่โครงการเช่ามาจากกลุ่มบริษัทวินเทจซึ่งเป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์เอง
โครงการนี้มีพื้นที่รวม 100 ไร่ เป็นศูนย์รวมสุดยอดไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตของเอเซีย จะเป็นโครงการแบบมิกซ์ยูสสมบูรณ์แบบ ดีไซน์คอนเซ็ปท์ภายใต้แนวคิด “MetAsia” โดยเบื้องต้นเฟสแรกจะใช้พื้นที่ 70 ไร่ เพื่อพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสท์เกตก่อน พื้นที่ศูนย์การค้ามีประมาณ 500,000 ตารางเมตร มีขนาดใกล้เคียงกับเซ็นทรัลเวิลด์
สำหรับร้านค้าที่เป็นแม่เหล็กในโครงการนั้น คาดว่าจะมีประมาณ 1,000 ร้านค้าทั้งไทยและต่างประเทศ ล้วนแต่ตกแต่งร้านเป็นคอนเซ็ปท์ใหม่และเป็นแฟลกชิปสโตร์ด้วย คาดว่าจะเปิดบริการได้ในปี 2558 และจะมีผู้เข้าใช้บริการประมาณ 200,000 คนต่อวัน
นอกจากศูนย์การค้าแล้ว ยังมีโครงการที่พักอาศัย ในพื้นที่ที่เหลืออีก 30 ไร่ที่จะเป็นฟสที่สอง คาดว่าจะสร้างเป็นคอนโดมิเนียม ขนาด 5,000 ยูนิตขึ้นไป ทั้งนี้อยู่ระหว่างการศึกษา
“ทำเลดังกล่าวถือเป็นทำเลที่ดีที่สุดในย่านดังกล่าว เนื่องจากว่า เป็นย่านเกตุเวย์ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพตะวันตก มีโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของรัฐที่จะเกิดขึ้นอีกมาก ที่จะเชื่อมต่อกับโครงการเดิมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวงแหวนสายตะวันตก ซึ่งแยกบางใหญ่เป็นจุดตัดถนนกาญจนภิเษกขนาด 12 เลน และถนนรัตนาธิเบศร์ขนาด 10 เลน รองรับรถยนต์มากกว่า 85 ล้านคันต่อปี และอนาคตมีเส้นทางรองรับเออีซี คือ มอเตอร์เวยส์สายตะวันตกบางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี เชื่อมต่อกับท่าเรือทวาย ทะเลอันดามัน รับกำลังซื้อและปริมาณลูกค้าที่จะเกิดขึ้นอย่างมากหลังจากเกิดเออีซีในปี 2558 และยังมีทางด่วนขั้นทีสามเชื่อมวงแหวนตะวันตกและมอเตอร์เวย์สชลบุรี และรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อ
โครงการนี้จะสามารถรองรับกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า 13 ล้านคน ในพื้นที่รัศมีการเดินทาง 1 ชั่วใมงครึ่งหรือ 8 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรีแล และคาดการณ์ว่าจะมีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นอีกประมาณ 150,000 ยูนิตในอีก 5 ปีจากนี้
“โปรไฟล์ของผู้คนในย่านนี้จะเปลี่ยนไป คาดว่าจะเป็นระดับบกลางขึ้นสูงมากขึ้นในอนาคต หรือมีเดียมทูไฮ เราจะดึงความเจริญเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ เหมือนกันกับตลาดย่านลาดพร้าวสมัยก่อน ที่ตอนแรกไม่มีอะไรเลย พอเราสร้างเซ็นทรัลลาดพร้าวทุกอย่างก็เจริญตามกันมา” นางสาววัลยากล่าว
อย่างไรก็ตาม มูลค่าลงทุนดังกล่าวเป็นเฉพาะในส่วนของศูนย์การค้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงภายนอกอาคารการก่อสร้างที่ทำขึ้นมาเพื่อป้องกันเหตุการณ์น้ำท่วมที่อาจะเกิดขึน้ได้ในอนาคตด้วย ด้วยการสาร้าพื้นที่ของโครงการให้สูงกว่าถนนรอบนอก 1.50 เมตร และสร้างเขื่อนกั้นน้ำอีก ล้อมรอบโครงการและระบบป้องกันอื่นๆอีกมากสำหรับผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 15% มากกว่าการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ ออกแบบและก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า บริษัทฯจะใช้งบลงทุนรวมกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการ “เซ็นทรัลเวสท์เกต” ที่บางใหญ่เป็นสาขาที่ 24 ของซีพีเอ็น ซึ่งเป็นต้นแบบซูเปอร์รีจินัลมอลล์ ที่ดีที่สุดในเอเชีย บริเวณแยกบางใหญ่ จุดตัดถนนกาญจนภิเษกและถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งพื้นที่โครงการเช่ามาจากกลุ่มบริษัทวินเทจซึ่งเป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์เอง
โครงการนี้มีพื้นที่รวม 100 ไร่ เป็นศูนย์รวมสุดยอดไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตของเอเซีย จะเป็นโครงการแบบมิกซ์ยูสสมบูรณ์แบบ ดีไซน์คอนเซ็ปท์ภายใต้แนวคิด “MetAsia” โดยเบื้องต้นเฟสแรกจะใช้พื้นที่ 70 ไร่ เพื่อพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสท์เกตก่อน พื้นที่ศูนย์การค้ามีประมาณ 500,000 ตารางเมตร มีขนาดใกล้เคียงกับเซ็นทรัลเวิลด์
สำหรับร้านค้าที่เป็นแม่เหล็กในโครงการนั้น คาดว่าจะมีประมาณ 1,000 ร้านค้าทั้งไทยและต่างประเทศ ล้วนแต่ตกแต่งร้านเป็นคอนเซ็ปท์ใหม่และเป็นแฟลกชิปสโตร์ด้วย คาดว่าจะเปิดบริการได้ในปี 2558 และจะมีผู้เข้าใช้บริการประมาณ 200,000 คนต่อวัน
นอกจากศูนย์การค้าแล้ว ยังมีโครงการที่พักอาศัย ในพื้นที่ที่เหลืออีก 30 ไร่ที่จะเป็นฟสที่สอง คาดว่าจะสร้างเป็นคอนโดมิเนียม ขนาด 5,000 ยูนิตขึ้นไป ทั้งนี้อยู่ระหว่างการศึกษา
“ทำเลดังกล่าวถือเป็นทำเลที่ดีที่สุดในย่านดังกล่าว เนื่องจากว่า เป็นย่านเกตุเวย์ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพตะวันตก มีโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของรัฐที่จะเกิดขึ้นอีกมาก ที่จะเชื่อมต่อกับโครงการเดิมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวงแหวนสายตะวันตก ซึ่งแยกบางใหญ่เป็นจุดตัดถนนกาญจนภิเษกขนาด 12 เลน และถนนรัตนาธิเบศร์ขนาด 10 เลน รองรับรถยนต์มากกว่า 85 ล้านคันต่อปี และอนาคตมีเส้นทางรองรับเออีซี คือ มอเตอร์เวยส์สายตะวันตกบางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี เชื่อมต่อกับท่าเรือทวาย ทะเลอันดามัน รับกำลังซื้อและปริมาณลูกค้าที่จะเกิดขึ้นอย่างมากหลังจากเกิดเออีซีในปี 2558 และยังมีทางด่วนขั้นทีสามเชื่อมวงแหวนตะวันตกและมอเตอร์เวย์สชลบุรี และรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อ
โครงการนี้จะสามารถรองรับกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า 13 ล้านคน ในพื้นที่รัศมีการเดินทาง 1 ชั่วใมงครึ่งหรือ 8 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรีแล และคาดการณ์ว่าจะมีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นอีกประมาณ 150,000 ยูนิตในอีก 5 ปีจากนี้
“โปรไฟล์ของผู้คนในย่านนี้จะเปลี่ยนไป คาดว่าจะเป็นระดับบกลางขึ้นสูงมากขึ้นในอนาคต หรือมีเดียมทูไฮ เราจะดึงความเจริญเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ เหมือนกันกับตลาดย่านลาดพร้าวสมัยก่อน ที่ตอนแรกไม่มีอะไรเลย พอเราสร้างเซ็นทรัลลาดพร้าวทุกอย่างก็เจริญตามกันมา” นางสาววัลยากล่าว
อย่างไรก็ตาม มูลค่าลงทุนดังกล่าวเป็นเฉพาะในส่วนของศูนย์การค้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงภายนอกอาคารการก่อสร้างที่ทำขึ้นมาเพื่อป้องกันเหตุการณ์น้ำท่วมที่อาจะเกิดขึน้ได้ในอนาคตด้วย ด้วยการสาร้าพื้นที่ของโครงการให้สูงกว่าถนนรอบนอก 1.50 เมตร และสร้างเขื่อนกั้นน้ำอีก ล้อมรอบโครงการและระบบป้องกันอื่นๆอีกมากสำหรับผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 15% มากกว่าการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ
