xs
xsm
sm
md
lg

คดีเขาพระวิหารจบไม่สวย รัฐบาลให้ข้อมูลไม่ชัดเจน โอกาสเสมอตัวมีแค่ 33%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอแบคโพลล์ชี้ คนไทยไม่เชื่อคดีเขาพระวิหารจะจบลงด้วยดี เพราะถูกโยงเป็นเกมการเมือง นอกจากนี้ข้อมูลที่รัฐบาลให้กับประชาชนก็ไม่ชัดเจน "มาร์ค"จี้รัฐบาลต้องมีความจริงใจในการสู้คดีเขาพระวิหาร ขณะที่นักวิชาการอัดรัฐบาลต้องชี้แจงข้อมูลที่เป็นจริง "ส.ว.คำนูณ"เชื่อศาลโลกจะพิจารณารับตีความคดีเขาพระวิหาร โอกาสเสมอตัวมีแค่ 33% เท่านั้น

วานนี้ (27ม.ค.) สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ความคิดเห็นของสาธารณชนต่อกรณีประสาทเขาพระวิหาร และกฎหมายปรองดอง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,016 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 22 - 26 ม.ค. 56 พบว่า

ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.0 ไม่เชื่อมั่นว่า ความขัดแย้งกรณีประสาทเขาพระวิหารจะจบลงด้วยดี นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 64.7 คิดว่ากรณีประสาทเขาพระวิหารกลายเป็นเกมทางการเมือง ในขณะที่ร้อยละ 35.3 ไม่คิดว่าเป็นเกมการเมือง

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 76.1 ระบุทางออกของกรณีประสาทเขาพระวิหาร ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ในขณะที่ร้อยละ 23.9 ระบุ ควรนำวิถีทางการเมืองเข้ามาแก้ปัญหา

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 82.5 ระบุยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับคดีปราสาทเขาพระวิหารที่รัฐบาลให้ข้อมูลแก่ประชาชน แต่ที่น่าพิจารณา คือเมื่อสอบถามถึงความต้องการของสาธารณชนต่อศาลโลก ให้พิจารณาคดีประสาทเขาพระวิหารที่นำไปสู่ความสงบสุขแก่ทั้งสองประเทศ พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 90.8 ต้องการ ในขณะที่เพียงร้อยละ 9.2 ที่ไม่ต้องการ

นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 63.8 ระบุ การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้พบปะพูดคุยร่วมงานกัน เป็นสัญญาณที่ดีต่อความรัก ความสามัคคีปรองดองมากกว่า ความพยายามออกกฎหมายปรองดองในรัฐสภา ในขณะที่ ร้อยละ 36.2 คิดว่า การออกกฎหมายปรองดองในรัฐสภา ย่อมดีกว่า

**"มาร์ค"จี้รัฐบาลจริงใจสู้คดีพระวิหาร

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มองเรื่องความขัดแย้งกรณีปราสาทพระวิหารว่า จะจบลงไม่ดี และมองเป็นเรื่องเกมการเมือง ว่า ตนคิดว่าประชาชนมีความกังวล ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องคลายความกังวล

ทั้งนี้ในส่วนของฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะช่วยเหลือรัฐบาล แต่รัฐบาลต้องมีความมุ่งมั่น และตั้งใจว่าจะเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง เลิกชวนพวกตนทะเลาะ ก็จะได้ช่วยกันอย่างเต็มที่ เพราะเรื่องนี้เป็นงานที่คนไทยต้องร่วมมือกันต่อสู้ เพื่อให้ชนะคดีที่ศาลโลก และไม่ใช่เรื่องที่ฝ่ายค้านจะมานั่งทะเลาะกับรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ขอให้รัฐบาลหยุดชวนทะเลาะ และชวนคนไทยร่วมต่อสู่คดีให้ชนะดีกว่า

**"ปู"ต้องเตือนลิ่วล้อหยุดโจมตี"มาร์ค"

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาตักเตือนคนของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ทั้งนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ และ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ยังนำคำกล่าวของผู้นำกัมพูชา มาโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างรุนแรง อีกทั้งยังแนะนำนายจิรายุ ให้ทำความเข้าใจเรื่องคดีปราสาทเขาพระวิหารอย่างถ่องแท้ ก่อนจะออกมาพูดอะไร เพราะนายจิรายุ เป็นเหมือนโฆษกของรัฐบาล การพูดด้วยความเข้าใจที่ผิดจะทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ ที่จะทำให้ไทยเสียท่าในเวทีระดับประเทศ และศาลโลกได้

นอกจากนี้ การที่นายจิรายุ ที่ออกมายืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล และแก้ตัวว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะลงทุนในกัมพูชา เป็นเรื่องปกตินั้น ถือเป็นการอ่านข้อมูลไม่ครบ เพราะในคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.เตีย บัญห์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กัมพูชา ระบุชัดว่า จะลงทุนธุรกิจพลังงานในกัมพูชา และเว็บไซต์ วิกิลีกส์ รายงานบันทึกสถานทูตสหรัฐฯ ระบุว่า หากไม่มีการปฏิวัติ ไทยกับกัมพูชา จะแบ่งปันผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลได้ภายใน 6 เดือน

**นักวิชาการจี้รัฐบาลแจงข้อมูลที่เป็นจริง

รศ.ยุทธพร อิสระชัย คณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า การตอบโต้กันไปมากรณีคดีปราสาทพระวิหาร เพื่อหวังผลทางคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ขณะที่การนำคำแถลงของกัมพูชา ที่พาดพิงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มาขับเคลื่อน เป็นการสร้างเกมการเมือง เอื้อประโยชน์ให้พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ ไม่เพียงการสร้างเกมการเมืองข้ามประเทศ แต่การออกมาแถลงของผู้นำกัมพูชา เจาะจงไปที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

ขณะที่ ผศ.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ ประธานหลักสูตรรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ยอมรับว่า ประเด็นการนำไปสู่การปลุกระดมให้เกิดความรักชาติ อาจส่อเค้าไปถึงลักษณะที่เรียกว่า คลั่งชาติได้ จึงเสนอให้ทุกฝ่าย ยุติการดำเนินการ เพื่อนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่อาจควบคุมได้ และขอให้รัฐบาลชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงในทุกมิติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน แถลงพาดพิงถึงคดีปราสาทพระวิหาร เป็นช่วงที่รัฐบาลไทยโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหารือกรอบคำแถลงปิดคดีข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร ร่วมกับทีมต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งที่ประชุมพอใจแนวทางการต่อสู้คดีของทีมทนายความ และให้ข้อคิดเห็น เพื่อนำไปปรับแต่งให้แนวทางการต่อสู้เฉียบคมยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำให้กระทรวงการต่างประเทศบูรณาการการทำงาน กับกระทรวงกลาโหม เพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย

** อ้างรัฐบาลไม่เคยปกปิดข้อมูล

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า การดำเนินการของรัฐบาลในการต่อสู้เรื่องคดีปราสาทพระวิหาร เป็นการปกปิดข้อเท็จจริงนั้น ขอปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ยืนยันรัฐบาลทำหน้าที่ในการรักษาดินแดน และความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำให้คณะทำงานต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด ซึ่งข้อกล่าวหาของนายถาวร เสนเนียม จากพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นวาทะกรรมทางการเมือง ทั้งนี้ ยืนยันทีมกฏหมายที่ทำงานต่อสู้คดี ก็เป็นทีมเดิมที่ตั้งโดยรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชาชชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม อยากให้พรรคประชาธิปัตย์อย่านำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ควรร่วมมือกับกับรัฐบาล แทนการกล่าวหาโจมตี หากมีข้อมูลก็ควรนำมาให้รัฐบาลได้รับทราบ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระดับประเทศ อาจมีผลกระทบต่อรูปคดี และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ทั้งนี้ทุกฝ่ายควรให้กำลังใจ และติดตามการดำเนินงาน โดยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ เพื่อหารือกับทีมกฏหมายระหว่างประเทศ ในการต้อสู้คดี

**"คำนูณ"เชื่อศาลตีความคดีพระวิหาร

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึง กรณีการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารของรัฐบาลไทยในศาลโลก ว่า โอกาสแพ้ มี 0.0001% นั้นหมายถึง ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก พิพากษาล่วงล้ำเรื่องเขตแดน ทั้งนี้ นายคำนูณ ชี้ว่า เส้นตามแผนที่ระวางดงรัก เป็นเส้นเขตแดน แต่เชื่อว่าโอกาสที่ศาลจะชี้ว่า มีอำนาจพิจารณาคดีมีสูง หรือถ้าจะพูดอย่างมีความหวังไว้บ้างก็ คือ 50:50 โดยศาลจะถือตามธรรมนูญศาล มาตรา 60 ว่า เป็นการตีความคำพิพากษาคดีเก่า สมัยที่ไทยยังรับเขตอำนาจศาลโลกอยู่ ไม่ใช่คดีใหม่ที่ไทยไม่ได้รับเขตอำนาจศาลมากว่า 50 ปีแล้ว
ประเด็นนี้ ศาลจะตีความอาณาบริเวณของปราสาท หรือ Vicinity of the temple ที่ไทยต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา วันที่ 15 มิถุนายน 2505 ตามที่กัมพูชาร้องขอ

"คำพิพากษามีความเป็นไปได้เพียง 3 ทาง คือ ทางที่ 1 พิพากษาว่า Vicinity คือ เขตปฏิบัติการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 กรกฎาคม 2505 ที่ไทยส่งมอบให้กัมพูชา และกัมพูชาไม่ได้คัดค้านมาก่อน ทางที่ 2 พิพากษาว่า Vicinity คือ พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ตามแผนที่ระวางดงรัก คือ ไม่ได้พิพากษาว่า เส้นเขตแดนตามแผนที่ระวางดงรัก เป็นเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา แต่พิพากษาว่า พื้นที่ 4.6 ตร.กม. เป็น Vicinity ที่ไทยมีภาระต้องส่งมอบให้กัมพูชา พร้อมตัวปราสาท ตามคำพิพากษาวันที่ 15 มิถุนายน 2505 และทางที่ 3 พิพากษาว่า Vicinity คือ ส่วนหนึ่งของพื้นที่ 4.6 ตร.กม. กล่าวคือ เกินเขตปฏิบัติการตามมติครม. เมื่อ 50 ปีก่อน แต่ก็ไม่ถึงกับกินพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ทั้งหมด ซึ่งทั้ง 3 ทาง โอกาสเป็นไปได้เท่าๆ กัน คือ 1 ใน 3 หรือ 33.3%"

นายคำนูณ กล่าวว่า ถ้าจะว่าไทยแพ้ คือศาลต้องพิพากษาเส้นเขตแดนตามแผนที่ระวางดงรักเท่านั้น ซึ่งโอกาสแพ้ ก็ยังเป็น 0.0001 % ซึ่งผมไม่เห็นด้วยแน่นอน และเชื่อว่าพี่น้องก็ไม่เห็นด้วย เราจึงต้องนิยามคำว่า แพ้ คืออะไรก็ตามที่เราต้องส่งมอบให้กัมพูชาเพิ่ม ไม่ว่าจะในนามของแผ่นดินกัมพูชา หรือในนามของอาณาบริเวณ เกินไปจากที่ส่งมอบตามเขตปฏิบัติการในมติ ครม. วันที่ 10 กรกฎาคม 2505 ไม่ว่าจะเป็น 4.6 ตร.กม. หรือน้อยกว่าก็ตาม แต่ก็ต้องลุ้นกัน 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรกต้องลุ้นว่า ศาลจะรับพิจารณาตีความหรือไม่ ซึ่งโอกาสแพ้ก็ 50% ขั้นตอนต่อมา ในกรณีที่ศาลรับพิจารณาตีความ โอกาสแพ้ 66.6 (33.3+33.3) % คือ คำพิพากษาออกมาตามแนวทางที่ 2 หรือ 3
"คำว่าแพ้ คือ การที่ทำให้เราต้องส่งมอบแผ่นดินเกินกว่ามติครม. ที่ศาลรับตีความให้ตามคำขอของกัมพูชา โอกาสแพ้ จึงไม่ใช่ 0.0001% แน่นอน แต่คือ 50% และ 66.6% โดย 50 % แรก คือ ศาลรับตีความ ส่วน 66.6% หลัง คือ คำพิพากษาออกมาตามทางทางที่ 2 หรือ 3 เพราะโอกาสที่ศาลจะไม่รับตีความตามมาตรา 60 มีน้อยมาก เนื่องจากออกคำสั่งมาตรการชั่วคราวเกินพื้นที่พิพาทก็ยังทำมาแล้ว จะมาพลิกไม่รับตีความเลย คงต้องเป็นมากกว่าปาฏิหาริย์ ซึ่งโอกาสที่จะเสมอตัวมีเพียง 33% เท่านั้น" นายคำนูณ กล่าว .
กำลังโหลดความคิดเห็น