xs
xsm
sm
md
lg

ลลิลฯชู3ยุทธศาสตร์ดันรายได้โต20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ลลิลฯกางแผนดันรายได้ปี56 ตั้งเป้ายอดขาย2,600ล้านบาทโต20% จากปีก่อนหน้า ชู3ยุทธศาสตร์หลัก เพิ่มสัดส่วนรายได้คอนโด ขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัด ดึงระบบก่อสร้างสำเร็จรูปแทนก่ออิฐฉาบปูน ลดต้นทุนก่อสร้างแก้แรงงานขาดตลาดลดผลกระทบค่าแรง300บาทต่อวัน มั่นใจรับรู้รายได้ปี56ที่2,250ล้านบาท ด้าน เครือควอลิตี้เฮ้าส์ จับเทรนด์บ้านพักตากอากาศ เปิดตัวบ้านเดี่ยวริมทะเลพร้อมเข้าอยู่ได้ทันทีบน2 ทำเลท่องเที่ยวยอดฮิต ระยอง และชะอำ เริ่มต้น 3.49ล้านบาท

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี2556นี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะผลักดันให้รายได้ให้เติบโตเพิ่มจากปีก่อนหน้า20% หรือมีรายได้รวม2,600ล้านบาท และมีรายได้รับรู้รวม2,250ล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ในพอร์ต ซึ่งเป็นยอดขายที่ยกมาจากปีก่อนหน้า เพื่อมาทยอยรับรู้ในปีนี้ 950ล้านบาท โดยในปี 2556นี้บริษัทมีแผนจะลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ 8-10โครงการมูลค่ารวมประมาณ 4,000ล้านบาท

“แบ่งเป็นการลงทุนคอนโดมิเนียมในกทม. 2-3โครงการ โครงการบ้านเดี่ยวในกทม.และปริมณฑล 2-3โครงการ และการลงทุนโครงการ้บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ในพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 3-5 โครงการ”

ทั้งนี้ ลลิลฯ วางยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจ3ด้านหลักๆ เพื่อผลักดันให้รายได้ของปี 56 นี้เติบโต20% ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 1.การเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมในเมืองระดับราคาขาย1.8-2ล้านบาทต้นๆ โดยจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ในกลุ่มคอนโดฯจากเดิมที่มีอยู่ 10-15% เป็น20-25% โดยในปีนี้บริษัทจะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เพิ่ม 2-3โครงการมูลค่ารวมประมาณ2,000ล้านบาท

2.การขยายตลาดและฐานะลูกค้าในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น โดยมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ในต่างจังหวัดเพิ่มอีก3-5โครงการใหม่ ซึ่งจะเน้นเจาะตลาดใหม่ในโซน ภาคอีสาน เช่น จังหวัดนครราชสีมา,อุดรธานี,ขอนแก่นฯลฯ และโซนตะวันออก คือ พัทยา ชลบุรี และระยอง โดยในปีที่ผ่านมา ลลิลฯได้เปิดตัวโครงการในจังวหัดชลบุรีไปแล้ว2 โครงการมูลค่ารวมกว่า1,000ล้านบาท และ3.การนำระบบก่อสร้างพรีแฟบมาใช้แทนระบบก่อสร้างก่ออิฐฉาบปูน

สำหรับการนำระบบพรีแฟบเข้ามาใช้ แทนกระบบก่ออิฐฉาบปูนนั้น เพื่อเป็นการลดต้นทุนการพัฒนาโครงการโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนก่อสร้าง ต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้น ต้นทุนที่ดิน และช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้าง นอกจากนี้ยังเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้ส่งมอบบ้านไม่ได้ตามกำหนด และปัญหา ต้นทุนแรงงานก่อสร้างแพงด้วย

“อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาต้นทุนบ้านรวมๆ ได้มีการปรับตัวขึ้นไปแล้ว และยิ่งมาได้รับผลกระทบหนักจากปัญหาขาดแรงงานก่อสร้างและปรับหาค่าแรงงานขั้นต่ำที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนบ้านโดยรวม ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ในก้นี้ราคาบ้านจะปรับตัวขึ้นตามต้นทุนใหม่อีก 3-5%”

ด้านนายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ คอนฟิเด้นท์ จำกัด ในเครือควอลิตี้เฮ้าส์ กล่าวว่า ปัจจุบันกระแสความต้องการบ้านพักตากอากาศมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์อุทกภัยในปี 2554 และนโยบายของรัฐบาลที่กระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยว ทำให้มีความต้องการบ้านหลังที่สองเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจเปิดตัว 2 โครงการบ้านพักตากอากาศ ใน 2 ทำเลเมืองท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อโครงการ คาซ่า ซีไซด์ ระยอง และคาซ่า ซีไซด์ ชะอำ

สำหรับ โครงการคาซ่า ซีไซต์ ระยอง ตั้งอยู่ริมชายหาดแม่รำพึง บนพื้นที่ขนาด 68-3-7ไร่ มูลค่าโครงการรวม 660 ล้านบาท จำนวนการอยู่อาศัยทั้งสิ้น 184 หลัง ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท ส่วนดครงการคาซ่า ซีไซด์ ชะอำ บ้านพักตากอากาศติดถนนใหญ่ ใกล้ชายหาดชะอำ ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 40 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 520 ล้านบาท จำนวนที่อยู่อาศัยทั้งสิ้น 104 หลัง ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท

โดยในเดือนมกราคม 2556 คาซ่า ซีไซด์ ระยอง และคาซ่า ซีไซด์ ชะอำ มีการจัดโปรโมชันร่วมกัน CASA Giving from HEART พบบ้านราคาพิเศษ
กำลังโหลดความคิดเห็น