xs
xsm
sm
md
lg

ต่อสาย "แม้ว" สกัด“พงศพัศ” “เด็กหน่อย-ก๊วนกทม.”ห้าว!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(8 ม.ค.56) เวลา 09.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นประธานการประชุมส.ส.กทม. สก. สข. และสาขาพรรคเขตกทม. รวม 350 คน ภายใต้หัวข้อ “รวมพลังปชป. เพื่อคนกรุงเทพฯ” โดยมีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมประชุมอย่างคับคั่ง อาทิ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค เป็นต้น

**มาร์คย้ำสนามกทม.การเมืองระดับชาติ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ทุกคนเข้ามาร่วมประชุมแสดงออกถึงความมีเอกภาพ และการรวมพลัง เพื่อเตรียมการสำหรับงานสำคัญคือการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ที่กำลังจะมีขึ้น โดยวาระของม.ร.ว.สุขุมพันธ์ จะครบวันสุดท้าย คือวันที่ 10 ม.ค.แล้วและ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เองก็ได้แสดงเจตนาชัดเจนว่า จะไม่รักษาการณ์ในช่วงการเลือกตั้งด้วยเพื่อต้องการให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธ์ ยุติธรรม สุจริตเที่ยงธรรม เพราะข้าราชการกทม.จะต้องมีบทบาทในการบริหารจัดการ การเลือกตั้ง แม้ว่าจะมีกกต.เข้ามาดูแลการเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แม้ว่าม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเป็นเพียงการรักษาการ ก็อาจจะทำให้เกิดความลำบากใจเกรงอกเกรงใจ ที่สำคัญฯคือไม่ต้องการให้เสียเวลาในเรื่องร้องเรียนว่า มีการไปใช้อำนาจหน้าที่ เวลาของราชการ มาเอารัดเอาเปรียบทางการเมืองหรือไม่ เพราะผู้ว่าฯและพรรคประชาธิปัตย์ มีความชัดเจนว่าเราต้องการ การแข่งขันทางการเมืองที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม เพราะฉะนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ก็จะไม่อยู่รักษาการ ทั้งนี้พรรคจะมีการเตรียมการวางแผนในการเลือกตั้ง
"ผมคงไม่ต้องย้ำว่า เราทุกคนที่อยู่ในที่นี้มีความสัมพันธ์กับกทม.อย่างไร และคงทราบดีว่า สนามกทม.ในการเลือกตั้งทุกครั้งมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน เพราะข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ทางการเมืองว่า ถ้ามีการเลือกตั้งในกทม.จะมีผลกว้างขวางไปในประเทศและส่งผลสะเทือนไปถึงการเมืองระดับชาติ รวมทั้งส่งผลไปถึงเรื่องภาพลักษณ์ของพรรค ทำให้เวทีนี้มีความสำคัญอย่างมาก"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

**ปชป.ทัพ9ขุนพลคุมเข้ม9โซน
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงยุทธศาสตร์ในการวางแผนหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เซ็นต์คำสั่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. โดยให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานคณะยุทธศาสตร์ มีกรรมการทั้งสิ้น 60 คน แบ่งเป็นที่ปรึกษา 10 คน อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คุณหญิงกลัยา โสภณพนิช ประธานส.ส.พรรค นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. เป็นต้น ส่วนที่เหลือเป็นกรรมการที่ส่วนใหญ่จะเป็นส.ส.กทม. นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ ยังมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ประสานงานโซน เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. รวมทั้งสิ้น 9 โซนทั่วกทม. โดยมีอำนาจหน้าที่ให้ประสานงานส.ส.ทั่วประเทศ เพื่อช่วยรณรงค์หาเสียงและให้คำปรึกษาเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ เป็นต้น
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้แบ่งโซนไว้ทั้งสิ้น 9 โซน คือ 1.โซนกรุงเทพกลาง (พระนคร ป้อมปราบฯ ดุสิต สัมพันธวงศ์) โดยมีนางผุสดี ตามไท ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ประสานงาน 2.โซนกรุงเทพกลาง 2 (ดินแดง ห้วยขวาง พญาไท ราชเทวี วังทองหลาง) โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ประสานงาน 3.โซนกรุงเทพเหนือ (จตุจักร บางซื่อ ลาดพร้าว หลักสี่ ดอนเมือง สายไหม บางเขน) โดยมีนายสุกิจ ก้องธรนินทร์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ประสานงาน 4.โซนกรุงเทพใต้ (ปทุมวัน บางรัก สาทร บางคอแหลม คลองเตย วัฒนา ยานนาวา) โดยมีนายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ประสานงาน
5.โซนกรุงเทพตะวันออก 1 (พระโขนง บางนา สวนหลวง ประเวศ) โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธานส.ส.พรรค เป็นผู้ประสานงาน 6.โซนกรุงเทพตะวันออก 2 (ลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก คลองสามวา) โดยมีนายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ประสานงาน 7.โซนกรุงเทพตะวันออก 3 (บางกะปิ สะพานสูง บึงกุ่ม คันนายาว) โดยมีนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ประสานงาน 8.โซนกรุงเทพเหนือ (ธนบุรี คลองสาน จอมทอง บางกอกใหญ่ บางพลัด บางกอกน้อย ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา) โดยมีนายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายถวิล ไพรสณฑ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ประสานงาน และ9.โซนกรุงเทพใต้ (ภาษีเจริญ บางแค หนองแขม บางขุนเทียน บางบอน ราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ) โดยมีนายถวิล ไพรสณฑ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ประสานงาน

**ยันออกก่อนวาระ เตรียมฟ้อง DSI
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม สก.สข. และส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ถึงกรณีการลาออกจากตำแหน่งผู้ว่ากทม. ว่า ตนยืนยันว่าจะไม่รักษาการในช่วงเลือกตั้ง เพราะอยากให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างยุติธรรม และให้มีเวลาก่อการเลือกตั้งมากขึ้น ส่วนการลาออกนั้นตนจะลาออกก่อนครบวาระ แต่จะยื่นจดหมายลาออกในวันนี้หรือวันที่ 9 ม.ค.นั้น ตนต้องตัดสินใจอีกทีเพราะยังมีเรื่องงานที่ต้องสะสางอยู่ และปลัดกทม.เองก็ไม่อยู่ ซึ่งหากตนยื่นทันวันนี้ก็จะยื่นภายในวันนี้ ซึ่งการลาออกก็จะมีผลในเวลา 24.00 น.ของวันที่ยื่น
ส่วนการเตรียมตัวเข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)นั้น ตนจะเตรียมเอกสารไปชี้แจงด้วย ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกลับหรือไม่นั้น ก็ต้องให้โอกาสดีเอสไอก่อน แต่หากยังคงปฏิบัตินอกเหนืออำนาจหน้าที่เราก็ต้องพึ่งศาลยุติธรรม ซึ่งหากดูจากข้อมูลที่ดีเอสไอให้ต่อประชาชนนั้น ก็มองได้ว่าเป็นการทำที่เกิดอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงการสอบสวนเบื้องต้น ซึ่งยังไม่มีการสอบสวนพยานบุคคล ส่วนจะส่งผลกระทบกับการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ตนมองว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะที่ผ่านมาตนทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ ทั้งเรื่องต่อสัญญาบีทีเอส และเรื่องสนามฟุตซอล ซึ่งตนยืนยันว่าสามารถตอบได้ในทุกประเด็น
เมื่อถามว่าการดำเนินคดีกลับนั้นจะดำเนินกับคณะสอบสวน หรือรวมถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าอาจต้องรวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาจรวมถึงคณะกรรมการดีเอสไอด้วย ซึ่งรวมถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กพค.) เมื่อถามว่า นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าคำพูดที่ว่าส่งเสาไฟฟ้าลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ก็ชนะนั้นเป็นคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า อาจเป็นเพราะฝ่ายนั้นรู้ว่าหากตนได้กลับมาเป็นผู้ว่าฯกทม.อีกครั้งตนจะเอาสายไฟฟ้าลงใต้ดิน จึงต้องส่งเสาไฟฟ้ามาแข่งกับตน

**"มาร์ค" เชื่อคนกทม.ตัดสินแม้ววันเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์ว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งเสาไฟฟ้าลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ก็ชนะม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.นั้น ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยคิดว่าจะส่งเสาไฟฟ้ามาก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย และถ้าหากจะส่งคนอื่นมาก็ขอให้ดีกว่าเสาไฟฟ้า ซึ่งตนคิดว่าพี่น้องประชาชนคงจะต้องพิจารณาว่า เมื่อเขามองว่าคนกรุงเทพฯ จะส่งอะไรมาก็ต้องเลือก ก็ลองช่วยกันตัดสินใจแล้วก็บอกกับ พ.ต.ท.ทักษิณกลับไปในวันเลือกตั้ง ส่วนอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณมีความเชื่อมั่นอย่างนั้น ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็คงเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ แล้วก็เชื่อมั่นในความพร้อมเรื่องอื่นๆ อาทิเรื่องเงิน เพราะพ.ต.ท.ทักษิณก็จะพยายามพูดว่าเขาชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง และแม้กระทั่งประชามติ24 ล้านเสียงก็บอกหมูๆ

**“แทนคุณ อัด “แม้ว” ดูถูกคนกรุง
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ โฆษกฯผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวถึงกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าพรรคเพื่อไทยส่งเสาไฟฟ้าลง กทม.ก็ชนะว่า หากเป็นคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ จริงก็อยากเห็นท่าทีของพรรคเพื่อไทยเพราะขณะนี้ให้ชัดเจนด้วยการส่งเสาไฟฟ้าลงจริง ๆ แทนการส่งผู้สมัครลง เพื่อพิสูจน์ว่าคน กทม.จะเลือกเสาไฟฟ้าตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณแสดงความมั่นใจหรือไม่ ทั้งนี้เห็นว่าเป็นการพูดที่ดูถูกคนไทยและชาว กทม. จึงอยากให้คนไทยได้พิจารณาว่าการใช้คำพูดลักษณะนี้มีความเหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้ยังเห็นว่านอกจากจะเกิดปรากฏการณ์ “เหนือเมฆ” จากการถอดละคร “เหนือเมฆ2” กลางอากาศแล้วรัฐบาลกำลังปฏิบัติการ “ยกเมฆ” ด้วยการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าจะมีกระบวนการแทรกแซงการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนทั้งผ่านสื่อมวลชนปกติหรือแม้แต่ในละครจึงขอตั้งฉายารัฐบาลชุดนี้ว่า “รัฐบาลยกเมฆ”

**จิรายุปัดแม้วพูดส่งเสาไฟฟ้ายังชนะ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสปริงนิวส์ ว่า ในการประชุมพรรคซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้สไกป์เข้ามา พวกตนได้สะท้อนความเห็นไปว่าจะทำอย่างไรในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และมีการพูดถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งอดีตนายกฯพูดว่า คุณหญิงสุดารัตน์มีคุณค่ามากกว่าจะส่งลงผู้ว่าฯกทม. จึงน่าจะเก็บตัวไว้ใช้งานระดับชาติดีกว่า และคงไม่ได้พ้นตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ไม่ได้โฟกัสว่าตำแหน่งใด ซึ่งจะส่งใครลง ท่านก็บอกว่าต้องรอมติพรรค แต่ความเห็นของท่านก็เห็นว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. และเลขาธิการ ปปส. จะสามารถทำงานได้ เมื่อได้ฟังเราก็พร้อมทำงานสนับสนุน เพราะไม่อยากเห็นผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ มาจากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะชาวบ้านเบื่อ และไม่มีอะไรใหม่มีแต่ความเลวร้าย
ส่วนที่บอกว่า ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะนั้น นายจิรายุ กล่าวว่า เป็นคำพูดของตนเอง ไม่ใช่คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งคล้ายกับว่าพรรคส่งใครลงก็ได้ขอให้มีคุณภาพมีฝีมือ เพราะคนกรุงเทพเบื่อการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์

**“ยิ่งลักษณ์”ย้ำมีผู้สมัครในใจแล้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของพรรคเพื่อไทยเรื่องการเลือกผู้สมัครลงชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯว่า จริงแล้วมีรายชื่ออยู่ในขั้นตอนของประธานโซนเลือกตั้ง กทม. ที่จะคุยหารือกันในส่วนของประธานโซนที่จะเสนอตัวผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพฯจากนั้นถึงจะเสนอต่อคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้สื่อข่าถามว่า วันที่ 10 มกราคมนี้ จะสามารถประกาศชื่อได้เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ วันนี้ต้องรอคำตอบจากประธานโซนก่อนที่จะแจ้งมาทางคณะกรรมการบริหารพรรคและขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคจะประชุมเมื่อไร ซึ่งคิดว่ายังไงต้องเคาะชื่อในเร็วๆนี้อยู่แล้ว ทันทีที่พร้อมเขาต้องเคาะอยู่แล้ว และเชื่อง่าทุกคนคงอยากจะเคาะถ้ามีการประกาศการเลือกตั้งเราก็ต้องทำงานแข่งกับเวลา

**"ปู" ปัดพท.ยังไม่ส่ง "พงศพัศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้า ก่อนเข้าประชุมครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวพล.ต.อ.พงศพัศ พงศเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเพียงว่า “ยังหรอกค่ะ”

**พท.กทม.ปีนเกลียวชูหน่อย!
แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สาเหตุความวุ่นวายเรื่องการส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) เนื่องจากแกนนำพรรคได้พยายามประสานกับ ส.ส.กทม. เพื่อให้ยอมสนับสนุน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ที่มีแนวโน้มจะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคเพื่อไทย แต่ปรากฏว่าเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 ม.ค. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ แกนนำ ส.ส.กทม ได้สไกป์หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อยืนยันว่ากลุ่ม ส.ส กทม.ยังเชื่อว่าหากพรรคส่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ลงชิงตำแหน่งจะได้รับชัยชนะจึงอยากให้พิจารณาอีกครั้ง จากนั้นภาค กทม. ได้หารือร่วมกันและเห็นว่าจะมอบหมายให้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการวื่อสาร เสนอชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ลงสมัคร ในนามของโซน กทม. เพิ่มอีก 1 รายชื่อเพื่อแสดงว่า ส.ส.กทม. ยงคงมีมติสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ นอกจากนี้จะให้แนบรายชื่อ ส.ส.ไปด้วย จากนั้นจะให้ ส.ส.กทม.พูดให้ข่าวลักษณะสนับสนุน
อย่างไรก็ตามแกนนำพรรคได้ประเมินการแถลงข่าวของ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.ในหลายครั้งที่ผ่านมาแล้วเชื่อว่า ส.ส.กทม.จะยังไม่ยอมยุติการสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์อย่างแน่นอน จึงออกมาตรการดัดหลังโดยให้ยกเลิกการประชุมโซนทุกโซนในวันนี้ เพื่อไม่ให้นำไปแอบอ้างว่าที่ปนะชุม โซน กทม.สนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์
นอกจากนี้ คณะยุทธศาสตร์ยังหารือถึงกรณีนี้และเห็นว่าทางออกที่ดีที่สุดในการลดความขัดแย้งคือ ให้ตัวแทนเสนอชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ ให้เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งแทน แต่คณะยุทธศาสตร์ประเมินว่า คงไม่ยอม เพราะตำแหน่งดังกล่าวที่ผ่านมาก็มีผู้ที่ไม่เคยดำรงตำแหน่ง ส.ส.ได้เป็น ทั้งนี้วันที่ 13 ม.ค. คณะกรรมการบริหารพรรคจะเรียกประชุมและออกเป็นมติพรรค จากนั้น 14 ม.ค. จะให้ พล.ต.อ.พงศพัศลาออกจากตำแหน่ง และมาสมัครสมาชิกพรรค จากนั้นวันที่ 15 ม.ค.จะเปิดตัวเป็นผู้สมัครอย่างเป็นทางการ

**ผู้สมัครอิสระ ยังหวังเซอร์ไพรส์
วันเดียวกัน นายสุหฤท สยามวาลา โพตส์ในเฟซบุค DJ Suharit Siamwalla ว่าตามภาพครับ ถ้าท่านยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกใคร ถ้าท่านเป็นสองล้านคนที่ไม่ได้ออกมาใช้สิทธิ์ ถ้าท่านรักกรุงเทพฯ ถ้าท่านพอแล้วกับสิ่งที่ผ่านมา แต่ถ้าผมยังไม่ทำให้ท่านตัดสินใจได้ในตัวผม ผมจะทำงานจนกระทั่งทุกท่านมั่นใจผมให้ได้ ผมพร้อมครับ และผมจะตั้งใจทำในสิ่งที่ท่านจะไม่เคยเห็นมาก่อนและเป็นประโยชน์กับคนกรุงเทพฯ เพียงเพราะผมรักกรุงเทพฯ ผมดำเนินชีวิตที่นี่ และที่นี่จะเป็นที่ที่ลูกผมจะโตขึ้นมาอย่างเต็มภาคภูมิ ติดตามผมต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง และวันนั้นจะเป็นวันที่ทุกท่านจะตัดสินอนาคตกรุงเทพฯของท่านครับ มาร่วมกันสร้างเซอร์ไพรส์กันครับ ผมต้องการท่านอีกเป็นจำนวนมากครับในการกระจายข่าวสาร
ขณะที่พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวช ผู้ที่คาดว่าสมัครอีกรายได้เดินเท้าหาเสียงอย่างต่อเนื่อง

**กกต.คาดสมัครรับเลือกตั้ง 21-25 ม.ค.
นายสุเทพ พรหมวาศ รองเลขาธิการกกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานคร ก่อนครบวาระในวันที่ 10 ม.ค.ว่า ทราบจากสื่อ เมื่อมีการลาออกก็มีผลกระทบต่อกำหนดระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าหากอยู่ครบวาระ ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่ถ้าพ้นด้วยเหตุอื่น เช่นลาออกก็ต้องมีการจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน รวมถึงยังมีผลเรื่องของการถูกร้องเรียน ซึ่งตาม กฎหมายเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นกำหนดว่า กรณีเป็นการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการครบวาระห้ามมิให้ผู้ว่าฯกทม. ดำเนินการใด ๆ ที่เป็นลักษณะจูงใจ ลงคะแนนเลือกตั้งให้กับตน ด้วยการจัดให้ เสนอให้ สัญญาว่าให้ ก่อนพ้นวาระ 60 วัน เพราะอาจทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียน แต่ถ้าลาออกก่อนครบวาระ การกระทำในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.จะไม่ถูกตรวจสอบ อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครั้งนี้ ทางกกต.ได้มีการอบรมลูกเสืออาสาเพื่อเข้าไปดูแลการเลือกตั้งในทุกเขตเลือกตั้งแล้ว และมีแผนจะรณรงค์ในช่วง 6 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งให้คนกรุงเทพมหานครออกมาใช้สิทธิกันให้มาก เนื่องจากได้ตั้งเป้าว่าการใช้สิทธิเลือกตั้งว่าต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70
ด้านนายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เมื่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ลาออก เท่าที่ได้หารือกับกกต.ท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานครเบื้องต้น กำหนดจะให้มีการสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 21-25 ม.ค. และเลือกตั้งในวันที่ 3 มี.ค. คือก่อน60 วันที่จะครบในวันที่10 มี.ค. ซึ่งขณะนี้แม้จะมีการขึ้นป้ายแนะนำตัวของผู้ที่จะลงสมัครบางรายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนใด ๆ เข้ามา
กำลังโหลดความคิดเห็น