หลานสาว “ปู” ยืนยัน “ยิ่งลักษณ์” ไม่รู้ละคร “เหนือเมฆ 2” ถูกถอดกลางอากาศ จี้ ช่อง 3 ชี้แจงด่วน ด้าน พท.ปฏิเสธ รัฐบาลหรือแม้แต่ “นช.แม้ว” สั่งแบน
น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หรือแซนด์ หลานสาว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ทวีตถึงกรณีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์กรณีสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 สั่งถอดละคร “เหนือเมฆ 2” ออกจากการออกอากาศอย่างกะทันหันโดยไม่มีบทอวสานว่า ละครเรื่องดังกล่าวทั้งนายกรัฐมนตรีและทีมงานไม่เคยได้ดู และไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องเป็นอย่างไร ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และขอให้ทางสถานีช่อง 3 ใช้เวทีครอบครัวข่าวชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เข้าไปแทรกแซงหรือ สั่งระงับการออกอากาศ ละครเหนือเมฆ 2 ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าหากมีละครเรื่องใดที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับการเมืองมักจะถูกโยงให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นสมัยใด ทั้งที่ความจริงรัฐบาลอาจไม่รู้เรื่องดังกล่าวเลย และคนในรัฐบาลหลายคนคงไม่ได้ดูละครเรื่องนี้ จึงไม่มีเหตุผลจะกดดันให้งดออกอากาศ เพราะละครก็คือละคร
ด้าน ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าคนทางไกลที่ดูไบขอให้ช่อง 3 หยุดแพร่ภาพละครเรื่องเหนือเมฆว่าเป็นไปไม่ได้ และไม่มีเหตุผลที่ใครจะไปทำอย่างนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนทางไกลดังกล่าวหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ในต่างประเทศ ย่อมไม่มีโอกาสได้ดูละครเรื่องนี้อยู่แล้ว พ.ต.ท ทักษิณจึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
นอกจากนี้ บริษัท บางกอกเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหาร ช่อง 3 ก็เป็นบริษัทมหาชนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ย่อมต้องมีแนวทางบริหารงานที่ชัดเจน และมีทีมผู้บริหารคอยตัดสินใจเรื่องต่างๆ แบบมืออาชีพ ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้อยู่แล้ว และไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลจะไปทำเช่นนั้น และคงไม่มีเวลาไปทำอย่างนั้นด้วย เพราะลำพังแค่การบริหารประเทศ ก็แทบไม่มีเวลาจะนอนอยู่แล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปตามเช็กละครเรื่องนั้นเรื่องนี้
อันที่จริงการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ถือเป็นเรื่องธรรมดา รัฐบาลยินดีรับฟัง ขนาดสื่อต่างๆ ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับรัฐบาล แต่งเรื่องใส่ร้ายโจมตีรัฐบาล โดยใช้ถ้อยคำที่ก้าวร้าวรุนแรง ทั้งยังแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่างๆ นานา รัฐบาลก็ยังอดทน ไม่ได้ไปปิดกั้นเสรีภาพในการพูดของใครเลย แล้วกับละครเรื่องเดียวรัฐบาลคงไม่มีเวลาไปตอแยด้วย เพราะละครก็คือละคร จบเรื่องนี้ไป เดี๋ยวก็มีเรื่องใหม่มา ไม่เห็นมีอะไรต้องคิดมาก และไม่ว่าเนื้อหาของละครจะเป็นอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะก็ไม่ได้เป็นละครที่ถูกพูดถึงอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องไปขอให้หยุดแพร่ภาพ รัฐบาลจะไปช่วยเพิ่มเรตติ้งให้ละครโดยใช่เหตุทำไม จึงขอให้ทุกฝ่ายเลิกโยงเรื่องละครมาเป็นประเด็นการเมืองได้แล้ว