ประธานสภาฯ เชื่อปีหน้าการเมืองดีขึ้น ชี้แดงค้านประชามติแค่มุมต่าง คาดรัฐคงหาวิธีแก้ รธน.ให้สำเร็จ หนุนโหวตคู่เสวนา ยันไม่มีอะไรน่าห่วง แต่การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน โยนผู้เสนอร่างฯ เอายังไงต่อ พ.ร.บ.ปรองดอง รู้แทน “แม้ว” ไม่กลับบ้านตอนนี้ก็ได้ ป้อง รบ.ไม่ต้องรับผิดชอบหากโหวตไม่ผ่าน แถมแก้รายมาตราก็ยังได้ ย้ำต้องเดินหน้า โยนจิตสำนึก ส.ส.แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ออกรับแทนนายกฯ อ้างภารกิจเยอะไม่เข้าสภาต้องเห็นใจ โบ้ยยุค “มาร์ค” ยังแถลงผลงานช้าตั้งปีกว่า
วันนี้ (29 ธ.ค.) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสถานการณ์การเมืองในปี 2556 ว่า โดยภาพรวมตนเห็นว่าจะดีเพราะทุกฝ่ายผู้ที่มีอำนาจโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีก็ให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะมีการทำประชามติควบคู่กับการสานเสวนา เช่นเดียวกับร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ฉบับที่ … พ.ศ…
เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงไม่เห็นด้วยต่อการทำประชามติเพราะเห็นว่าเป็นการผลักภาระให้ประชาชน นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องมองต่างมุม เป็นไปตามปกติของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งทุกฝ่ายก็ต้องยอมกันด้วยเหตุผลไม่ว่าจะเป็นกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง หรือ ส.ส.ของพรรค
เมื่อถามว่า เริ่มมีเสียงสะท้อนจากกลุ่มคนเสื้อแดง นักวิชาการ ว่ารัฐบาลตั้งใจจะล้มการทำประชามติล่วงหน้า นายสมศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลมีธงตั้งใจจะแก้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จ โดยหาวิธีการที่คิดว่าน่าจะดีที่สุด ซึ่งโดยส่วนตัวการทำประชามติพร้อมกับการสานเสวนา เป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะยังไม่เห็นทางออกที่ดีกว่านี้ ดังนั้นเท่าที่ติดตามขณะนี้คิดว่าไม่มีปัญหา เป็นความเห็นที่ต่างกันก็ถือเป็นสีสันเท่านั้น
เมื่อถามว่า สถานการณ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญในปีหน้าจะเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องรัฐธรรมนูญฝ่ายค้านก็เรียกร้องให้ทำประชามติ เมื่อรัฐบาลทำตามคำเรียกร้องปัญหาก็น่าจะเบาบาง ดังนั้นปีหน้าบรรยากาศก็น่าจะดี ถ้าคุยกันด้วยเหตุผลก็น่าจะไม่มีความขัดแย้ง อยากให้ทุกฝ่ายยึดแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องหลักเมตตาธรรม
เมื่อถามว่าจะมีอุบัติเหตุทางการเมือง เนื่องจากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯค้างอยู่ในสภาฯ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ปี 2556 ก็มีเรื่องรัฐธรรมนูญและปรองดอง แต่ก็คิดว่าหากทำตามทางออกที่ว่าไว้ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ส่วนเรื่องปรองดองก็อยู่ที่ผู้เสนอร่างรวมทั้งสมาชิกว่าจะดำเนินการอย่างไร ตนไม่มีอำนาจไปตัดสินแทน แต่มีหน้าที่ทำตามที่สมาชิกต้องการเท่านั้น แต่แนวโน้มก็น่าจะเป็นแนวทางเดียวกัน ถ้าจะให้ดีก็ต้องสานเสวนากันทั่วประเทศทำความเข้าใจหาทางออกร่วมกัน โดยแนวทางของสถาบันพระปกเกล้าที่เสนอถือเป็นแนวทางที่ดี
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามให้รัฐบาลเดินหน้าทำเรื่องปรองดอง นายสมศักดิ์กล่าวว่า เท่าที่ติดตามไม่เป็นอย่างนั้น โดยพ.ต.ท.ทักษิณ เห็นด้วยกับการทำประชามติเพื่อให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนท่าทีของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ดูผ่อนลงแล้ว จะไม่กลับบ้านตอนนี้ก็ได้ ซึ่งตนเห็นว่าฝ่ายที่สนับสนุนก็ต้องลดทิฐิลงบ้าง
เมื่อถามต่อว่า หากทำประชามติไม่ผ่าน รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ เนื่องจากสูญงบประมาณจำนวน 2 พันล้านบาท นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีกฎหมายที่ระบุว่าต้องรับผิดชอบ และเชื่อว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะไม่สูญเปล่าเพราะท้ายที่สุดผลการทำประชามติก็จะเป็นการหาทางออกคำตอบของประเทศ เมื่อลงทุนไป 2 พันล้านบาท ประชาชนว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามนั้น
เมื่อถามต่อว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นไปได้ จะเสนอเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนที่กังวลว่าจะเกิดประเด็นแทรกแซงมองว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่ถ้าถามความเห็นตนเดินเรื่องเต็มรูปแบบแก้ไขทั้งฉบับมาตลอด ก็ควรเดินหน้าต่อให้จบ ส่วนเรื่องความเหมาะสมก็ว่ากันต่อไป แต่นาทีนี้รัฐบาลทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้ ต้องเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เพราะได้สัญญากับประชาชนไว้แล้ว พรรคอื่นก็เช่นเดียวกันได้มีการแถลงนโยบายว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เว้นแต่การทำประชามติไม่ผ่านก็ยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะแก้ไขเป็นรายมาตราไม่ได้ ดังนั้นจะแก้เมื่อไหร่ก็อยู่ที่ความเหมาะสม
เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลได้มีการปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภาในการทำประชามติ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ได้มีการปรึกษามาโดยตลอด แต่เป็นการหารือแบบไม่เป็นทางการโดยหลังจากที่คณะทำงานได้ข้อสรุปก็คงจะหารือแบบเป็นทางการอีกครั้ง แต่ตนก็คงให้คำปรึกษาจะไปกำหนดอะไรไม่ได้
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ยังให้สัมภาษณ์ต่อการทำหน้าที่คุมเกมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในปีหน้าว่า ไม่มีอะไร เหมือนเดิม และเชื่อว่าสมาชิกจะไม่มีปัญหา บรรยากาศการประชุมในระยะหลังก็ดีขึ้น ส่วน ส.ส.ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมเท่าที่เห็นต่างฝ่ายต่างก็ไปร้องกรรมการจริยธรรมทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของสมาชิก ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ตนไม่มีอำนาจตัดสิน
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับฝ่ายนิติบัญญัติน้อยเกินไปหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า บรรยากาศน่าจะดีขึ้น ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ด้วยมีภารกิจที่แบกรับจำนวนมาก ซึ่งก็ต้องเห็นใจในเรื่องนี้ ช่วงแรกที่เข้ามาก็เกิดอุทกภัยน้ำท่วม และเจอมรสุมหลายลูกหลายระลอก
เมื่อถามถึงการแถลงผลงานของรัฐบาลในรอบหนึ่งปี จนขณะนี้เลยกำหนดมา 2 เดือนแล้ว นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นช่วงปิดสมัยประชุมพอดี แต่หลังจากเปิดสมัยประชุมแล้วคงจะมีการเสนอเข้ามา ซึ่งขณะนี้ช้าไป 2 เดือน แต่รัฐบาลที่ผ่านมาก็ทำเป็นตัวอย่างช้าไปปีกว่าเช่นกัน ถามต่อว่า ถ้าไม่แถลงตามกำหนดจะเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตามกฎหมายไม่มีบทลงโทษ แต่ถ้ามีก็ถูกลงโทษด้วยกันทั้งหมด