xs
xsm
sm
md
lg

บุกยิงถล่มรถ “อดีต ส.อบต.” โคราชพังยับคาบ้าน-คาดปมขัดแย้งขับไล่ครู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนร้ายแบกปืนลูกซองบุกยิงถล่มรถยนต์ นายทองใบ  เตรียมมะเริง อายุ 44 ปี  อดีต ส.อบต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา พังยับ คาใต้ถุนบ้าน ก่อนหลบหนีลอยนวล วันนี้ ( 15 ธ.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คนร้ายแบกปืนลูกซองบุกยิงถล่มรถยนต์อดีต ส.อบต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย โคราช พังยับคาใต้ถุนบ้านก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจคาดปมขัดแย้งเหตุอดีต ส.อบต. เป็นแกนนนำในการล่ารายชื่อขับไล่ครูโรงเรียนบ้านคล้าออกนอกพื้นที่

วันนี้ (15 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.00น. พ.ต.ท.อัมริน ถ่ายสูงเนิน ร้อยเวรสอบสวน สภ.พิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มรถยนต์ของอดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) สัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับความเสียหายขณะจอดไว้ใต้ถุนบ้าน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ ภายหลังรับแจ้งจึงนำกำลังออกไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยฮุก 31 พิมาย

ในที่เกิดเหตุ บริเวณใต้ถุนบ้านเลขที่ 48/2 หมู่ 8 บ้านคล้า ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ของ นายทองใบ เตรียมมะเริง อายุ 44 ปี อดีต ส.อบต.สัมฤทธิ์ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน บฉ 6737 นครราชสีมา จอดอยู่ในสภาพมีรอยกระสุนปืนลูกซองยิงเข้าที่กระจกด้านหลังทะลุด้านหน้าแตกกระจาย จำนวน 1 นัด และมีรอยกระสุนปืนยิงจากด้านหลังกระบะทะลุบริเวณเบาะคนขับได้รับความเสียหายอีก 1 นัด ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 20 ตกอยู่ 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม นายทองใบ เตรียมมะเริง เจ้าของรถคันดังกล่าวทราบว่า ในช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 03.00 น. ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืนยิงเข้ามาในบ้าน ทำให้รถยนต์กระบะได้รับความเสียหาย จึงรีบลุกขึ้นมาดูพบว่า คนร้ายได้ถือปืนลูกซองวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความมืด จากนั้นจึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว

จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายทองใบ เป็นแกนนำในการขับไล่ครูโรงเรียนบ้านคล้าคนหนึ่งออกนอกพื้นที่ โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการล่ารายชื่อประชาชนในหมู่บ้าน เพื่อยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการกับครูที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นชนวนทำให้ฝ่ายผู้สนับสนุนครูคนดังกล่าวเกิดไม่พอใจอาจลงมือก่อเหตุเพื่อข่มขู่ให้หยุดดำเนินการ ส่วนประเด็นอื่นยังไม่มีน้ำหนักมาพอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น