ระนอง - องค์กรเอกชนพร้อมผู้ประกอบการกว่า 300 คนร่วมประท้วงขับไล่เจ้าท่าภูมิภาคระนอง อ้างได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) องค์กรเอกชนจังหวัดระนอง ซึ่งประกอบด้วยหอการค้าจังหวัดระนอง สมาคมประมงจังหวัดระนอง สภาอุตสาหกรรมจังหวัดระนอง และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดระนอง รวมตัวกันประท้วงโดยนำรถบรรทุก 10 ล้อ และรถกระบะกว่า 100 คันไปปิดล้อมที่บริเวณหน้าสำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 5 จังหวัดระนอง ใกล้ท่าเรือระนอง หรือท่าเรือน้ำลึก เพื่อกดดัน และขับไล่ น.ต.นิสรณ์ เกตุวงษ์วิจารณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระนอง ให้ย้ายออกนอกพื้นที่ เนื่องจากภาคเอกชนไม่สามารถทำงานได้ พร้อมอ้างมีพฤติกรรมแสวงหาผลประโยชน์
ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงได้นำรถติดเครื่องเสียงมาพูดโจมตีถึงการทำงานที่ไม่โปร่งใส การถือแผ่นผ้าต่อต้านการทำงานไม่สุจริต การแห่โลงศพที่มีชื่อของ น.ต.นิสรณ์ เขียนติดไว้ และนำไปตั้งยังบริเวณด้านหน้าสำนักงานการขนส่งทางน้ำ ที่ 5 แล้วได้จุดประทัดเพื่อเป็นการขับไล่ แต่ปรากฏว่า น.ต.นิสสรณ์ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ทราบว่าได้เดินทางไปกรุงเทพมหานครก่อนหน้านี้แล้ว การประท้วงอยู่นานประมาณ 2 ชั่วโมง
ต่อจากนั้น นางนฤมล ขรภถูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนองได้เป็นตัวแทนมอบหนังสือให้แก่ทาง นายณรงค์ รักร้อย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนอง เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดระนองเดินทางมารับเพื่อส่งมอบหนังสือต่อไปให้แก่อธิบดีกรมเจ้าท่า ให้ย้าย น.ต.นิสรณ์ เกตุวงษ์วิจารณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระนองออกนอกพื้นที่
นายทวี บุญยิ่ง อดีตนายกสมาคมประมงกล่าวว่า เนื่องจาก น.ต.นิสรณ์ เกตุวงษ์วิจารณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระนอง ให้ไปพบเพื่อปรึกษาหารือ แต่มีนัยต่างๆ แฝงไว้ โดยกลั่นแกล้งไม่สามารถต่อสัญญาแพปลาได้ อ้างเรื่องความปลอดภัยบ้าง เรื่องข้อกฎหมายต่างๆ บ้าง ซึ่งปัญหาดังกล่าวต้องมาร่วมพูดคุยกันถึงปัญหา และหาทางช่วยเหลือ แต่กลับมาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทางกลุ่มผู้ประกอบจึงยอมไม่ได้ อยากจะสะท้อนให้สังคมได้เห็นว่า หากจะมาอยู่ในพื้นที่ ไม่ได้มาเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข หรือมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในจังหวัดระนอง ก็ไม่อยากให้ท่านอยู่ในจังหวัดระนอง จังหวัดระนองเป็นจังหวัดเล็กๆ อยากได้ข้าราชการที่ต้องการมาร่วมพัฒนาจังหวัดร่วมกัน เข้ามาอยู่ร่วมกันทำงานและบูรณาการร่วมกันกับภาคเอกชนได้
นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาชิก และผู้ประกอบการหลายรายใน จ.ระนอง ว่า ถูกเรียกรับเงิน รวมถึงล่าสุดทางเจ้าท่าระนองได้มีคำสั่งระงับการใช้ท่าเรืออเนกประสงค์ระนอง เพื่อการขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง เพียงเพราะไม่มีป้ายจราจร และป้ายเตือนบางป้าย ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ก็เคยมีการใช้ท่าเรือนี้ในการขนถ่ายน้ำมาโดยตลอด ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ประกอบการที่ต้องเสียค่าปรับมากกว่าแสนบาท รวมถึงเรือประมงฝั่งพม่าที่รอน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ก็ไม่มีน้ำมันในการทำกิจการประมงด้วย
เมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) องค์กรเอกชนจังหวัดระนอง ซึ่งประกอบด้วยหอการค้าจังหวัดระนอง สมาคมประมงจังหวัดระนอง สภาอุตสาหกรรมจังหวัดระนอง และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดระนอง รวมตัวกันประท้วงโดยนำรถบรรทุก 10 ล้อ และรถกระบะกว่า 100 คันไปปิดล้อมที่บริเวณหน้าสำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 5 จังหวัดระนอง ใกล้ท่าเรือระนอง หรือท่าเรือน้ำลึก เพื่อกดดัน และขับไล่ น.ต.นิสรณ์ เกตุวงษ์วิจารณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระนอง ให้ย้ายออกนอกพื้นที่ เนื่องจากภาคเอกชนไม่สามารถทำงานได้ พร้อมอ้างมีพฤติกรรมแสวงหาผลประโยชน์
ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงได้นำรถติดเครื่องเสียงมาพูดโจมตีถึงการทำงานที่ไม่โปร่งใส การถือแผ่นผ้าต่อต้านการทำงานไม่สุจริต การแห่โลงศพที่มีชื่อของ น.ต.นิสรณ์ เขียนติดไว้ และนำไปตั้งยังบริเวณด้านหน้าสำนักงานการขนส่งทางน้ำ ที่ 5 แล้วได้จุดประทัดเพื่อเป็นการขับไล่ แต่ปรากฏว่า น.ต.นิสสรณ์ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ทราบว่าได้เดินทางไปกรุงเทพมหานครก่อนหน้านี้แล้ว การประท้วงอยู่นานประมาณ 2 ชั่วโมง
ต่อจากนั้น นางนฤมล ขรภถูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนองได้เป็นตัวแทนมอบหนังสือให้แก่ทาง นายณรงค์ รักร้อย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนอง เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดระนองเดินทางมารับเพื่อส่งมอบหนังสือต่อไปให้แก่อธิบดีกรมเจ้าท่า ให้ย้าย น.ต.นิสรณ์ เกตุวงษ์วิจารณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระนองออกนอกพื้นที่
นายทวี บุญยิ่ง อดีตนายกสมาคมประมงกล่าวว่า เนื่องจาก น.ต.นิสรณ์ เกตุวงษ์วิจารณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระนอง ให้ไปพบเพื่อปรึกษาหารือ แต่มีนัยต่างๆ แฝงไว้ โดยกลั่นแกล้งไม่สามารถต่อสัญญาแพปลาได้ อ้างเรื่องความปลอดภัยบ้าง เรื่องข้อกฎหมายต่างๆ บ้าง ซึ่งปัญหาดังกล่าวต้องมาร่วมพูดคุยกันถึงปัญหา และหาทางช่วยเหลือ แต่กลับมาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทางกลุ่มผู้ประกอบจึงยอมไม่ได้ อยากจะสะท้อนให้สังคมได้เห็นว่า หากจะมาอยู่ในพื้นที่ ไม่ได้มาเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข หรือมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในจังหวัดระนอง ก็ไม่อยากให้ท่านอยู่ในจังหวัดระนอง จังหวัดระนองเป็นจังหวัดเล็กๆ อยากได้ข้าราชการที่ต้องการมาร่วมพัฒนาจังหวัดร่วมกัน เข้ามาอยู่ร่วมกันทำงานและบูรณาการร่วมกันกับภาคเอกชนได้
นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาชิก และผู้ประกอบการหลายรายใน จ.ระนอง ว่า ถูกเรียกรับเงิน รวมถึงล่าสุดทางเจ้าท่าระนองได้มีคำสั่งระงับการใช้ท่าเรืออเนกประสงค์ระนอง เพื่อการขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง เพียงเพราะไม่มีป้ายจราจร และป้ายเตือนบางป้าย ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ก็เคยมีการใช้ท่าเรือนี้ในการขนถ่ายน้ำมาโดยตลอด ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ประกอบการที่ต้องเสียค่าปรับมากกว่าแสนบาท รวมถึงเรือประมงฝั่งพม่าที่รอน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ก็ไม่มีน้ำมันในการทำกิจการประมงด้วย