ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วานนี้ (27 ธ.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสด
ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 2554 ทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาลใช้เวลาแก้ปัญหามาตลอด 12
เดือนเต็มว่า กรณีที่รัฐบาลอนุมัติเงินเยียวยาน้ำท่วมให้แก่จังหวัดต่างๆ ดำเนินการจบแล้วใช่หรือไม่ และในพื้นที่กรุงเทพ
มหานคร ที่สภากรุงเทพมหานคร พยายามที่อนุมัติเงินเยียวยาให้กับพี่น้องกรุงเทพฯ ยังมีหลายพื้นที่มีหลายพื้นที่ในกรุงเทพ
มหานคร กรณีที่อนุมัติเงินเยียวยา มีกระแสข่าวหลายครั้ง ที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ขอยื่นญัตติเข้าไปในสภากรุงเทพ
มหานคร เพื่อของอนุมัติเงินอยู่หลายครั้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชน สรุปว่าเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ เป็น
ของกทม. หรือของรัฐบาล ทั้งนี้ในบางพื้นที่ของกทม.บ้านติดกัน เสียหายเหมือนกัน แต่ได้รับการเยียวยาไม่เท่ากัน หรือมีการ
แอบอ้างชื่อไปรับเงิน จึงเกิดเป็นคำถามว่า กทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจจริงหรือไม่ จึงมีปัญหาการร้องเรียนมาแทบทุกเขต
ว่าไม่ได้รับเงิน พอถามทางกทม.ก็บอกว่ารัฐบาลยังไม่อนุมัติเงินมา และเงินงวดสุดท้าย จำนวน1,142 ล้าน สรุปเป็นเงินของ
ใครที่กทม.นำมาจ่ายเยียวยา
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ชี้แจงว่า การเยียวยาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม.
คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติเงินงวดสุดท้ายให้กทม.ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนการจ่ายเงินเยียวก็เป็นหน้าที่ของกทม. ที่ต้อง
ดำเนินการ เหตุการณ์ที่แอบอ้างชื่อไปรับเงินตามเขตต่างๆ เกิดขึ้นจริง เพราะกทม. ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริง เป็นการจ่าย
เงินแบบไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ก็อาจเป็นเหตุทำให้เงินเยียวยาไม่เพียงพอสำหรับคนที่ต้อวงการเงินเยียวยาอย่างแท้จริง
กทม. ต้องรอบคอบและรัดกุม ต้องพูดความจริงว่า เอาเงินไปใช้อย่างไรบ้าง ก็ต้องให้สภากทม. ต้องชี้แจงในประเด็นนี้ด้วย
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า เงินเยียวยาที่ครม.อนุมัติให้กทม.ให้กทม.แล้ว ประชาชนสามารถไปขึ้นเงินได้เลยหรือไม่
หรือที่แจ้งเลขบัญชีไว้กับธนาคารกรุงไทย จะมีกำหนดเวลารับเงินอย่างไร และหากประชาชนมารับเงินไม่ทันตามกำหนด
เวลาจะต้องทำอย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ ที่รัฐบาลพร้อมที่จะโอนเงินเยียวยาไปที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
เพิ่อให้ไปดำเนินการต่อ และประเด็นต่อเนื่องเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รัฐบาลมีแผนการดูแลทางผ่านของน้ำ หรือแม้แต่
การลอกท่อใครเป็นคนทำกทม.หรือกรมราชทัณฑ์
นายสุรพงษ์ ชี้แจงว่า รัฐบาลอนุมัติเงินให้กทม.เยียวยาน้ำท่วมงวดสุดท้ายจำนวน 1,142 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20
ธันวาคม สำหรับเยียวยาให้ประชาชนจำนวนในรอบที่ 2 จำนวน 47,522 ราย และเป็นกรณีค้างสำรวจอีก 128,517 ราย สรุป
เงินที่รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาประชาชนในกทม.ไปแล้ว จำนวน 3,108 บาท และกทม.ต้องรีบเร่งดำเนินการจ่ายเงินเยียวยา ซึ่ง
รัฐบาลควรคงต้องกำชับให้กทม.ดำเนินการโดยเร่งด่วน ไม่ควรนำเงินไปแช่ไว้ และรัฐบาลจะได้ติดตามและนำมาแถลงให้
ประชาชนทราบต่อไป ว่ากทม.ดำเนินการล่าช้าเพราะเหตุใด
ส่วนเรื่องเงินเยียวที่ให้รับภายในวันที่ 31 ธันวาคม หากประชาชนมารับแคชเชียร์เช็คไม่ทัน ทางกทม.ก็จะโอน
เงินคืนมาที่ปภ. ซึ่งต้องมีการขยายเวลาแน่นอน ซึ่งอยากเสนอให้กทม. ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ
ข้อมูลและมารับเงินได้ทัน ส่วนกรณีแผนจัดการน้ำท่วม รัฐบาลก็เจ้าไปก้าวก่ายการทำงานของกทม.มากไม่ได้ ครม.ก็ทราบ
ปัญหาตรงนี่้ และจะต้องกำชับให้กทม.เร่งดำเนินการ รัฐบาลก็อยากให้ประชาชนช่วยตรวจสอบผู้บริหารของกทม.ด้วย เรื่อง
การลอกท่อรัฐบาลและกรมราชทัณฑ์ก็ให้การกทม.สนับสนุน ส่วนการลอกคูคลองก็มีปัญหาเรื่องสิ่งก่อสร้างที่กีดขวาง
รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งดูดาย และอยากขอร้องให้กทม.ช่วยชี้แจงให้ประชาชนทราบด้วย
ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 2554 ทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาลใช้เวลาแก้ปัญหามาตลอด 12
เดือนเต็มว่า กรณีที่รัฐบาลอนุมัติเงินเยียวยาน้ำท่วมให้แก่จังหวัดต่างๆ ดำเนินการจบแล้วใช่หรือไม่ และในพื้นที่กรุงเทพ
มหานคร ที่สภากรุงเทพมหานคร พยายามที่อนุมัติเงินเยียวยาให้กับพี่น้องกรุงเทพฯ ยังมีหลายพื้นที่มีหลายพื้นที่ในกรุงเทพ
มหานคร กรณีที่อนุมัติเงินเยียวยา มีกระแสข่าวหลายครั้ง ที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ขอยื่นญัตติเข้าไปในสภากรุงเทพ
มหานคร เพื่อของอนุมัติเงินอยู่หลายครั้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชน สรุปว่าเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ เป็น
ของกทม. หรือของรัฐบาล ทั้งนี้ในบางพื้นที่ของกทม.บ้านติดกัน เสียหายเหมือนกัน แต่ได้รับการเยียวยาไม่เท่ากัน หรือมีการ
แอบอ้างชื่อไปรับเงิน จึงเกิดเป็นคำถามว่า กทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจจริงหรือไม่ จึงมีปัญหาการร้องเรียนมาแทบทุกเขต
ว่าไม่ได้รับเงิน พอถามทางกทม.ก็บอกว่ารัฐบาลยังไม่อนุมัติเงินมา และเงินงวดสุดท้าย จำนวน1,142 ล้าน สรุปเป็นเงินของ
ใครที่กทม.นำมาจ่ายเยียวยา
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ชี้แจงว่า การเยียวยาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม.
คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติเงินงวดสุดท้ายให้กทม.ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนการจ่ายเงินเยียวก็เป็นหน้าที่ของกทม. ที่ต้อง
ดำเนินการ เหตุการณ์ที่แอบอ้างชื่อไปรับเงินตามเขตต่างๆ เกิดขึ้นจริง เพราะกทม. ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริง เป็นการจ่าย
เงินแบบไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ก็อาจเป็นเหตุทำให้เงินเยียวยาไม่เพียงพอสำหรับคนที่ต้อวงการเงินเยียวยาอย่างแท้จริง
กทม. ต้องรอบคอบและรัดกุม ต้องพูดความจริงว่า เอาเงินไปใช้อย่างไรบ้าง ก็ต้องให้สภากทม. ต้องชี้แจงในประเด็นนี้ด้วย
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า เงินเยียวยาที่ครม.อนุมัติให้กทม.ให้กทม.แล้ว ประชาชนสามารถไปขึ้นเงินได้เลยหรือไม่
หรือที่แจ้งเลขบัญชีไว้กับธนาคารกรุงไทย จะมีกำหนดเวลารับเงินอย่างไร และหากประชาชนมารับเงินไม่ทันตามกำหนด
เวลาจะต้องทำอย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ ที่รัฐบาลพร้อมที่จะโอนเงินเยียวยาไปที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
เพิ่อให้ไปดำเนินการต่อ และประเด็นต่อเนื่องเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รัฐบาลมีแผนการดูแลทางผ่านของน้ำ หรือแม้แต่
การลอกท่อใครเป็นคนทำกทม.หรือกรมราชทัณฑ์
นายสุรพงษ์ ชี้แจงว่า รัฐบาลอนุมัติเงินให้กทม.เยียวยาน้ำท่วมงวดสุดท้ายจำนวน 1,142 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20
ธันวาคม สำหรับเยียวยาให้ประชาชนจำนวนในรอบที่ 2 จำนวน 47,522 ราย และเป็นกรณีค้างสำรวจอีก 128,517 ราย สรุป
เงินที่รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาประชาชนในกทม.ไปแล้ว จำนวน 3,108 บาท และกทม.ต้องรีบเร่งดำเนินการจ่ายเงินเยียวยา ซึ่ง
รัฐบาลควรคงต้องกำชับให้กทม.ดำเนินการโดยเร่งด่วน ไม่ควรนำเงินไปแช่ไว้ และรัฐบาลจะได้ติดตามและนำมาแถลงให้
ประชาชนทราบต่อไป ว่ากทม.ดำเนินการล่าช้าเพราะเหตุใด
ส่วนเรื่องเงินเยียวที่ให้รับภายในวันที่ 31 ธันวาคม หากประชาชนมารับแคชเชียร์เช็คไม่ทัน ทางกทม.ก็จะโอน
เงินคืนมาที่ปภ. ซึ่งต้องมีการขยายเวลาแน่นอน ซึ่งอยากเสนอให้กทม. ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ
ข้อมูลและมารับเงินได้ทัน ส่วนกรณีแผนจัดการน้ำท่วม รัฐบาลก็เจ้าไปก้าวก่ายการทำงานของกทม.มากไม่ได้ ครม.ก็ทราบ
ปัญหาตรงนี่้ และจะต้องกำชับให้กทม.เร่งดำเนินการ รัฐบาลก็อยากให้ประชาชนช่วยตรวจสอบผู้บริหารของกทม.ด้วย เรื่อง
การลอกท่อรัฐบาลและกรมราชทัณฑ์ก็ให้การกทม.สนับสนุน ส่วนการลอกคูคลองก็มีปัญหาเรื่องสิ่งก่อสร้างที่กีดขวาง
รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งดูดาย และอยากขอร้องให้กทม.ช่วยชี้แจงให้ประชาชนทราบด้วย