เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทยเดือด “พงศพัศ” ชน “สุดารัตน์”

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ฝุ่นตลบไม่ใช่เล่นเหมือนกัน สำหรับการเฟ้นหาคนเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย เพื่อลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะดูกลายๆ ก็ดูเหมือนจะเป็นการงัดข้อ แอบสำแดงพลังกันระหว่าง พล.ต.อ.พงศพัศ พงศเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กับนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ สมาชิกบ้านเลขที่ 111

ทั้งนี้ หากจะว่าไปแล้ว ชื่อที่มาแรงแซงทางโค้งที่สุดของฝั่งพรรคเพื่อไทยยังเป็น พล.ต.อ.พงศพัศ ซึ่งก็ทำเอากองเชียร์ฝั่งคุณหญิงสุดารัตน์เต้นไปตามๆ กันเลยทีเดียว เพราะต้องการดันให้คุณหญิงสุดารัตน์ลงสนามกลับมารักษาสถานะภายในพรรค ไม่ให้สมาชิกในมุ้งต้องเหี่ยวแห้งไร้ที่พึ่งพิง ในวันที่ กทม. ปีกอื่นๆ กำลังขยายอิทธิพลภายในพรรค เพราะการได้นั่งเป็น ผู้ว่าฯกทม. สามารถบริหารได้ทั้งคนและงบประมาณ อย่างเป็นเอกเทศคล้ายมีอาณาจักรเป็นของตัวเองและบริวาร จึงไม่น่าแปลกที่จะเห็นถึงการเคลื่อนไหวทั้งจากกลุ่มส.ส., ส.ก.-ส.ข.ที่ต่างดาหน้าออกมาสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์

หัวหอกเบอร์หนึ่ง อย่าง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ถึงกับออกมาเบรกเกมเลยว่า ล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ให้การตอบรับและพร้อมแล้วที่จะลงสมัคร ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์มีความเหมาะสมและเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการบริหาร เนื่องจากเคยเป็นผู้แทนหลายสมัย และพอจะรับทราบถึงปัญหาของกรุงเทพมหานครได้ โดยหากส่งคุณหญิงสุดารัตน์ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ตนมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก

หรือจะเป็น น.อ.ศิธา ทิวารี คนสนิทคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องว่าคุณหญิงตัดสินใจลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.แล้ว จึงต้องขอเช็คข่าวก่อน แต่ส่วนตัวยังเห็นว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตามคุณหญิงสุดารัตน์เองก็ไม่เคยยืนยันว่าจะไม่ลงชิงผู้ว่าฯ กทม.อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงต้องขอตรวจสอบข่าวให้ชัดเจนเสียก่อน

ไม่เว้นแต่ ฝ่ายส.ก.-ส.ข. ก็ประกาศหนุนสุดตัวเช่นกัน โดยกลุ่มเสื้อแดง กทม.กว่า 30 คนเดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อเตรียมยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค เพื่อไทยเรียกร้องให้ทางพรรคส่งคุณหญิงสุดารัตน์ ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.

หรือจะเป็นข่าวหนาหูที่ว่า รายงานข่าวจากกลุ่ม กทม.พรรคเพื่อไทย เผยว่าแม้ขณะนี้ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยวางตัวให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นตัวแทนพรรคในการลงสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.แน่นอนแล้ว แต่ยังมีความเคลื่อนไหวจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แกนนำกลุ่ม กทม. เพิ่งตัดสินใจขอเป็นแคนดิเดตในนามพรรคเพื่อไทยด้วย พร้อมกับจะเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศฮ่องกง ที่จะมาบรรยายในงานสัมมนางานในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ แต่ภาค กทม.หลายคนมองว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของคุณหญิงค่อนข้างล่าช้า เพราะทางพรรคได้วางนโยบาย วางบุคคลที่จะลงไว้เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ค่อยปรากฏตัวผ่านสื่อ ไม่ค่อยได้ทำพื้นที่ หากเปลี่ยนตัวกลางคัน จะเป็นอุปสรรคต่อแนวทางหาเสียงแน่นอน

แต่ดูเหมือนว่าแรงกระเพื่อมก็ไม่ได้หมดไปเสียทีเดียวซ้ำร้ายในพรรคเพื่อ ไทย ยังมีเสียงนินทาออกมาทำนองว่า กำลังมีการสร้างอำนาจต่อรองเอาคะแนนในพื้นที่กทม.มาเคลมกันยกใหญ่ ทำนองว่ากลุ่มคุณหญิง มีไม่น้อยกว่า 500,000 คะแนน เพราะอย่างน้อยก็มี ส.ก.และสข.อยู่ในมือที่จะช่วยจัดการได้ ฉะนั้นหากพรรคสนับสนุนให้ลงสมัครผู้ว่าฯกทม.รอบนี้ โอกาสชัยชนะมีสูง

ว่ากันว่ากลับมีการพูดกันหนาหูว่าหลังวันที่ 10 ธ.ค.นี้ จะมีกลุ่มพี่น้องกทม.จะออกมาเคลื่อนไหวกดดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ให้สนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. แต่จะจริงเท็จอย่างไรไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คุณหญิงสุดารัตน์งานเข้าอีกทาง

อย่างไรก็ตาม ที่เป็นเช่นนี้ก็ว่ากันว่า คุณหญิงหน่อยเอง ก็เจอแรงเสียดทานรอบด้าน ทั้งจากกลุ่มของ เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ พยายามเข้าไปผูกไมตรี ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่า เป็ดเหลิม เกลียดคุณหญิงสุดารัตน์เข้ากระดูกดำกันขนาดไหน

ที่สำคัญที่สุดก็คืองานนี้คนที่มีบทบาทและอำนาจในการเคาะที่จะหยิบใครให้เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.อยู่ที่ นายหญิงแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่กำลังจะย้ายไปสร้างคฤหาสน์แถวย่านวัชรพล ซึ่งหากดูตามสายอำนาจแล้วก็ไม่ได้กินเส้นกะหญิงอ้อ เสียเท่าไหร่ด้วยซ้ำ

ด้วยเหตุนี้กระมังจึงทำให้เวลานี้ ชื่อ “จูดี้-พล.ต.อ.พงศพัศ” จึงได้รับไฟเขียวจากทั้งหญิงอ้อ นช.ทักษิณ เพื่อให้มารับศึกสำคัญครั้งนี้

กล่าวสำหรับจุดแข็งของ พล.ต.อ.พงศพัศ นอกจาก นช.ทักษิณและหญิงอ้อ ไว้วางใจและให้ความเห็นชอบแล้ว เห็นว่าพล.ต.ท.พงศ์พัศ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของประชาชน มีผลงานด้านสังคมและการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งพรรคจะชูจุดนี้เป็นจุดขาย สอดรับกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยและเตรียมจะออกนโยบายใหม่เพื่อชาวกทม.มาโดยเฉพาะ โดยจะมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาจราจร ด้านสังคม และปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นจุดแข็งของพล.ต.อ.พงศพัศ

ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ แม้ขณะนี้จะยังมีตำแหน่งสำคัญอีก2ตำแหน่งคือ รองผบ.ตร.และเลขาธิการปปส. คาดว่าจะให้พล.ต.อ.พงศพัศ ลาออกจากทั้งสองตำแหน่ง โดยมีสัญญาใจเบื้องต้นกับแกนนำพรรคว่า หากพลาดหวังในสนามเลือกตั้งผู้ว่ากทม.จริง ผู้ใหญ่ในพรรคก็จะผลักดันให้ไปอยู่ในตำแหน่งเดิมหรือไม่ก็มอบตำแหน่งบอร์ดสำคัญในองค์กรรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐให้เป็นการทดแทน นอกจากนี้พรรคเตรียมติดตั้งบิลบอร์ดขนาดใหญ่กว่า 200 จุดทั่วกทม. พร้อมกับเตรียมสติ๊กเกอร์ กระจายไปให้ส.ส. สก. และสข.ของพรรค เตรียมลงพื้นที่ช่วยเหลือพล.ต.อ.พงศพัศ อีกทางหนึ่งไว้แล้ว โดยม็อตโต้สำคัญที่พรรคจะใช้ในการหาเสียงครั้งนี้คือ รัฐบาลเพื่อไทย พร้อมรับใช้คนกทม.

ทั้งนี้ สเปก ผู้สมัครชิงผู้ว่าฯกทม.ที่ นายหญิงและเครือญาติวางไว้เหตุผลสำคัญ ยิ่งไปกว่านี้ขณะนี้ยังมีการฟอร์มทีมรองผู้ว่าฯกทม. โดยมีการทาบทามอดีตผู้สมัครผู้ว่า ฯกทม.เข้ามารวมศูนย์กันยกใหญ่เลยทีเดียว

แต่ยังไม่เริ่มทันไร พล.ต.อ.พงศพัศ พงษเจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ก็เจอตอเสียแล้วในกรณี ที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบป้ายประชาสัมพันธ์ของสำนักงาน ป.ป.ส. เกี่ยวกับโครงการ “ชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน” ปฎิบัติการปิดล้อม x-ray เชิงรุก 90 วัน โดยมีภาพตนเองกับนายกรัฐมนตรี ในงานวันเปิดบ้านอุ่นใจที่ชุมชนคลองเตย เรียกว่าต้องต่อสู้ทั้งภายในพรรคและพรรคตรงข้ามเลยทีเดียว

ขณะเดียวกันข้ามฟากไปฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเป็นที่แน่นอนว่าบุคคลที่ ปชป.เตรียมส่งลงเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน โดยวงในของพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ว่า แม้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์จะยังมีปัญหาเรื่องการสื่อสารต่อสาธารณชนอยู่บ้าง แต่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่านายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้า ปชป.ภาค กทม.ที่เริ่มออกอาการลังเล หลังเกิดปัญหากรณีเลือกตั้งประธานสภา กทม.ที่แสดงให้เห็นว่า นายกรณ์ไม่สามารถควบคุม ส.ก.และ ส.ข.ของ ปชป.ให้เป็นเอกภาพได้

ทั้งนี้ การเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของ ปชป.อาจจะเลื่อนเป็นช่วงปลายเดือน ธ.ค.2556 เนื่องจากต้องการให้พรรคเพื่อไทย (พท.) คู่แข่งขันสำคัญในสนาม กทม.เปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ก่อน ทั้งนี้ แกนนำ ปชป.ได้ประเมินกันเป็นการภายในว่า ไม่ว่า พท.จะส่งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง หรือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็มีโอกาสชนะ ด้วยกระแสความนิยม ปชป.ในหมู่คน กทม.ยังเหนียวแน่น และลักษณะการลงคะแนนของคนเมืองหลวง ที่นิยมเลือกผู้สมัครจากพรรคฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลเพื่อมาคานอำนาจ

กล่าวถึง การสู้ศึกครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องบอกว่าดูเป็นต่อ เพื่อไทยอยู่เช่นกัน เพราะมีฐานเสียงเหนียวแน่นในพื้นที่ โดยเฉพาะโครงข่าย สก. สข. ที่ยังเข้มแข็ง จนผูกขาดตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. มาตั้งแต่ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” สมัยแรก

ทั้งนี้ ในความมุ่งหมายของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องเน้นหนักเอามากๆด้วยเช่นกัน เพราะกทม. ถือเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของพรรค หากพลาดพลั้งเสียแชมป์ให้พรรคเพื่อไทย ย่อมกระทบต่อพื้นที่มั่นจนยากจะยืนหยัดระยะยาวในสนามการเมือง

สำหรับประชาธิปัตย์หากไม่มีอะไรผิดพลาด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร น่าจะได้รับโอกาสให้รักษาแชมป์ต่ออีกสมัย โดยตามขั้นตอนต้องรอข้อมูลความเห็นจากสาขาพรรค กทม. ทั้งหมด ก่อนที่จะมีการประชุมกรรมการคัดเลือกและกรรมการบริหารต่อไป

สำหรับจุดเด่นของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ น่าจะอยู่ที่ได้เปรียบตรงความต่อเนื่องในการทำงานสานต่อภารกิจที่คั่งค้างใน 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งก็อาจนำไปเป็นจุดขายของนโยบายได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามกว่าจะไปถึงวันเลือกตั้งดูแล้วแต่ละฝ่ายคงจะหาประเด็นการเมืองมาดิสเครดิตตัดขากันไม่น้อยทีเดียว อาทิ เรื่องปัญหาน้ำท่วมครั้งที่แล้ว ที่โดนถล่มเรื่องที่ปล่อยให้พื้นที่ กทม. ในบางส่วนต้องจมน้ำ และปัญหาเรื่องถุงทรายในครั้งนี้ที่เพื่อไทยนำมาขยายผลต่อเนื่อง

นอกจากนั้น พรรคเพื่อไทยยังถล่มเรื่องที่ กทม. มอบหมายให้ บริษัท กรุงเทพธนาคม ในฐานะวิสาหกิจ กทม. จ้างบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพเดินรถไฟฟ้าเป็นเวลา 30 ปี ซึ่งเพื่อไทยยื่นเรื่องร้องต่อดีเอสไอ และ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิด รวมทั้งเรื่องล่าสุด อย่างการก่อสร้างสนามฟุตซอลที่ล่าช้าและกลายเป็นปัญหา จนสุดท้ายทางฟีฟ่าไม่ประกาศรับรองให้เป็นสนามแข่ง

และกว่าจะถึงวันนั้นอาจจะได้เห็นสงครามการเมืองในศึกแย่งชิงผู้ว่า กทม.หนักกว่านี้อีกหลายประเด็นทีเดียว